บันเทิง

Home บันเทิง Page 109

‘ทูน หิรัญทรัพย์’ อดีตพระเอกดังในวัย 69 ปี เป็นแบบนี้แล้ว

เชื่อว่าหลายๆ คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี สำหรับ “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตพระเอกขวัญใจหลายๆ ท่าน เริ่มมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่องแก้วตาพี่ หลังจากนั้นก็มีผลงานทางจอเงินออกมาหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มีผลงานกับนางเอกคู่ขวัญอย่าง “เปิ้ล จารุณี สุขสวัสดิ์” ต่อมาได้ผันตัวไปเล่นละครโทรทัศน์โดยรับบทพระเอก และโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาเป็นระยะเวลายาวนาน จนกระทั่งได้รับบทพ่อ ซึ่งล่าสุด พระเอกรุ่นใหญ่ในตำนาน “ทูน หิรัญทรัพย์” ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษของรายการ Club Friday Show พร้อมลูกสาวคนสวยที่ไม่ค่อยออกสื่อ แต่มาออกในรายการนี้เพราะเป็นที่เดียวที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยที่จะเล่า อุ่นใจที่จะบอก โดยเจ้าตัวเผยตัวเองและอดีตภรรยาต่างพยายามรักษาสถานะครอบครัวเพื่อลูกมาตลอดเกือบ 39 ปีอัปเดตดวงตาของพี่หน่อย ทีมงานบอกว่า ข้างซ้ายมองไม่เห็นเกือบ 100% ?

ทูน : “ใช่ครับ มันเริ่มจากข้างขวามันมืดไปแล้วนะครับ ซึ่งเหลือแต่ข้างซ้ายซึ่งมันข้ามมาได้ ข้างซ้ายมันก็รักษาไว้ แต่หมอบอกว่ามันเหลือแค่ประมาณ 30% เอง”

ตอนนี้ข้างไหนชัดกว่ากัน?

ทูน : “ข้างซ้ายครับที่เห็นได้ แต่ข้างนี้ไม่เห็นแล้ว”

มันมืดเลยเหรอพี่?

ทูน : “เวลาคุยกับใครก็อย่าหยิ่งครับ ต้องหัน”

เมื่อกี้เจอข้างล่างดูไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติเลย?

ทูน : “เวลามันผ่านไปนานแล้วเป็นปีละ เราก็ชินกับมัน แล้วการที่จะเห็นอะไรต่างๆ มันก็กลับมาปกติ แต่ว่าขับรถไม่ได้เท่านั้นเองที่ไม่ปกติ มันอันตรายคนอื่น ไม่ใช่อันตรายเรา”

หมอบอกว่ารักษาได้ไหม?

ทูน : “รักษาได้ครับ แต่ต้องรอให้สเต็มเซลล์มันเข้าสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ถ้าตัดนิ้ว หูหาย เขาใช้สเต็มเซลล์ปลูกได้ แต่ว่าตามันละเอียดอ่อนเลยไม่ได้ครับ”

ถ้าจำไม่ผิดพี่เพิ่งไปผ่าตัดตามา?

ทูน : “ผ่าตานี่หมายถึงเราเปลี่ยนกระจกตาครับเมื่อปีที่แล้วนี่เอง”

แล้วมันดีขึ้นไหม?

ทูน : “ก็ดีขึ้น คือมันเสื่อมหมอเลยบอกว่าเปลี่ยนเถอะ อะไหล่ยังมีอยู่ก็เลยเปลี่ยนให้”

รักษาตัวนานไหม?

ทูน : “ไม่นานครับ ไปวันนี้พักคืนนึง ตอนเช้าทำเรื่องผ่าตัดอะไรเรียบร้อย ไม่ถึง 40 นาทีเราก็ออกมาแล้วครับ ที่ตกใจคืออายุขนาดนี้ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตแบบแอคทีฟไม่น่าจะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบเป็น 3 เส้นด้วย หมอบอกเอา 2 เส้นก่อน ก็เลยไปทำบอลลูน พอมันตีบปั๊บมันเหมือนกับหลอดน้ำ เลือดไม่ไป มีอาการปวด นู่น นี่ ก็เลยไปหาหมอ หมอเขาฉีดสี ก็เลยรู้ว่ามันไปตันอยู่ตรงนั้น”

น้องน้ำตาลให้กำลังใจคุณพ่อยังไง?

น้ำตาล : “ถ้าคุณพ่อไปผ่าตัดเราก็ไปนอนเฝ้า พอพ่อกลับมาพักฟื้นเราก็ผลัดกันไปนอนเฝ้า แล้วก็ช่วยกันเตือนคุณพ่อทานยาแล้วก็หยอดตา”

ทูน : “เตือนแต่ไม่รู้จะฟังไหม”

ครั้งที่แล้วที่พี่มา พี่เล่าให้ฟังว่า เพราะปัญหาสุขภาพทำให้คิดฆ่าตัวตาย นั่นคือเรื่องผ่านมานานแล้วใช่ไหม?

ทูน : “ใช่ครับ”

น้ำตาลรู้เรื่องนี้ไหม?

น้ำตาล : “ไม่ทราบเลยจนกว่ามีออกข่าว แล้วหนูก็ทราบพร้อมๆ กับทุกคนเลย”

วันที่เราทราบข่าว เราตกใจไหม?

น้ำตาล : “ก็ตกใจ มีไปหาคุณพ่อ 2-3 วันหลังจากนั้น แล้วด้วยความที่เราไม่ค่อยพูดกับคุณพ่อตรงๆ อยู่แล้ว เราก็มีการแอบเขียนจดหมายให้ทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานคุณพ่อ”

ทูน : “ลูกเขาขี้อาย ต้องเขียนจดหมาย เขาบอกว่าเขาเป็นห่วง เขารัก แล้วถ้าวันนึงไม่มีเรา เขาไม่รู้จะรับสภาพตรงนั้นได้ไหม อารมณ์อาจจะเปลี่ยนไป เขาเป็นคนที่คนข้างละเอียดอ่อน พี่อ่านจดหมายแล้วรู้สึกว่าเขาต้องการเรา แล้วไม่ใช่ตัวเขาอย่างเดียว แต่ว่าพี่สาวอีก 2 คนด้วย คือเราไม่ใช่ทีภาระแต่เรามีความรักที่อธิบายไม่ได้”

ถือจดหมายในมือ ลืมไปเลยไหมเรื่องฆ่าตัวตาย?

ทูน : “มันลืมก่อนนั้น เพราะว่าคิดก่อนว่าเราอยากเห็นวันที่ลูกประสบความสำเร็จ รับปริญญาทั้ง 3 คน เราอยากจะอยู่ถึงวันนั้น แล้วก็ถ้าเป็นไปได้เราอยากจะอยู่ถึงวันที่เขาแต่งงาน เราส่งลูกคนโตไปแล้วก็เหลืออีก 2 คน ที่รอดมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะว่าเรามีสติที่จะเตือนเราตลอดเวลาว่ายังมีคนที่รักเราอยู่ โดยเฉพาะเลือดเนื้อของเราเองก็คือลูกๆ นี่แหละ เราก็เลยต้องอยู่เป็นกำลังใจให้เขา”

ตอนที่เราเจอปัญหาหนักๆ ที่เราไม่อยากอยู่แล้ว เคยคิดไหมว่าจะไปปรึกษาลูก?

ทูน : “จริงๆ ไม่ค่อยให้คำปรึกษาลูกได้ ใครคำปรึกษาใครๆ ก็ได้ เพราะว่าเป็นนิสัยที่อยากให้อยู่แล้ว แต่เป็นคนที่ไม่ขออะไรจากใคร หรือไม่อยากได้อะไรจากใคร ไม่ใช่เป็นคนหยิ่งหรืออีโก้ แต่เป็นคนที่มีศักดิ์ศรี”

พี่แก้ปัญหาให้คนทั้งโลกได้ แต่ที่แก้ไม่ได้คือตัวเอง?

ทูน : “ถูกต้องครับ”

ทุกวันนี้เริ่มชินกับการใช้ชีวิตที่มันเกิดปัญหาต่างๆ มา แล้วเราก็ยังต่อสู้ สร้างกำลังใจ เพื่ออยู่กันอย่างมีความสุขต่อไป?

