LATEST ARTICLES

อั้ม พัชราภา ขอโทษ มาดามแป้ง หลังผิดสัญญา แอฟ ทักษอร รีบเข้ามาคอมเมนต์ทันที

0

ออกมาประกาศขอโทษออกสื่อเลยทีเดียว สำหรับนางเอกซุปตาร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ หลังจากที่ผิดสัญญากับ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ โดย อั้ม พัชราภา ได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า “ขอบพระคุณ พี่แป้ง นะคะ บ้านสวยมาก อาหารอร่อยมาก พี่ทำให้ทุกคนมารวมตัวกัน ได้พูดคุยกันสนุกและมีความสุขมากเลยค่ะ มาถึงช่วงจับรางวัล จะมีรางวัลพิเศษ 5 รางวัล และ อั้ม ได้เข้ารอบ 3 คนสุดท้ายค่า อยากจะกรี๊ดดัง ๆ แต่ติดว่า อาจารย์ช้าง บอกว่า คนที่จะได้ปีนี้ จะเป็นคนพูดน้อยที่สุด อั้ม เลยปิดวาจาชั่วคราว ขอบคุณ พี่แป้ง อีกครั้งนะคะ ปีนี้ อั้ม ได้กระเป๋ารวม 3 ปีซ้อนแล้วค่ะ (รางวัลที่ 2) ส่วนรางวัลที่ 1 เป็นของ พี่แอน ยินดีด้วยนะคะพี่ ส่วนปีนี้ อั้ม ผิดสัญญากับ พี่แป้ง ค่ะ ยังหาแฟนไม่ได้เลยค่ะทุกคน สงสัยต้องออกจากบ้านบ่อย ๆ ละ”...

ย้อนคำสัญญา อั้ม อธิชาติ ในวันแต่ง ซึ้งจนหลายคนร้องไห้

0

เพื่อนๆรวมถึงแฟนคลับต่างส่งกำลังใจให้กับสาว นัท มีเรีย กันมากมาย เมื่อเธอได้ยอมรับว่ายุติความสัมพันธ์ในฐานะเป็นสามีภรรยา กับ อั้ม อธิชาติ แล้ว สถานะตอนนี้นัท บอกว่าถอยกลับมาเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน สาเหตุการเลิกลานัทขอไม่ตอบในเรื่องเหตุผล เพราะชีวิตคู่จริงๆแล้วมันมีหลายปัจจัยเราได้พูดคุยตกลงรับรู้ทั้งสองฝ่ายและจบกันด้วยดี ส่วนเรื่องมือที่ 3 แล้วแต่คนจะตีความ มันเกินความควบคุมของนัทจริงๆ ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด ให้เป็นเรื่องของคนสองคน เรื่องหย่านัทกับอั้มไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็เลยบอกว่ายังไม่ได้หย่า เพราะไม่ได้จดมาตั้งแต่ต้นเราคบกัน 5 ปี แต่งงาน 10 ปี ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มีทั้งสุข ทุกข์ และสิ่งที่ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน แต่ไม่มีอะไรผิดเลย หากวันหนึ่งต้องแยกย้ายกันเดิน เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ นัทอยากให้เป็นเรื่องของความเข้าใจว่านัทมีความสุข และขอบคุณกับทุกสิ่งที่มันกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลย” ซึ่งเมื่อหากย้อนกลับไปเมื่อ 14 เมษายน 2557 อั้ม ได้กล่าวคำสัญญาในงานเเต่งว่า “รู้จักเขามา 5 ปี เเล้ว วันที่ผมยังเป็นเด็กกว่านี้ วันที่ผมยังมีความรับผิดชอบน้อยกว่านี้ วันที่ผมยังไม่โตมากกว่านี้ วันที่ผมได้อยู่ใกล้เขาผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีต่อครอบครัว และต่อคุณเเม่ ผมอยู่ใกล้คนดีก็ทำให้ผมจิตใจเปลี่ยนเเปลงตามไปด้วย เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นเเละสัญญาว่าผมจะดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆจะรักตลอดไป รักเสมอนะครับ”