ทูน : “คือบิ๊วตัวเองทุกเช้า ตื่นมามันต้องทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ที่มีคุณค่าให้กับผู้อื่น เราก็เลยคิดว่าเรามีความรักใหม่แล้ว เขาเรียกว่าสร้างค่านิยมใหม่ๆ ให้กับเยาวชน ก็เลยทุ่มเทเวลา 7-8 ปีนี้ให้กับการอบรมเยาวชน อันนั้นคือ 1 เรื่อง พอมันมาวิกฤตโควิด เราก็ไปนู่นเลย เพราะเป็นที่ปรึกษาให้กองทัพเรืออยู่แล้ว เราก็เลยไปช่วยเขาประชาสัมพันธ์เรื่องการดูแลตัวเองในช่วงโควิด”

ที่พี่ทำบอลลูน 3 เส้นที่หัวใจ คือเมื่อไหร่?

ทูน : “ประมาณ 2 ปีแล้วครับ”

ตอนที่เรารู้ว่ามันมีความผิดปกติของร่างกาย ตอนนั้นความรู้สึกเป็นยังไง?

ทูน : “มันอึดอัดไปหมด เหมือนคนมีอะไรมาทับที่หน้าอก แล้วมันก็หายใจไม่ออกแล้วจะเป็นลม ก็เลยรู้ว่ามันไม่น่าจะดี เผอิญลูกสาวน้ำหวาน มาพอดี เขาถามป๊าเป็นอะไร หน้าซีดแล้ว พาป๊าไปที่โรงพยาบาล พอไปที่โรงพยาบาล ขั้นตอนและกระบวนการของโรงพยาบาลคือ นอนก่อน เดี๋ยวดูอาการ แต่เราขอออกซิเจน หายใจไม่ออก แล้วก็ปวดหน้าอกมาก คือเราเรียกว่าหน้าอกนะ เพราะเราไม่รู้ว่าเป็นหัวใจ เราก็ขอออกซิเจน หมอบอกไม่ได้ เอาถุงมาให้แล้วให้เป่าผ่านในถุงกระดาษ เราก็โมโหหมอ บอกว่าผมจะตายอยู่แล้วให้ผมเป่าอยู่เนี่ย แต่มันเป็นธรรมชาติที่เวลาคนหายใจไม่ออก อย่าให้อ๊อกซิเจนเดี๋ยวมันจะเยอะเกินไป ก็เลยกลายเป็นว่าค่อยๆ หายใจ และค่อยๆ ลดอาการของความเครียดตรงนี้ หมอถามว่าเจ็บตรงไหน เขาก็เห็นว่าตรงนี้ผิดปกติก็เลยต้องเอ็กซ์สเรย์ไปฉีดสี ก็เลยรู้”

ทุกวันนี้ปัญหาเรื่องมองเห็นกับอาการป่วย มันมีผลต่อการทำงานไหม

ทูน : “มันเหมือนกับคนอกหัก ก็จะเศร้าแบบว่าชีวิตนี้ไม่เอาแล้ว แต่พอเราเจอรักใหม่คือแพชชั่น เรามีแรงบันดาลใจ คือการทำให้เรามีค่านิยมใหม่ๆ ขึ้นในสังคม”

พี่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หย่ากับภรรยามา 20 ปี?

ทูน : “ครับ เกือบๆ”

แล้วคนที่พาพี่กับอดีตภรรยาไปหย่าคือลูกๆ?

ทูน : “ลูกๆ ครับ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าพอลูกๆ เห็นเราทะเลาะกันบ่อยๆ เขาก็เลยบอกว่าถ้าไม่มีความสุขเราควรจะแยกกันอยู่ ถ้าเห็นหน้ากันทุกวันอาจจะมีเรื่อง มีราว เราก็ซอฟๆ ลงมา โอเคเราไปอยู่ที่ออฟฟิศ กลายเป็นว่าข้างล่างทำงาน ข้างบนเป็นที่พักอาศัย เราก็ได้อรรถรสของชีวิตอีกแบบ ก็คือว่ามีอิสระภาพมากขึ้นในการทำงาน แล้วเราเป็นคนที่ทุ่มเท”

อย่างนี้ลูกๆ อยู่กับคุณพ่อ คุณแม่วันไหนบ้าง?

น้ำตาล : “ตอนมัธยมน้ำตาลจะอยู่โรงเรียนประจำ เสาร์-อาทิตย์ บางทีจะสลับไปอยู่กับคุณพ่อบ้าง คุณแม่บ้าง”

ทูน : “ลูกๆ ก็หมุนเวียนกันมาอยู่ ลูกสาวคนโตมาอยู่อาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าคนเล็ก บางทีก็มาพร้อมกัน 3 คน แล้วพ่อต้องนอนที่พื้น เตียงมันไม่พอ”

ทุกวันนี้เราเจอการหย่าร้างในครอบครัวเยอะมาก แล้วมันก็มีคำพูดว่าเด็กส่วนใหญ่จะมีปัญหาจากการที่พ่อแม่หย่ากัน แต่ครอบครัวนี้ดูเหมือนไม่มีปัญหา พี่จัดการกับเด็กยังไง?

ทูน : “เขาเรียกกระบวนการความคิด ถ้าสมมติมนุษย์ 2 คน ไม่สามารถที่จะร่วมชีวิตกันได้ อันแรกเลยต้องยอมรับก่อนว่ามันเป็นไปไม่ได้”

แต่การยอมรับเนี่ย บางทีมันทำให้เด็กที่ไม่เข้าใจปัญหาของผู้ใหญ่ จะยอมรับยังไง?

ทูน : “อันแรกคือบุคคลก่อน แล้วเมื่อมีการยอมรับและตกลงกันได้ เราถึงจะไปเอาผลที่เราสรุปเนี่ยมาบอกลูก ซึ่งบอกลูกก็เหมือนกันครับ กระบวนการมันมีอย่างนี้ 1.ความจริงมันมีอย่างนี้นะลูก ต้องยอมรับแล้ว มันไปไม่ได้ 2.เมื่อยอมรับเสร็จแล้วเนี่ย เราก็เลือกที่จะปฏิบัติได้ ก็คือตกลงมันเป็นอย่างนี้ นี่คือธรรมชาติ นี่คือชีวิต เราจะดำเนินยังไงต่อ เราก็จะเดินไปในฐานะลูก ในฐานะภรรยา ในฐานะสามี ในฐานะพี่น้อง มันก็ปรับตัว มันจะมี 2 อย่าง คือรับรู้แล้วยอมรับ แค่นั้นแหละครับ”

คนโตอายุเท่าไหร่แล้วพี่?

ทูน : “คนโต 37-38 ครับ คนโตคือน้ำฝน แต่งงานมีลูกแล้ว คนกลางก็อายุประมาณ 35-36 แล้วครับ แล้วน้ำตาลมาทีหลัง อายุ 26”

เห็นบอกว่าลูกสาวคนที่ห่วงที่สุดคือน้องน้ำตาล?

ทูน : “ครับ ที่เป็นห่วงเพราะว่าแต่ละยุค แต่ละสมัยนี่ เราเลี้ยงลูก น้ำฝนกับน้ำหวานในยุคนึง ซึ่งอายุเขาใกล้เคียงกัน มันเลี้ยงอีกแบบนึงได้ ประมาณว่าคุยเป็นเพื่อนกับลูกได้ แต่พอมายุคให้หลัง 10 กว่าปีเนี่ยก็ต้องเลี้ยงอีกแบบ เพราะว่าเด็กเจนนี้แบบ ข้าเก่ง ข้าเลิศ ข้าอยู่ได้คนเดียว เขามีความมั่นใจสูง”

น้ำตาล : “ก็ไม่ค่อยมั่นใจนะคะ แต่ก็พอไหวอยู่”

อันนี้เป็นห่วงหรือเป็นหวง?

ทูน : “ทั้งคู่ครับ”

น้ำตาล : “น่าจะหวงหนักกว่า”

ตอนมีน้ำตาลเรียกว่าลูกหลงก็ได้ พอคุณแม่ไปตรวจครรภ์ คุณหมอบอกว่าอาจจะมีความผิดปกติ คุณหมออยากให้เอาออก แต่คุณพ่อ คุณแม่ ไม่เอาออก เป็นลูกเขาแล้วยังไงเขาก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด น้ำตาลได้รู้เรื่องนี้ไหม?

น้ำตาล : “พอทราบมานิดหน่อย ก็ดีใจ อย่างน้อยคุณพ่อ คุณแม่ก็ให้โอกาสมาเกิด แต่ว่านี่ก็ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ก็เป็นคนติ๊งต๊องเฉยๆ ไม่มีอะไร”

หมอบอกว่ามีความเสี่ยงสูง ทำไมเราถึงเอาไว้?

ทูน : “ตอนแรกที่ฟังคุณหมอก็อยากจะลุกเลย คุณหมอพูดแบบนี้ได้ยังไง คือชีวิตนึงที่เกิดมาอาจจะเป็นวุ้นอยู่ แต่ว่าเขาอยากมาเกิดแล้วอยู่ในครอบครัวของเรา ทำไมเราไม่ให้โอกาสเขา แล้วเรายอมรับว่าคุณหมอพูดจริง แต่คุณหมอไม่น่าพูดตรงๆ อ้อมๆ บ้างก็ได้ ออกมาอาจจะพิการ อาจจะออทิสติก ผมบอกคุณหมอ ผมสรุปง่ายๆ เลย เขาอยากมาเกิด ผมอยากมีลูก ก็ขอให้เขามาแล้วกัน เขาจะมาในสภาพไหน ผมก็จะรับ”

น้ำตาลสวยๆ แบบนี้ไม่คิดอยากเข้าวงการเหมือนคุณพ่อบ้างเหรอ?

น้ำตาล : “เห็นคุณพ่อทำงานในวงการมาตั้งแต่เด็ก เราก็คอยไปเฝ้าเขาที่กองถ่าย ไม่ค่อยอยากเข้า เพราะเข้าใจว่า ก็เหนื่อย ต้องไปรอคิวจนถึงเช้า จะถ่ายเมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ”

ที่ไม่อยากเข้า เพราะไม่อยากเป็นคนบ้างานเหมือนคุณพ่อหรือเปล่า?

น้ำตาล : “ด้วยค่ะ คือเข้าใจมากกว่าว่ามันเป็นงานที่ต้องเจอหลายๆ คาแรคเตอร์ ต้องดีลกับหลายๆ อย่าง ไม่ใช่งานที่ง่าย อย่างที่ใครๆ เขาเข้าใจกัน”

บ้างานขนาดวันเกิดลูกก็ไม่ไป คิดถ่ายละคร อันนี้จริงไหม?

ทูน : “อันที่ 1.มันเกิดทุกปีอยู่แล้ว ตอนเด็กๆ เราก็เป่าเค้กให้เขา มีวันพิเศษชวนเพื่อนๆ เขามาเล่นอะไรกันที่บ้าน โดยพื้นฐานตัวเองไม่ค่อยสนใจอะไร สนใจเรื่องเดียว วันนี้จะคิดงาน วันนี้จะวางแผน วันนี้จะออกไปพบปะ ไปอบรมเยาวชน ก็เลยมองว่าเรื่องอย่างนี้ไม่สำคัญ”

เห็นว่ารับปริญญาก็ไม่ไป?

ทูน : “ที่ไม่ไปสำหรับน้ำตาล เขาอยู่ถึงออสเตรเลีย”

น้ำตาล : “ที่ออสเตรเลียหนูไม่ได้มายด์อยู่แล้ว เข้าใจว่ากว่าจะเคลียร์งานเสร็จ กว่าจะไป แต่ว่าหนูรับ 2 ใบนะป๊า”

ทูน : “รู้ลูก เพราะป๊าจ่ายเงินอยู่”

น้ำตาล : “หนูรับที่ไทยด้วย คุณพ่อก็ไม่ได้มา แต่ก็เข้าใจงานที่จุฬาฯ คนเยอะ คุณพ่อมาเดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็อะไร ก็เข้าใจ ไม่ได้น้อยใจ”

ลูก 8-9 ขวบให้เริ่มดื่มเบียร์แล้วเหรอ?

ทูน : “โลกใบนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง เขาจะเจออะไรบ้าง แต่เราก็บอกว่าเห้ย ถ้าเราให้เขาเริ่มต้นจากการมีประสบการณ์ เขาก็จะตัดสินใจเองได้ จะบอกลูกตลอดเวลาว่ามันมีทางเลือกตลอด 8-9 ขวบ อยากดื่มเบียร์ไหมลูก อยากลองๆ เห็นลุงเขาดื่ม เพราะเราเป็นคนไม่ดื่มไง เราก็เลยเอาเบียร์ให้ แต่เป็นเบียร์ดำ มันก็จะขมมาก ก็ให้เขาดื่ม แล้วถามว่าดื่มอีกไหม เขาบอกว่าไม่เอาแล้ว เหม็นๆ โอเคว่าไป”

พี่รักลูกทั้ง 3 คน แต่พี่ดูปล่อยอีก 2 คนมากกว่าปล่อยน้ำตาล?

ทูน : “ประมาณเท่าๆ กันนะครับ แต่วิธีการอบรม วิธีการสอนเขาคือภาคปฏิบัติมากกว่าให้เขามีประสบการณ์และให้เขาตัดสินใจเองว่าเขาทำยังไง”

พ่อเข้มงวดกับเราไหม?

น้ำตาล : “มากที่สุดเลยค่ะ จริงๆ คุณพ่อน่าจะเข้มงวดกับพี่คนโตด้วยนะ พี่คนโตจะมองว่าคุณพ่อปล่อยหนูมากสุด แต่จริงๆ ไม่ค่อย”

สมัยก่อนกลับบ้านกี่โมง?

น้ำตาล : “สมัยก่อนไม่ได้ไปไหนเลย บ้านเพื่อนไปได้ แต่ต้องกลับเร็ว แล้วก็นอนไม่ได้”

จริงหรือไหมที่หวงไม่อยากให้เขาไปไหน ไม่อยากให้เขาเจอผู้คนเลย?

ทูน : “ถ้าเป็นเด็กผู้ชายมันจะซนยังไงเราก็ต้องปล่อย เพราะอยากให้เขามีประสบการณ์ต้องสู้ชีวิต ต้องอยู่ในสังคมได้ แต่ลูกผู้หญิง มันค่อยๆบ่ม ค่อยๆ อบรม ค่อยๆ สอน”

พี่กลัวอะไร?

ทูน : “คือเราคิดว่าเขายังไม่พร้อมมากกว่า”

จริงไหม พ่อห้ามเรามีแฟนจนกว่าจะเรียนจบ?

น้ำตาล : “ไม่จริงค่ะ เพราะคุณพ่อบอกว่าห้ามมีแฟนเลย”

แต่เขาแอบมีแฟน แล้วพ่อก็รู้ด้วย แต่ไม่เคยบอกลูกว่ารู้?

ทูน : “รู้ทุกอย่าง วันที่ส่งตัวที่จุฬาฯ ถึงไปแนะนำ ก็เจอครู เจออะไรต่างๆ แจกนามบัตรผมนะครับ มีอะไรโทรหาผมนะครับ แล้วผมขอเบอร์โทรศัพท์ด้วยนะครับ เผื่อมีอะไร ผมชอบอบรม อ้างไปก่อน แต่จริงๆ โทรไปถาม น้ำตาลเป็นยังไงบ้าง ตั้งใจเรียนไหมครับ โดดเรียนบ้างไหม”

อันนี้น้ำตาลไม่เคยรู้?

น้ำตาล : “ไม่ทราบเลย”

ไม่รู้เหรอ ตอนปี2 อาจารย์ทุกคนในนั้นคือสายลับของพ่อหมด?

น้ำตาล : “น่ากลัวมาก ไม่เคยทราบเลย ถามว่ารู้สึกยังไง ก็คุณพ่อสนใจและใส่ใจหนูดี แต่ถ้าตอนนั้นรู้เราคงระวังตัวขึ้นนิดนึง”

แล้วเขาทำตามสัญญาไหม เขาเรียนจบก่อนไหมถึงมีแฟน?