มดดำ ตอบแล้ว หลังโซเชียลจับตา นัท มีเรีย ท้องลูกคนแรก

0

มดดำ คชาภา เพื่อนสนิท อั้ม อธิชาติ ตอบแล้วหลังมีภาพและชาวเน็ตถาม นัท มีเรีย ท้องหรือไม่ หลังจากที่ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากเวทีคอนเสิร์ต Grammy RS Concerts ท้าดวลรวมตัวแดนซ์ ที่จัดขึ้นที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธารี เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ภาพบรรยากาศสนุกสนานเป็นอย่างมาก และช็อตของนักร้องสาว นัท มีเรีย ปรากฏตัวในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ต้องบอกว่าชุดนี้ของเธอทำคอมเมนต์สนั่นเลยทีเดียว แห่ถามกันหนักมากว่า นัท มีเรีย ท้องหรือไม่ กำลังจะมีน้องหรือเปล่า พร้อมกับคำอวยพรร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว จากคำถามที่ชาวเน็ตและแฟนคลับต่างสงสัยว่า นัท มีเรีย ท้องหรือไม่นั้น ล่าสุด มดดำ คชาภา ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวไว้ใน รายการข่าวใส่ไข่ ทางไทยรัฐทีวี “ไหนท้อง ฉันว่าชุด ฉันว่าชุด ไม่ท้องแล้ว ถ้าท้อง ท้องไปนานแล้ว ไม่ท้องหรอก เชื่อเถอะ คุณนายนัท 49 แล้ว จะมาท้องอะไรวันนี้ รอเจ้าตัวมาเคลียร์ชัด แต่ไม่ท้องหรอกรับรอง 100 เปอร์เซ็นต์” หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ อั้ม อธิชาติ – นัท มีเรีย จะขึ้นแท่นเป็นคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงแล้ว

เดินไร้จุดหมาย เด็กสาว 4 พี่น้องหนีพ่อติดยา คนช่วยพาเข้าบ้านจะขืนใจ โชคดีเจอตำรวจ

0

4 พี่น้องเยาวชนดิ้นรนเอาชีวิตรอด พ่อติดยาครอบครัวมีปัญหา พี่พาน้องๆหนีออกจากบ้านที่ชัยนาท เจอคนใจบุญคิดว่าจะช่วยที่แท้หวังขืนใจ ต้องเดินเท้าแบบไม่มีจุดหมาย เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.2567 ร.ต.อ.วัลลภ ทัศนาธนพงษ์ รองสวป. สภ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจรถยนต์ พาเด็กหญิง 4 คนซึ่งเป็นเยาวชนมาส่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี รับตัวทั้ง 4 คนไปดูแลชั่วคราว หลังพบทั้ง 4 คนโบกรถขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนกับพี่ๆเป็นคนจ.ชัยนาท พ่อติดยาแล้วชอบทำร้ายร่างกายจึงพากันออกจากบ้าน โดยมีคนช่วยเหลือให้ไปอยู่บ้านด้วยแต่ไม่นานก็มีพฤติกรรมชอบลวนลามและพยายามจะขืนใจ จึงตัดสินใจพากันนั่งรถมาลงหมอชิต แล้วต่อรถมาหนองใหญ่เพื่อมาอาศัยกับเพื่อน แต่พ่อ-แม่เพื่อนไม่ให้พักอยู่ด้วย จึงพากันเดินตามทางโบกรถไปเรื่อยๆจนมาพบตำรวจให้การช่วยเหลือ ด้านร.ต.อ.วัลลภ ระบุ ขณะออกตรวจพบเด็กทั้ง 4 ยืนอยู่ริมถนนจึงจอดรถสอบถามก่อนพามาที่โรงพัก เบื้องต้นได้ประสานไปยังทาง พม.จ.ชลบุรี และบ้านพักเมตตาสำหรับเด็กและครอบครัว เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือเด็กเยาวชนทั้ง 4 คนนี้ให้ได้รับการช่วยเหลือก่อนมืด โชคดีเด็กทั้ง 4 ยังไม่ได้รับอันตรายเพราะ ยังเดินตามถนนที่พบเจอตำรวจ ไม่งั้นอาจจะถูกหลอกหรือถูกลักพาตัวไปทำอันตรายแน่นอน ซึ่งได้ประสานชมรมพยัคฆ์บูรพามารับน้องๆไปส่งให้ถึงถานสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี

เตือนพื้นที่ 3 ทุ่มคืนนี้ เฝ้าระวังฝนถล่มหนัก หวั่นท่วมหนักกลางดึก

0

วันที่ 14 ธันวาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วมรอบ 2 ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง รอบนอกและเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งรับน้ำจากเทือกเขาหลวง ในพื้นที่อำเภอลานสกา ซึ่งโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองคอนตามแนวพระราชดำริ แม้จะยังไม่แล้วเสร็จ แต่สามารถผันระบายน้ำเลี่ยงตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปได้กว่า 50% อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักบนเทือกเขาหลวงทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลลงสู่เบื้องล่างและเข้าสู่คลองผันน้ำจนล้นและไหลลงลำคลองหลายสาย ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของลำคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองรอบนอกอย่างหนัก ตั้งแต่ตำบลไชยมนตรี มะม่วงสองต้น นาทราย นาคียน และตำบลโพธิ์เสด็จ โดยบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนถูกน้ำท่วมจำนวนมาก พื้นที่การเกษตรและถนนในหมู่บ้านเกือบทุกสายถูกตัดขาด จนรถเล็กไม่สามารถขับผ่านได้ ซึ่งในจุดที่วิกฤตที่สุดอยู่ในบ้านหัวสะพาน-คลองวังมะพร้าว หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมหนักซ้ำซากต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 20 ปี ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ฝั่งคลองวังมะพร้าวถูกน้ำท่วมหนักระดับน้ำกว่า 1 เมตร ทางเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จได้เร่งตั้งโรงครัวปรุงอาหารและน้ำดื่มเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย พร้อมจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัยมาเฝ้าประจำในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมอพยพประชาชนไปอยู่ในวัดโพธิ์เสด็จหรือโรงเรียนวัดโพธิ์เสด็จ อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังยืนยันไม่ประสงค์ที่จะอพยพออกจากบ้าน ส่วนถนนเข้าหมู่บ้านธารริน หมู่ 8 ตำบลโพธิ์เสด็จ ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนเทวบุรี เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ถูกน้ำท่วมขังระดับน้ำเฉลี่ยกว่า 50 เซนติเมตร ในขณะที่ถนนเทวบุรีในจุดที่เชื่อมต่อกับถนนทางเข้าหมู่บ้านธารดินถูกน้ำท่วมขังระดับน้ำกว่า 40 ซม. เป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร ทำให้รถผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก ส่วนถนนเลียบทางรถไฟซึ่งเป็นถนนสายหลักระหว่างอำเภอพระพรหมกับสะพานท่าเรียน...

เปิดบ้าน ‘จอย ศิริลักษณ์’ คบแฟนหนุ่ม 10 ปีไม่เคยออกสื่อ เพิ่งรู้อายุห่างกันเท่านี้