น้ำตาล : “มีระหว่างเรียนค่ะ คบกันตอนนี้ประมาณ 6 ปี”

คบกัน 4-5 ปีถึงพามารู้จักกับพ่อ วันนี้ยอมรับน้องก้องหรือยัง?

ทูน : “1.เราดูผู้ชาย เราต้องดูว่าเป็นผู้นำให้ลูกเราได้ไหม 2.มีไหวพริบยังไง แก้ไขปัญหาอะไรได้ไหม 3.เป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติลูกเราหรือเปล่า”

กว่าจะรู้คำตอบพวกนี้พี่ต้องสร้างสถานการณ์ ตอนนั้นพี่ทำอะไร?

ทูน : “จัดงานวันเกิดของเราแล้วของลูกด้วย มันก็มีเพื่อนๆ ด้วย ตัวผู้ชายจะยืนห่างๆ เดินรอบๆ สังเกตสิ่งแวดล้อม แล้วก็เจาะแจะกับเพื่อนเขา เพราะตอนเด็กเพื่อนๆ เขาก็มานอนที่บ้านเหมือนกัน เราก็มองๆ พอลูกเห็นป๊าเริ่มคอยาวแล้ว เขาก็ไปตามมาแล้วแนะนำให้รู้จักกัน”

น้ำตาล : “เพื่อนชื่อ ก้อง ค่ะ”

ตอนนั้นเรารู้ไหมว่าเขาเป็นมากกว่าเพื่อน?

ทูน : “แหม่…สัญชาตญาณ รู้ว่าเขาชอบลูกเราแค่นั้น”

เราทราบไหมว่าคุณพ่อจัดงานเพื่อมาดูก้อง?

น้ำตาล : “ไม่ทราบเลย คิดว่าคุณพ่อน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามีแฟน เขาชวนมาคงจะแบบโอเพ่นแล้วนิดนึง ก็เลยชวนมา แต่ว่าพอมาถึงก็เขินๆ กันนิดนึง ก็จะเป็นบรรยากาศที่แบบคนนึงอยู่อีกมุมนึง คนนึงอยู่อีกมุมนึง หลังจากวันนั้นก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาเรื่อยๆ”

เหมือนที่เขาพูดกันว่าผู้ชายเจ้าชู้มักจะหวงลูก เพราะกลัวกรรมตามสนอง?

ทูน : “มันคือข่าวลือ เป็นคนที่เหมือนจะเจ้าชู้แต่เป็นคนที่อัธยาศัยดี มนุษย์สัมพันดี เราเป็นมิตรกับทุกคน เจ้าชู้ไม่ได้อยู่ในสารระบบเรา มันเป็นการที่เราเป็นคนเฟรนด์ลี่”

พี่กำลังคบหาดูใจกับผู้หญิงอยู่ จริงไม่จริง?

ทูน : “จริง”

สาวสวยคนนี้อายุน้อยกว่าพี่ 20 ปีเหรอ?

ทูน : “จริง”

สาวสวยคนนี้อยู่ในวงการบันเทิงด้วย?

ทูน : “ครับ ทั้งในและนอกวงการ”

คนที่คุยอักษรย่อคือตัว k ใช่หรือไม่?

ทูน : “ใช่ครับ ตัว k เป็นชื่อเล่น ถามว่าอยู่ช่องไหน เขาอิสระครับ เป็นฟรีแลนซ์ จะบอกว่าไม่ใช่คนสวยอะไรมาก สวยที่ใจ”

เขาน่ารักยังไง?

ทูน : “เป็นคนที่คุยสนุก เพราะเราเป็นคนที่ทำงาน บางทีก็เครียด เขาก็พยายามคุยกับเราให้ผ่อนคลาย”

พี่เจอเขาที่ไหน?

ทูน : “ในกองถ่าย”

น้ำตาลรู้เรื่องนี้ไหม?

น้ำตาล : “รู้หมดเลยค่ะ”

ทูน : “รู้ได้ยังไง”

น้ำตาล : “หนูก็มีสายสืบของหนู”

แล้วหนูรู้สึกยังไง ป๊าเขามีคนคุยแล้วเขาเบิกบานใจแบบนี้?

น้ำตาล : “เขามีความสุขก็ดี ถ้าไม่ใช่คนที่มีภัยร้ายอะไรก็โอเค”

เรามีโอกาสได้เจอยัง?

น้ำตาล : ยังเลยค่ะ

คนนี้คุยนานหรือยัง?

ทูน : “ประมาณ 4 ปีแล้วครับ แต่ลูกไม่เคยเจอเลย เป็นห่วงความรู้สึกของลูกเขาด้วย เขาอาจจะคิดว่ามีแล้วเดี๋ยวมาแย่งความรักของเขาไปหรือเปล่า”

น้ำตาล : “จริงๆ ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แต่เคยมีอยู่ครั้งนึง คุณพ่อเคยพาคนคุยมาแนะนำ ต้องบอกว่าตอนนั้นน้อยใจ ไม่คุยกับคุณพ่อไปสักพัก แล้วร้องไห้อะไรประมาณนี้ คุณพ่ออาจจะมองว่าประสบการณ์ครั้งนั้นอาจจะไม่ค่อยดี ก็เลยอาจจะไม่กล้าพามา”

อย่างคนนี้น้ำตาลอยากเจอไหม?

น้ำตาล : “อยากเจอ เจอก็ได้ค่ะ”

คนนี้น้ำตาลไฟเขียวไหม?

น้ำตาล : “อย่างที่บอกขึ้นอยู่กับคุณพ่อมากกว่า ว่าเขามีความสุขไหม คบกันแล้วชีวิตดีขึ้นก็เต็มที้ได้เลย”

ถ้าเขาจะมีครอบครัวใหม่กับคนนี้โอเคไหม?

น้ำตาล : “คิดว่าโอเคค่ะ อยากให้เขามีความสุขที่สุด”

อยากบอกอะไรกับสาว k ?

ทูน : “เราคบกันมานาน เราก็คิดว่าเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จักกันมาเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน ดูแลซึ่งกันและกัน ผมก็คิดว่าคงไม่ช้า ไม่นานคงจะปิดไม่มิด ยังไงก็ขึ้นอยู่กับน้องเขานะครับว่าจะพร้อมเมื่อไหร่”

241678015-391110486003699-5049117945274360273-n

241705621-391110149337066-7699670641207190659-n

241707533-391110416003706-2351378164857619583-n

241737477-391110392670375-4511120374416359949-n

241752604-391110559337025-8159864003816051769-n

241765442-391110502670364-360493334379227201-n

241767335-391110459337035-5400479896274412029-n

241779881-391110366003711-5258035476243028830-n

241783408-391110212670393-8575917675882644321-n

241801682-391110196003728-7006080359908922921-n

1863948

1863949

1863949-1

1863950

1863951

1863952

1863953

1863954

2

“ข้าวทิพย์ ธิดาดิน”กลับบ้านทั้งที โชว์ไลฟ์สไตล์ ชีวิตติดดินช่วยแม่ทำสวนเลี้ยงวัว!