0

จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค อดีตนักแสดงสาวเจ้าบทบาท สาวน้อยคาเฟ่ในตำนาน ที่วันนี้เธอจะมาเผยถึงสาเหตุที่ห่างหายจากวงการไปนานถึง 8 ปี ในรายการ “คุยแซ่บ Show” ทางช่อง One31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา ชมพู่ ก่อนบ่าย และ ใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร และเปิดชีวิตติดเรียนจนกำลังจะกลายเป็นว่าที่ ดร. ไปแล้ว พร้อมไขข้อสงสัยคบแฟนมาเกือบ 10 ปี แต่ไม่เปิดตัวออกสื่อเลยตอนที่กำลังดัง อยู่ดีๆ ก็เฟดออกจากวงการเลยเกิดอะไรขึ้น? จอย : ก็มีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น เราทำงานก็ใช้ความจริงใจนำหน้า อะไรที่เรามีความสุขเราทำเต็มที่ แต่พอช่วงเวลานั้นเรารู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เราไม่มีความสุขกับตรงนี้ ประกอบกับว่าเรามาสนใจอย่างอื่นรอบตัวเรา เวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เล็ก เราเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เราอยู่ตรงนี้มานานมาก จนถึงวันหนึ่งเรารู้สึกว่ามีอะไรอีกมั้ยที่เราอยากทำ เลยคิดว่าเราน่าจะมีเวลาทำอะไรให้สังคมบ้าง ในเชิงของนักแสดงก็ได้ทำอะไรเพื่อสังคมอยู่แล้ว แต่มันก็แค่ด้านหนึ่ง แต่ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะทำเต็มที่ เต็มตัว มุมหนึ่งเราก็รู้สึกว่าเราได้ตอบแทนคนที่เค้าชื่นชอบเราด้วย มันน่าจะเป็นช่วงที่เราอยากจะทำอะไรก็ทำ ที่ผ่านมาทั้งหมดตั้งแต่เด็กจนโตจนมีชื่อเสียงอะไรที่เราพลาดไป หมายถึงยังมีอะไรที่ขาดอีก ที่ยังไม่ได้ทำ มีอะไรที่อยากเรียนอีก อยากรู้อีก เราก็เลยสนใจเรื่องนั้น แล้วก็ไปทำ จัดเวลาตัวเองใหม่ ปัจจุบันมีผู้ชายคนหนึ่งมาดูแลหัวใจเกือบ 10 ปีแล้ว...

ส่องชีวิตล่าสุด ‘ชลิต เฟื่องอารมย์’ ผันตัวทำสวนทุเรียน รวยเป็นเศรษฐีร้อยล้าน

0

หายหน้าหายตาจากจอทีวีไปพักใหญ่ สำหรับ ตุ่ม-ชลิต เฟื่องอารมย์ นักแสดงอาวุโส เปลี่ยนเส้นทางชีวิต หันไปเป็นเกษตรกรปลูกทุเรียน ขายดีมากจนคนมาเหมาทั้งสวน ล่าสุด ตุ่ม ชลิต ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ พร้อมเปิดใจเรื่องงานในวงการบันเทิงหลังจากนี้ เริ่มต้นที่จะไปเป็นชาวสวนทุเรียนตั้งแต่เมื่อไร ? “ตั้งแต่เราวัยรุ่นแล้วนะ ตั้งแต่เริ่มเล่นละคร เริ่มมีอาชีพเป็นนักแสดง ซึ่งตากล้องช่อง 3 เขาจะขายพื้นที่จันทบุรีไร่ละ 30,000 ซึ่งเราก็พอจะมีเงินไปซื้อ แล้วจันทบุรีเขาปลูกทุเรียน เราก็เริ่มปลูกแต่พื้นที่โล่งๆ ว่างเปล่า ตอนแรกซื้อมา 15 ไร่ และทำไปเรื่อยๆ ซึ่งครั้งแรกเราก็ปลูกทุเรียนเลย แล้วก็มังคุด เงาะ ลองกอง อะไรที่เป็นผลไม้ของเมืองจันเราลงหมดเลย” การทำสวนมันอยู่ในความฝันเราไหม ? “เราเรียนรู้และศึกษาเอาเอง จากคุณที่เราให้เขามาดูแลสวน ซึ่งเมื่อก่อนเราไปนอนพักผ่อนและมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนเขาอย่างเดียว พอเราเริ่มรู้จักคนที่สมาคมเมืองจัน เราก็ไปช่วยงานเขาบ่อย จนกลายเป็นคนเมืองจันไปแล้ว และเราก็ไปหากินที่นู้น ช่วยงานจังหวัดโดยไม่ต้องจ่ายค่าตัว ไปช่วยให้ฟรี” ตอนนี้ขยายได้กี่ไร่แล้ว ? “จาก 15 ไร่ ตอนนี้เป็น 50 ไร่แล้ว และเราก็เริ่มซื้อไปเรื่อยๆ ตรงไหนเขาเดือดร้อนมาเราก็ช่วยซื้อ ซึ่งเมื่อก่อนคนสวนถือว่าไม่มีเงินเหมือนตอนนี้ เมื่อก่อนทุเรียนถูกราคา 30 บาท แต่ปัจจุบันมูลค่ามันขึ้นมาเยอะขึ้นเพราะเราส่งออกไปที่จีน” ค่าใช้จ่ายเดือนเท่าไหร่ ? “ใช้เงินหลักแสนในการทำสวน ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำสวนแล้วก็คนงาน ถ้าพูดถึงตอนนั้นกับตอนนี้การลงทุนก็ใกล้เคียงกัน แต่ตอนนี้มากขึ้นกว่าทุเรียนเป็นโรคมากขึ้น...