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสามารถหลากหลายอย่างมาก สำหรับ “ข้าวทิพย์ ธิดาดิน” นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ที่ล่าสุดนั้น นานๆ เธอจะได้กลับบ้านจังหวัดอำนาจเจริญทั้งที ก็ใช้ชีวิตสไตล์ของข้าวทิพย์ไปเลย

ซึ่งเธอได้ออกมาโพสต์ทั้งภาพและคลิปให้แฟนๆ ได้ชมการใช้ชีวิตติดดินของเธอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเธอได้มีการเลี้ยงวัว เก็บผัก ทำสวน และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมระบุแคปชั่นว่า “เกี่ยวหญ้าให้ งัว ส่อยแม่ เด้อจ้า”

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ทำเอาหลายคนกระหน่ำกดไลก์ ส่งสติกเกอร์หัวใจให้ข้าวทิพย์ อีกทั้งยังคอมเมนต์กันเข้ามาอย่างถล่มทลาย อาทิ กลับมาสู่ความจริงที่สดใส, น่ารักสดใสตามธรรมชาติค่ะลูก, ขยันแท้น้อ สาว ฯลฯ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก kaothip.tidadin

2

แจ็คกี้ ชาเคอลีน ย้ำสถานะชัด! หนุ่มไฮโซรุ่นพี่ หลังไหว้พระแม่บีมาติกา

อีกหนึ่งนักแสดงสาวและพิธีกรชื่อดังลูกครึ่งไทย-เยอรมนีสำหรับ แจ็คกี้ ชาเคอลีน ที่ถูกหลายคนต่างจับตามองสถานะหัวใจ หลังเผยสเปค และ พระแม่บี มาติกา ก็เริ่มทำงานแนะนำหนุ่มไฮโซให้รู้จัก อย่าง สาระตั้ม ซึ่งชาวเน็ตก็เชียร์สนั่น สวยหล่อดูเหมาะสมกันมากๆ

ล่าสุด แจ็คกี้ ให้สัมภาษณ์บอกว่า พี่สาระตั้ม ที่แม่บีเขาชงให้ไปเจอ หลังจากนั้นได้มีการแลกไลน์ แต่เหมือนเป็นคนไม่รู้จักกันเลยไม่รู้จะเริ่มยังไง คุยกันว่า ขอทำความรู้จักกันก่อน ตนเกรงใจพี่เขาเพราะเป็นข่าวบ่อย ถ้าพี่เขาจะจีบใครคงเข้าใจผิดไปหมดแล้ว เลยมาเคลียร์ว่า กับพี่สาระตั้มไม่มีอะไรเลย

เรียบเรียง news in thailand

2

ถกสนั่น! ทำไม่นางเอกซุปตาร์คนนี้ถึงได้เล่นเเต่บท เมียน้อย-โสเภณี

กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนถกสนั่น เมื่อมีผู้ใช้งานบัญชีหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความลงพันทิพว่า

ทำไม ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ชอบได้รับบท โสเภณี เมียน้อย หรือหญิงมากสามีครับ ทั้งๆที่ ใบเฟิร์น ลุคสวยหวาน ดูเหมาะกับบทเจ้าหญิง หรือคุญหนูผู้สูงศักดิ์ ทำไมครับเนี่ย

ท่ามกลางผู้ใช้งานบัญชีคนอื่นๆที่เข้ามาเเสดงความคิดเห็นว่า

-แววตาสู้ชีวิต สู้คนเราว่าใบเฟิร์นก็ไม่ได้เหมาะกับบทเจ้าหญิง บทคุณหนู มีคนปกป้องจริงๆเค้าเหมาะกับบทสู้คน กร้านโลก สู้ชีวิต แบบต้องลุยอ่ะแล้วมันก็ท้าทายดี แต่มันก็แอบเบื่อ คือดูว่าผู้จัดเพลย์เซฟไปที่เอาใบเฟิร์นเพราะเค้าเล่นทางนี้หลายเรื่องและติดภาพแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้าเล่นดี และเหมาะ คือเหมาะแต่ไม่ว้าวอ่ะ

-ไม่อยากให้รับแนวนี้บ่อยเลย

-น่าจะท้าทายความสามารถ น้องถึงรับบทนี้

-นางได้เล่นแค่สองเรื่องเองนะ คือหลงไฟ กับทองประกายแสด แถมสองเรื่องนี้ห่างกันหลายปีอยู่

-ดูมีสเน่ห์ เป็นสาวมั่นใจแต่ก็น่าเห็นใจนะคะ

-ตั้งแต่หลงไฟ​ หลายเรื่องเลย

ถกสนั่น! ทำไม่นางเอกซุปตาร์คนนี้ถึงได้เล่นเเต่บท เมียน้อย-โสเภณี

ถกสนั่น! ทำไม่นางเอกซุปตาร์คนนี้ถึงได้เล่นเเต่บท เมียน้อย-โสเภณี

ถกสนั่น! ทำไม่นางเอกซุปตาร์คนนี้ถึงได้เล่นเเต่บท เมียน้อย-โสเภณี

ถกสนั่น! ทำไม่นางเอกซุปตาร์คนนี้ถึงได้เล่นเเต่บท เมียน้อย-โสเภณี

2

ต้นหอม เหตุเชื่อใจ โยเกิร์ต เพราะเผยบางเรื่อง ลั่นสิ่งที่ห่วง พีเค ที่สุดเจอหน้าได้ห้ามพูดเรื่องหนึ่ง

ต้นหอม เหตุเชื่อใจ โยเกิร์ต เพราะเผยบางเรื่อง ลั่นสิ่งที่ห่วง พีเค ที่สุดเจอหน้ากันได้ แต่ห้ามพูดเรื่องหนึ่ง ทำยังไงให้ได้รับโอกาสกลับมาทำงาน เรื่องคดีความหรือเรื่องอะไรต้องแยกกัน

ไม่กี่วันก่อนดีเจและนักแสดงชื่อดัง ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันชัดเจนว่าขอยืนอยู่ข้าง โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม เพราะตั้งแต่เลิกรากับอดีตสามี พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ปรากฏว่ายังคงมีดราม่าของทั้งคู่ตามออกมามากมาย รวมถึงข่าวลือเรื่องที่ฝ่ายชายจะฟ้องอดีตภรรยาด้วย

ล่าสุดวันที่ 14 ส.ค.67 ดีเจต้นหอม มาร่วมงาน BENUTRA PRESENT “SHOP FOR SELF-LOVE EVENT” ที่ ลานหน้า EVEANDBOY the Underground ชั้น LG, Siam square One เพื่อให้กำลังใจ สาวโยเกิร์ต ที่ขึ้นแท่นเป็น Co-CEO ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อผิวสวยสุขภาพดี TRETA SOD และ PYCNOGENOL

จากนั้น ต้นหอม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลว่าทำไมตนเองถึงต้องเลือกข้างอย่างชัดเจน พร้อมเผยสิ่งที่เป็นห่วงเกี่ยวกับพี่ชายคนสนิทอย่าง พีเค ที่สุด ยืนยันเคารพรักและเจอหน้ากันได้เหมือนเดิม แค่อย่าคุยเรื่อง โยเกิร์ต เท่านั้นเอง

วันนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจโยเกิร์ตโดยเฉพาะเลย? “จริงๆ น้องก็ชวนไว้นานแล้วว่าถ้าเกิดมีงานเปิดตัวสินค้าอย่าลืมมานะ เราก็บอกได้เลย (เรียกว่าเลือกฝ่ายชัดเจน?) เอาจริงๆ พี่พีเคคือพี่ชายที่รักมาก เราเองก็ยังเป็นน้องสาวอยู่เสมอ ส่วนโยก็เป็นน้องที่เราเอ็นดู แต่พอวันที่เขาเลิกกันแล้วไม่ได้เลิกกันด้วยเรื่องเงิน ซึ่งเราก็รู้ตามข่าวว่าเลิกด้วยเรื่องอะไร หอมก็เลือกให้กำลังใจคนที่ถูกกระทำ ณ ตอนนั้น ซึ่งโยถือว่าเป็นคนที่ลำบากที่สุด ต้องถอยกลับมาเริ่มต้นที่ศูนย์

คราวนี้พอสองฝ่ายตีกันรุนแรงมากมันก็ต้องเลือกอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะมาแบบสู้ๆ ทั้งสองฝ่าย เอ้า! สู้กันก็คืออิ๊บอ๋ายทั้งคู่เหรอ เราก็จะดูเหมือนนกสองหัว เมื่อเราเลือกให้กำลังใจฝั่งนี้แล้ว มันก็ไม่มีหน้าที่จะไปถามพี่พีเคว่าสบายดีมั้ย แล้วฝั่งโยเองก็ต้องกังวลถ้าวันหนึ่งเราไปเจอพี่พีเคจะเล่าเรื่องราวที่เราเคยคุยกันมั้ย แบบนั้นมันก็จะรู้สึกอึดอัดใจ สมมติถ้าหอมไปเจอพี่พีเคเขาก็ต้องคุยเรื่องโยเกิร์ตถูกมั้ย ซึ่งเราไม่อยากคุยอะไรเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าพี่พีเคบอกว่าวันนี้เหงาอยากกินข้าวด้วย แล้วไม่คุยเรื่องโยเกิร์ตเลย หอมสามารถไปหาเขาได้เลย”

กลัวพีเคจะโกรธไหม? “เราก็ยังบอกว่าเป็นน้องสาวของเขาเสมอนะ ยังรักและปรารถนาดี สิ่งที่ห่วงและกังวลที่สุดคืออยากให้พี่พีเคกลับมาอยู่ในวงการ เรื่องคดีความหรือเรื่องอะไรต้องแยกกัน อันนี้หอมไม่เกี่ยวอยู่แล้ว แต่ทำยังไงมันมีโอกาสมั้ยพี่พีเคจะได้รับโอกาสในการกลับมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ทำยังไงให้ภาพลักษณ์ของพี่เขากลับมาอีกครั้ง เพราะหอมรู้สึกว่าพี่พีเคเป็นคนชอบทำงาน ทุกคนต้องมีงานมันถึงจะกลับมามีเงิน ยิ่งเราเข้าใจสถานการณ์การเงินเขาก็ยิ่งน่าห่วง”

เท่าที่รู้ตอนนี้พีเคถึงขั้นไม่มีเงินจริงไหม? “หอมไม่คิดว่าเขาโกหก คนเราไม่ทำงานก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว มันก็เป็นเวย์ที่ถูกต้อง พี่พีเคอาจจะมีสินทรัพย์ แต่เงินสดที่มันออกทุกวันๆ แล้วคนวางแผนอย่างเขาก็ต้องรู้สึกกังวลแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าในวงการบันเทิงเราหาคนที่มีคุณภาพอย่างพี่พีเคยากมากนะ ถามว่าตอนนี้ใครคือตัวตายตัวแทนพี่พีเค วันนี้นั่งนับไม่ถึง 5 คน ฉะนั้นหอมรู้สึกว่านี่คือบุคลากรในวงการบันเทิงในการทำงานพี่พีเคเก่งมาก แล้วมันก็น่าเสียดายถ้าเกิดว่าคนนี้จะไม่มีโอกาสในการทำงาน”

คิดว่าพีเคจะกลับมาได้ไหม? “อยู่ที่ตัวเขาค่ะ พี่พีเคต้องบิดอะไรบางอย่าง หอมไม่รู้ว่าพี่พีเคนับถือใครเป็นไอดอลในวงการบันเทิง แต่ต้องมีคนนั้นเข้าไปคุยกับพี่พีเค แล้วบอกแนวทางว่าต้องทำยังไง สำหรับหอมแล้วคุยไม่ได้เพราะเราอยู่ในฐานะน้อง แล้วเราก็ไม่ใช่คนที่พูดแล้วพี่พีเคจะฟัง แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเปิดใจฟัง หอมก็ยินดีนะ (คิดว่ามีคนที่เขาจะฟังไหม?) ต้องให้เขานึกว่าใครในวงการบันเทิง ใจหอมอ่ะคิดถึงน้าเน็ก(เกตุเสพย์สวัสดิ์) แต่หอมไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขาว่าเขามีพลังพอที่พี่พีเคจะฟังมั้ย อีกอย่างคือน้าเน็กอยากจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้มั้ย(หัวเราะ) คือเราก็ถือวิสาสะในการที่จะพูดชื่อน้าเน็กออกไป”

เชื่อว่าพีเคยังมีโอกาสอยู่ไหม? “คนที่ฆ่าคนตายยังได้รับโอกาสในการกลับมาเลย พี่พีเคก็ทำผิดแหละ ขอแค่สำนึกผิดอย่างจริงใจ จริงใจในการออกมาขอโทษ อันนี้เป็นแค่หอมแนะนำนะ แต่หอมไม่รู้ว่าเขามีมุมมองในเรื่องนี้ยังไง (แสดงว่าตอนนี้เรายังไม่เห็นความจริงใจนั้นเหรอ?) หอมไม่ได้เข้าไปสื่อสารกับเขาค่ะ อันนี้ก็เลยตอบไม่ได้”

การที่เราเลือกฝั่งชัดเจนอย่างนี้ กลัวจะมีคนเข้ามาดราม่าไหม? “คนด่าเหรอ…ด่ากูเรื่องอะไร(หัวเราะ) หอมเป็นคนตรงๆ อ่ะ ถามมาเราก็ตอบตรงๆ วันนั้นนักข่าวถามว่าหอมได้มาเป็นกาวใจมั้ย เราไม่ได้เป็นกาวใจแล้วเทกเครดิตทำไมอ่ะ หอมคุยอยู่แค่ฝั่งเดียวก็สื่อสารไปเลย นักข่าวจะได้ไม่ต้องมาถามอีกว่าได้คุยกับพี่พีเคอยู่มั้ย ไม่ได้คุยค่ะ”

โยเกิร์ตเองก็ขอบคุณที่ต้นหอมเชื่อใจในตัวเขา? “ที่เขาจะฟ้องกันเรื่องเงินอ่ะนะ มันไม่เกี่ยวกับหอมอยู่แล้ว เขาเปิดบริษัทกันสองคน ความจริงรู้กันอยู่สองคน แล้วไม่ว่าผลจะออกมายังไงไม่เกี่ยวกับหอมเลย เราเป็นคนนอกด้วยซ้ำ หอมมีหน้าที่ให้กำลังใจ ถามว่าทำไมถึงเชื่อใจโย ที่ผ่านมาโยก็เคยพูดความรู้สึกบางเรื่องที่บอกว่า “อันนี้หนูไม่เคยบอกใครเลยนะพี่สาว“ ในเมื่อเขาให้ใจเรามาก่อน ฉะนั้นเราก็จะไม่ทรยศความไว้ใจที่คนมอบให้จริงๆ”

ในอนาคตก็สามารถเจอหน้าและคุยกับพีเคได้เหมือนเดิม? “ได้แค่อย่าพูดเรื่องโยเกิร์ตค่ะ ถามว่าได้เจอพี่พีเคครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ทำอีเวนต์ด้วยกันก็น่าจะเมื่อปีที่แล้ว รายการก็ไม่ได้จัดด้วยกันอยู่แล้ว แล้วหอมก็ไม่รู้สังคมและการดำเนินชีวิตของเขา ณ ตอนนี้ว่าเป็นยังไง ส่วนใหญ่เราจะเจอกันเรื่องงานอยู่แล้ว แต่ว่าเรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ความรักความปรารถนาดีของพี่น้องชาวเอไทม์ก็ค่อนข้างแข็งแรงและยังเป็นครอบครัวที่หวังดีเสมอ แค่ไม่มีโอกาสได้พูดกันเท่านั้นเอง”

2

แม่ “แมท ภีรนีย์” โพสต์ซึ้งอวยพรลูกสาว หลังแต่งงาน ขอให้ความรักสวยงามมั่นคง

แม่ “แมท ภีรนีย์” โพสต์ซึ้งอวยพรลูกสาวหลังแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา ขอให้ความรักสวยงามมั่นคง ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ อย่าปล่อยมือกันนะ

หลังจากที่ลูกสาวสุดที่รักเข้าพิธีแต่งงาน มีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาไปเรียบร้อยแล้วนั้น ด้าน แม่นีย์ คุณแม่ของ แมท ภีรนีย์ ก็ได้โพสต์ภาพความอบอุ่นในงานแต่ง พร้อมเผยความในใจถึงลูกสาวและลูกเขย เฟม ภีมเดช อีกด้วย

โดย แม่นีย์ ได้เผยว่า “จุดเริ่มต้นของครอบครัวลูกนะคะ จับมือกันไว้แน่นๆนะลูก @mattperanee @pimadejf ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ อย่าปล่อยมือกันนะ ช่วยกันฝ่าให้ผ่านพ้นไป ให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ถนอมใจกันให้มากๆ ไม่อวยล่ะ เดี๋ยวแงๆ #อวยไปเยอะแหละ ชื่นชมค่ะ วันงานจัดออกมาได้น่ารัก อบอุ่นเท่าที่แม่ทราบ เป็นภาพของแมทจริงๆ ขอบคุณเฟมครับ ขอบคุณครอบครัวเฟม #แต่อย่าตามใจแมทมากนะครับเฟม แม่ขอให้ความรักของแมท&เฟม สวยงาม..มั่นคง..(คิดถึงความสุขวันงานไว้) เจริญทรัพย์ รุ่งเรืองธุรกิจ เป็นครอบครัวที่มีความสุขในทุกๆวันนะคะ #แมทขี้บ่นเบาๆนะคะและอย่าทำให้เฟมโมโหนะ #รักเฟมที่สุดในโลกแต่รักแมทที่สุดในจักรวาล”ซึ่ง แมท ภีรนีย์ ก็ได้มาตอบกลับไว้ว่า “แล้วตกลงว่า..ถ้ามีลูกจะช่วยเลี้ยงไหมคะ” ด้านแม่นีย์ก็ตอบว่า “ถ้าชื่อ เด็กชาย ‘ภมร’ จะเลี้ยงให้ค่ะ”