‘ขวัญ พิมพ์อัปสร-โย ทัศน์วรรณ’ ทุ่มเปิดร้านขายสิ่งนี้ให้พี่สาวสรพงศ์

0

เป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ทางด้าน โย ทัศนวรรณ์ อดีตภรรยาของ สรพงศ์ ชาตรี และลูกสาว ขวัญ พิมพ์อัปสร ตัดสินใจรับพี่สาวของ สรพงศ์ ชาตรี มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน เนื่องจากอายุมากแล้วและไม่มีคนดูแล รวมถึงมีความสนิทสนมกับทางด้าน โย ทัศนวรรณ์ และ ขวัญ พิมพ์อัปสร ซึ่งทางด้าน ขวัญ พิมพ์อัปสร โพสต์รูปภาพของคุณป้าอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเป็นภาพของคุณป้าและคุณแม่ที่อยู่ด้วยกัน คอยช่วยกันดูแลคุณป้ามาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็นโมเมนต์ที่น่ารักมากๆเลยทีเดียว ล่าสุดทางด้าน ขวัญ พิมพ์อัปสร ทุ่มเปิดร้านอาหารให้คุณป้า โดยได้ออกมาโพสต์ข้อความเอาไว้ว่า ในที่สุดค่ะ สักที! ร้าน “#ครัวชั้นเอก”เราได้ฤกษ์ถมที่แล้ววว ที่ช้า(มากกก)ไม่ใช่ไร ความพิถีพิถันตามมาตรฐานป้า ก็คือต้องหาดินที่ดีที่สุด จะมาดินเหนียว ดินทราย เศษขยะ อะไรที่ปกติเค้าก็ใช้ถมๆที่กันไปก่อน คุมป้าคือไม่ได้! ไม่ยอม! เรื่องถมดินยังขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหาร ถึงเราจะทำอาหารบ้านๆ แต่เรื่องความสะอาด ความอร่อย และทุกๆความ ป้าไม่ปล่อยผ่านแน่นอน ใครรอมาชิม”กับข้าว”คุณป้าที่เราส่งทางไปรษณีย์ให้ไม่ได้ และเป็นเมนูโปรดของคุณพ่อด้วย อดใจรออีกหน่อยนะคะ รับรองหาทานที่ไหนไม่ได้แน่นวลค่ะ