ขณะที่ลูกเขย เฟม ภีมเดช ก็ได้เข้ามาตอบกลับไว้ว่า “ขอบคุณครับคุณแม่สำหรับคำอวยพรและข้อคิดเตือนใจครับ จะจดจำและนำไปใช้ครับ และจะดูแลลูกสาวคุณแม่ให้ดีที่สุดครับ ที่สำคัญ ขอบคุณสำหรับ #ครับ @mattperanee อ่าน#แม่ด้วยครับ”

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

แมท ภีรนีย์

2

มิ้นต์ ชาลิดา เล่าบรรยากาศกั้นประตูงานหมั้น แมท ภีรนีย์ รักจริงต้องรู้ คำถามสุดหิน

นักแสดงสาว มิ้นต์ ชาลิดา เล่าบรรยากาศงานแต่งสุดอบอุ่นของ แมท ภีรนีย์ พร้อมเผยคำถามสุดหิน สำหรับกั้นประตู รักจริงต้องรู้

ผ่านไปไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับงานแต่งของนักแสดงสาว แมท ภีรนีย์ กับ เฟม ภีมเดช ที่เรียกว่าเรียบหรู และสุดอบอุ่น โดยงานนี้เพื่อนซี้อย่าง มิ้นต์ ชาลิดา ก็ไม่พลาดมาร่วมงาน

ล่าสุดวันที่ 14 ส.ค. มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล “ก้าวด้วยธรรมครั้งที่ 8 เพื่อ 19 โรงพยาบาล” วัตถุประสงค์เพื่อนำไปสร้างอาคารโรงพยาบาล และมอบเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาล 19 แห่งในพื้นที่ขาดแคลน พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศงานแต่งของ แมท ภีรนีย์

งานแต่ง แมท? “ดีค่ะ เป็นงานสบายๆ น่ารักมาก (แมทเชิญแค่เพื่อนสนิทใช่ไหม?) ก็เป็นงานหมั้นค่ะ”

ตอนเจ้าสาวแจ้งธีมมาบอกว่าอะไร? “แจ้งธีมฟ้าเหลืองค่ะ แต่เพื่อนๆ แก๊งเราก็เหลืองแล้วกัน จะได้ไปในทิศทางเดียวกัน และกั้นประตูด้วย”

ซองหนามั้ย? “ก็ไม่หนาเท่าไหร่ค่ะ (ยิ้ม) เพราะคำถามค่อนข้างยากมาก คำถามมิ้นต์ดันมี 2 ข้อ ถูกกับผิด (หัวเราะ) พอพี่แมทบอก หนูคิดออกเลยว่าต้องเป็นคำถามนี้เท่านั้น จริงจังมาก เพราะมิ้นต์รู้สึกว่ามันเป็นคำถามที่คนไม่ค่อยรู้ นั่นก็คืออยากรู้ว่าพี่แมทเขามีรอยสักว่า made in norway สักไว้ข้างไหน (ยิ้ม) ถ้ารักจริงต้องรู้ คำตอบก็มีแค่ซ้ายกับขวา”

ทำไมถึงคิดว่าเจ้าบ่าวจะตอบไม่ได้? “คือเราเห็นรอยสักนี้มานาน ก็ไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวจะรู้หรือเปล่า เพราะว่าสักไว้ข้างล่างสุด (หัวเราะ) และสุดท้ายเขาก็ตอบไม่ได้ เพราะเขายังไม่เคยเห็น เราก็บอกว่าพี่ต้องลองไปดู (หัวเราะ)”

แล้วทำไมถึงยอมให้ผ่าน? “ก็ยอมให้ผ่านแหละ เพราะประตูสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวไม่ทันฤกษ์ (ยิ้ม)”

บรรยากาศวันนั้นเป็นยังไงบ้าง เพราะแมทร้องไห้เยอะ แต่ดูเอ็นจอยมาก? “ก็ดูเอ็นจอยนะคะ ก่อนวันงานมิ้นต์ก็ถามว่าพร้อมมั้ย เขาบอกว่าไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้ว แต่เขาถือเป็นคนจัดงานที่ดูสบายๆ ดูเอ็นจอยกับทุกโมเมนต์ ก็ดีใจกับพี่แมทและพี่เฟรมที่มาถึงวันนี้ (ยิ้ม)”

คนก็ประทับใจกับคำพูดที่เราสื่อถึงเจ้าบ่าว? “ใช่ ติดตลกหน่อย แต่ว่าน่ารักค่ะ (ยิ้ม)”

ตอนที่เฟรมขอแต่งแมท เรารู้มาก่อนไหม? “หนูไม่รู้เลยค่ะ เพราะพี่แมทเป็นคนที่ติดตลกอยู่แล้ว ทีเล่นทีจริงอยู่แล้ว เราก็มีโอกาสได้คุยกับแม่นี แม่พี่แมท เขาก็บอกว่าตอนที่พี่แมทบอก แม่ก็คิดว่าพูดเล่น หนูก็เลยบอกว่าแม่คิดเหมือนหนูเลย (หัวเราะ)”

รู้สึกยังไงที่วันนี้เขาประสบความสำเร็จในความรักแล้ว? “ใช่ค่ะ จริงๆ มิ้นต์กับพี่แมทถือว่าเป็นพาวเวอร์ 3 รุ่น 2 ตั้งแต่เข้าช่อง 3 ตอนอายุ 12 แล้วก็เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 20 ปี ได้เห็นทุกก้าวของชีวิต จริงๆ ก็อยู่เป็นกำลังใจให้เสมออยู่แล้ว และดีใจที่วันนี้มีคนมาดูแลพี่แมท และเขาก็ดูพร้อมที่จะมีครอบครัวของตัวเองแล้ว ก็ดีใจค่ะ (ยิ้ม)”

ทุกคนเอ็นจอยมาก? “จอยมากเลยค่ะ เป็นงานแต่งที่มิ้นต์ว่าน่ารัก มีแต่คนสนิทของทั้งสองครอบครัว และเป็นงานแต่งที่บ้าน ทุกวันนี้ไปคนก็ยังชมว่างานน่ารัก เราก็ดีใจไปกับเพื่อน”

เราเก็บเป็นแรงบันดาลใจบ้างไหม? “จริงๆ ก็ดูไว้ งานที่จัดที่บ้านก็ดูเรียบง่ายดี อบอุ่นดีค่ะ ก็เก็บเกี่ยวไว้ ยังต้องเก็บอีก ต้องไปงานพี่แต้วต่อ (หัวเราะ) อีกหลายงาน ตัดชุดไม่ทันแล้วเนี่ย”

ได้คุยกับเต้ยไหม เพราะเหลือเราแค่ 2 คนในกลุ่ม? ”ไม่เครียดๆ (หัวเราะ) เรายินดีกับคนที่พร้อมมากกว่าค่ะ เป็นคำถามยอดฮิตที่เจอทุกวัน เชื่อว่าพี่เต้ยก็ต้องเจอเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เอามาเป็นแรงกดดันของเรา แต่ก็มีคุยกัน เขาก็ถามว่าแล้วมิ้นต์ยังไง ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรนะ พี่เต้ยไม่ต้องเครียด เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน (ยิ้ม) ไม่ได้ตกลงว่าใครจะแต่งก่อนกัน เพราะไม่อยากกดดันกันและกัน มิ้นต์เชื่อว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ทั้งคู่ก็เมื่อนั้น มิ้นต์ไม่กดดันเลย เพราะล่าสุดมิ้นต์จัดมีตติ้งที่เขาใหญ่ ยังรู้สึกว่าพอจัดเองมันเหนื่อย ยังบอกกับครอบครัวเลยว่าไม่จัดแล้วนะ วันเกิด งานแต่ง เหนื่อยจริงๆ (หัวเราะ) เพราะที่จัดที่เขาใหญ่ก็เอาแฟนคลับ 80 คนขึ้นรถบัสแล้วไปทำกิจกรรม และพอมันมีเรื่องของฝนฟ้าอากาศความพร้อม กลายเป็นแพลนมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยคิดว่าการจัดงานมันต้องมีแพลน A แพลน B จริงๆ เหนื่อยค่ะ”

แสดงว่าถ้าจัดที่เขาใหญ่ ต้องดูสเกลคนด้วย? “ใช่ค่ะ นี่ขนาดแค่ 80 คนยังเหนื่อยจริงๆ แต่ก็แฮปปี้กับโมเมนต์ที่ทุกคนชอบ ได้กระแสตอบรับที่ดี ก็ดีใจ แต่ระหว่างงานเราก็พยายามชิลล์แล้ว แต่มันก็ไม่ชิลล์ มีน้ำตา (หัวเราะ)”

2

เปิดธุรกิจ เเก้ว-โทนี่ หลังเจอดราม่าควรรับงานบ้าง

ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด็นเมื่อมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ของ “แก้ว จริญญา ภรรยาคนสวยของ หนุ่มโทนี่ รากเเก่นว่า

…ผญ.อย่างเราควรมีงานมีรายได้เป็นของตัวเองค่ะ​ ควรรับงานบ้าง เพราะน้องไม่ได้มีดีแค่ทำอาหาร เป็นแม่บ้านที่ดีถือว่าผ่านสุดๆ​… “

หลังจากนั้นเเก้ว ได้เข้ามาตอบว่า เราก็มีเงินเก็บค่า ไม่ต้องห่วงนะคะ รับงานน้อยไม่ใช่ว่าไม่มีเงินนะคะ ทางด้านโทนี่เผยว่า ก็ยังไม่อิ่มตัวนะคับ แต่อิ่มอกอิ่มใจ

เปิดธุรกิจ เเก้ว-โทนี่ หลังเจอดราม่าควรรับงานบ้าง

-สำหรับธุรกิจของเเก้ว-โทนี่ ปี 2557 โทนี่เปิดตัวธุรกิจนำเข้าคอนแทกต์เลนส์จากเกาหลี ทุ่มทุนมูลค่านับ 10 ล้านบาท-ปี 2563 โทนี่ได้เปิดร้านตัดผม

-โทนี่-เเก้วมีช่องยูทูบ

-ปี 2559 “แก้ว จริญญา” มีร่วมธุรกิจร้านอาหารเกาหลีชื่อว่า Yeolbong Thailand กับเพื่อน

เปิดธุรกิจ เเก้ว-โทนี่ หลังเจอดราม่าควรรับงานบ้าง

เปิดธุรกิจ เเก้ว-โทนี่ หลังเจอดราม่าควรรับงานบ้าง

2

ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

เปิดฉากตอนแรกก็ถึงเกินทำคนดูอินกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลย สำหรับละคร #ทองประกายแสด ทางช่องวัน 31 ที่งานนี้ได้นางเอก ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ มารับบท ‘ทองดี’ สาวสวยผู้มีรูปร่าง และหน้าตาเป็นอาวุธ ทุ่มเททำทุกทางเพื่อหนีชีวิตเส็งเคร็งไปอยู่เมืองกรุงกินหรูอยู่สบาย

ล่าสุดสาวใบเฟิร์นได้โพสต์ภาพเบื้องหลังกับมาดสก๊อยสาวใจแตก พร้อมแคปชั่นว่า...แฟชั่นน้องทอง เจอกันคืนนี้ #ทองประกายแสด #ทองประกายแสดep2…

มาลุ้นกันว่าคืนนี้ ep.2 จะสนุกเข้มข้นขึ้นแค่ไหน

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

 ทำถึงเกิน! แฟชั่นสุดจี๊ดถ้าไม่ใช่นางเอกคนนี้ใครจะใส่รอด

2

เพจดังขุดภาพในอดีต โยเกิร์ต หลัง พีเค บอกไม่เคยกินหมูกระทะร่วมกัน

ก่อนหน้านี้ พิธีกรหนุ่ม พีเค ปิยะวัฒน์ ออกมาเปิดใจเรื่องราวรักครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นกับแฟนสาวมีเรียน สุเดชา หลังจากที่คบกันมาได้ 2 เดือนครึ่ง ผ่านรายการ Thairath Talk กับ เรโด้ ไทยรัฐทอล์ก ทางยูทูบช่อง THAIRATH TV Originals

ซึ่งหนุ่ม พีเค บอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เหมือนช่วยเปิดโลกใหม่ให้เขา ได้ทำอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น เขาพาเราไปกินหมูกระทะ เขาชวนไปกินจิ้มจุ่มหน้าปากซอย เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยสัมผัส ไม่มีโอกาสได้ไปเลย

10 กว่าปีที่ผ่านมา ช่วงคบหากับอดีตแฟนสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ สมมติว่าวันไหนเราจะไปกินข้างนอก ก็มีมาแล้วว่าวันนี้กินมิชลินใหม่ร้านนี้ เชฟญี่ปุ่นคนนี้ และพอเราโสด มีมีเรียนเข้ามา เราเพิ่งมีโอกาสได้กินหมูกระทะ เลยรู้สึกว่ามันอร่อยเหมือนกัน

และเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม 2567) สาวโยเกิร์ต มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์สินค้า ซึ่งนักข่าวได้ถามถึงประเด็นไม่เคยกินหมูกระทะเลย? ช่วงคบ พีเค ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดย สาวโยเกิร์ต ตอบสั้นๆ ว่า “หมูกระทะหนูเคยกินนะ หนูว่าหนูเคยกินนะ รสชาติมันอร่อยดี”

ล่าสุด (14 สิงหาคม 2567) เพจดังได้ขุดภาพในอดีต ที่สาวโยเกิร์ต เคยโพสต์เอาไว้ เป็นภาพขณะที่เธอยืนอยู่หน้าเตาหมูกระทะ และกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ดูมีความสุข ถือเป็นการยืนยันในคำพูดของโยเกิร์ตอีกครั้งว่า “หมูกระทะหนูก็เคยกินนะคะ”

2

Popular Posts

My Favorites

โรงงานแจ้ง ปีนี้งดจัดกินเลี้ยงแผนก พนักงานนึกว่าจะเฟลแล้ว แต่บริษัททำถึงมากทำใจฟูแบบสุดๆ

0
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พนักงานโรงงานหลายต่อหลายคนต่างรอคอย สำหรับการจัดกินเลี้ยงบริษัทในแต่ละปี ซึ่งเป็นน้ำใจจากนายจ้างเพื่อตอบแทนลูกจ้างที่ทำงานเหนื่อยกันมาตลอดทั้งปี แต่ด้วยช่วงภาวะโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจเมืองไทยในปัจจุบัน หลายคนก็เข้าใจนายจ้างเช่นกัน ที่อาจไม่สามารถจัดงานเลี้ยงได้เหมือนเดิม ล่าสุด ได้มีผู้ใช้ TikTok @nooaom175 ซึ่งเป็นสาวโรงงานบริษัทผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งหนึ่ง ในนิคมปิ่นทอง 5 ชลบุรี เผยเรื่องราวที่ปีนี้บริษัทประกาศว่าจะไม่มีการจัดงานกินเลี้ยงแผนก แต่ก็ต้องประทับใจกับสิ่งที่นายจ้างตอบแทนให้กับพนักงานแบบคาดไม่ถึง โดยภายในคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นว่า ทางแผนกเรียกให้พนักงานมานั่งรวมตัวกัน ซึ่งแม้ปีนี้จะไม่มีการกินเลี้ยงแผนกก็จริง แต่ทางบริษัทเองก็มอบน้ำใจเป็นของขวัญด้วยหมูกระทะ แจกให้เอากลับบ้านไปเลยคนละ 1 ชุด ในถุงที่ได้นั้นก็อัดแน่นไปด้วยหมู เครื่องเคียง...