บ้าน ‘กรีน อัษฎาพร’ ประหยัดทุกทางเพื่อครอบครัว ใช้หนี้แทนพ่อ 30 ล้าน

0

นางเอกสาว “กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” เปิดใจทำงานหาเงินใช้หนี้ 30 ล้าน แบ่งช่วยกันกับน้องสาว เผยหลังพ่อเสียชีวิตได้รู้มีน้องชาย 3 คน เป็นหนึ่งสาวที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อครบครัว สำหรับนางเอกมากความสามารถ “กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” ที่หลังจากสูญเสียคุณพ่อก็ต้องแบกภาระหนี้สินประมาณ 30 ล้านบาท โดยเจ้าตัวก็ต้องบาลานซ์ค่าใช้จ่ายและทุ่มเททำงานเพื่อเป็นเสาหลักที่บ้าน โดย “กรีน” มาอัปเดตชีวิตและเรื่องหนี้ของครอบครัวในรายการแฉ พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมีน้องชายพ่อเดียวกันอีก 3 คน สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก? “ใช่ค่ะ” หาเงินมาไม่เคยได้ใช้เงิน ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่ไหม? “ก็ใช้ในส่วนที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ไปถ่ายละครก็ต้องมีเงินติดตัว แต่พอได้เงินมาก็ต้องเอาไปใช้หนี้สินก่อน เอาไปใช้ในส่วนที่บ้านต้องใช้จ่าย อะไรที่ฟุ่มเฟือยไม่ค่อยได้ใช้ แต่เมื่อก่อนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีหนี้สินก็ยังใช้ แต่พอเริ่มมีหนี้ มีภาระ อะไรที่ไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ ต้องมองครอบครัวก่อน” ต้องหาเงินเท่าไหร่ ถึงจะใช้หนี้ทั้งหมด? “ก็เยอะ เหมือนที่หนูเคยบอก 30 ล้านบาท ณ วันนี้เป็นคดีที่ปิดไปแล้ว ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้แล้ว ต้องผ่อนชำระอย่างเดียว จนกว่าจะหมด 30 ล้าน กรีนกับน้องสาวอีก 2 คน ช่วยกันทำงานหาเงิน ซึ่งน้องสาวไมได้เป็นนักแสดงแล้วหาเงินก้อนได้แบบกรีน น้องเป็นพนักงานประจำที่ต้องหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังใช้หนี้อยู่ ยังไม่หมด คดีมีทั้งหมด 5 คดี มี 3 คดีที่เป็นคดีแดงที่ต้องผ่อนแล้ว เราก็แบ่งกัน 3...

กยศ. ประกาศเอาจริง ล่าสุดโดนแล้ว 40 ราย

0

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ทางเพจ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ❗️กยศ. ย้ำการเบี้ยวจ่ายหนี้อาจมีความผิดอาญาฐานโกงเจ้าหนี้❗️ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงความรับผิดเพิ่มเติมกรณีมีผู้ชักชวนผู้กู้ยืมเงิน กยศ. เบี้ยวจ่ายหนี้และโอนทรัพย์สินหนีการบังคับคดี อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ฐานโกงเจ้าหนี้ และความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย  ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ย้ำเตือนว่า “ตามที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อ้างตัวเป็นผู้กู้ยืมเงิน กยศ. โพสต์รีวิวการบิดหนี้ กยศ. โดยชักชวนผู้กู้ยืมเงิน ไม่ให้ชำระหนี้คืนและโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับคดีนั้น กยศ. ขอย้ำเตือนว่าการเบี้ยวหนี้โดยโอนทรัพย์สินไปให้ผู้อื่นโดยมีเจตนาไม่ให้กยศ. ได้รับชำระหนี้นั้น นอกจาก กยศ. จะสามารถยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 แล้ว ผู้กู้ยืมเงินยังอาจมีความรับผิดทางอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ซึ่งกำหนดว่า “ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นอกจากนี้ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือให้ความสะดวกในการกระทำความผิดย่อมเข้าข่ายผู้สนับสนุนซึ่งจะมีความผิดและได้รับโทษทางอาญาเช่นกัน โดยที่ผ่านมามีผู้กู้ยืมเงินได้ดำเนินการดังกล่าว ซึ่ง กยศ. ได้มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ไปแล้วกว่า 40 ราย กยศ. ขอย้ำว่า กยศ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีวัตถุประสงค์ในการให้โอกาสทางการศึกษาและประชาชนผู้ขาดแคลนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เงินทุกบาทที่ผู้กู้ยืมเงินนำมาชำระหนี้จะส่งต่อถึงนักเรียนนักศึกษารุ่นต่อไปเพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ผู้กู้ยืมเงินมีจิตสำนึกในการชำระหนี้คืนในทันที ที่มีโอกาส เพื่อให้เงินทุกบาทตกทอดแก่นักเรียน...