วันที่ 28 ก.ค.67 ผู้วื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า นายคงเดช เนียมไผ่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหญิงชรานั่งรถเข็นวีลแชร์ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ ใต้สะพานพระราม5 ใกล้กับปากซอยนรินทร์กลึง ต.บางไผ่ จึงประสานนายวีรวัฒน์ อินทรลักษณ์ เลขานุการ นายก อบต.บางไผ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
นายไพรัตน์ สีน้ำเงิน อายุ 63 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำพระราม 5 ไปพบหญิงชรานั่งตากแดดอยู่เป็นเวลานานกว่า 2 ขั่วโมง โดยที่ไม่มีใครมารับตัวกลับจึงได้เข้าไปสอบถาม ทราบชื่อคือ นางสมาน พรมไฉยา อายุ 73 ปี ชาว จ.ขอนแก่น โดยเปิดเผยว่า ตนพักอาศัยอยู่ห้องเช่ากับลูกสาวคนเล็กที่ เมื่อวานมีปากเสียงกับลูกสาวเรื่องที่ตนต้องการไปทำบุญใส่บาตรให้กับลูกสาวคนโตที่เสียชีวิต ซึ่งตรงกับวันตายพอดี แต่ลูกสาวคนเล็กได้ต่อว่าตน ว่าจะมาพูดอะไรบ่อยๆ เขาไม่มีปัญญาไปทำบุญให้หรอก ตนก็บอกกับลูกสาวคนเล็กไปว่า แค่เราหุงข้าวหากับข้าวไปทำบุญใส่บาตรให้พี่สาวเขาก็ได้กินแล้ว ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นตนก็ถูกลูกสาวคนเล็กบ่นไม่เลิก แม้กระทั่งออกไปทำงานกลับมาก็ยังบ่นเรื่องนี้อีก จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เขาให้ลูกเขยอุ้มตนขึ้นรถแท็กซี่พร้อมกับรถเข็น แล้วพามาปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้
นางสมาน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาถูกลูกสาวคนนี้กล่าวหาว่า ไปแจ้งตำรวจมาจับเขา ทั้งๆที่ตนเองไม่เคยไปโรงพักแจ้งความเลย เขาเข้าใจผิดเพราะเห็นตำรวจขี่รถมาจอดแวะเวียนมาคุยกับตนที่ห้องเช่า ก็กลายเป็นเรื่องกระทบกระทั่งกันเรื่อยมา จนมาถึงเรื่องทำบุญให้พี่สาวเขา ทำให้ตนคิดมาก ว่าทำไมลูกสาวคนนี้ถึงคิดกับคนที่เป็นแม่เขาแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยากกลับไปอยู่กับลูกสาวเหมือนเดิม ถ้าได้กลับไปอยู่กับลูกสาวอีกครั้ง จะระมัดระวังเรื่องคำพูดให้มากกว่านี้ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
ทางด้านนายไพรัตน์ สีน้ำเงิน อายุ 63 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำพระราม 5 กล่าวว่า เห็นคุณยายถูกนำมาทิ้งไว้เมื่อช่วงเช้า โดยคุณยายนั่งอยู่บนรถเข็นบนฟุตบาท จึงเดินไปดูแล้วเข็นคุณยายมาไว้ที่ร้าน เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตก ซึ่งคุณยายไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง จอดรถเข็นอยู่เฉยๆ จากการสอบถามทราบว่าคุณยายมาจากซอยกรุงเทพนนท์ 13 ซึ่งเป็นบ้านของลูกสาว โดยคุณยายนั่งแท็กซี่มา จากนั้นรถแท็กซี่ได้ให้คุณยายลงตรงจุดนี้ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงจึงได้ติดต่อผู้ใหญ่บ้าน เพราะทราบว่าคุณยายนั่งอยู่ตากแดดมาประมาณ 3 ชม.แล้ว
นายวีรวัฒน์ อินทรลักษณ์ เลขานุการ นายก อบต.บางไผ่ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ทางนายก อบต.บางไผ่ ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่มาตรวจสอบ จึงได้ประสานกับทาง พม.จ.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาช่วยเหลือ หลังสอบถามจนสามารถติดต่อกับทางลูกสาวคุณยายและพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้แล้ว จึงได้นำตัวคุณยายกลับไปส่งที่บ้านของลูกสาวตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนำตัวนางสนาม เข้ามาหลบแดดเพื่อสอบถามรายละเอียดจนได้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไปหาลูกสาวของนางสมาน ซึ่งใช้เวลาพูดคุยปรับความเข้าใจกันเกือบ 1 ชั่วโมง เนื่องจากลูกสาวของนางสมาน ยังคงอยู่ในอารมณ์โมโหและต่อว่านางสมาน ผู้เป็นมารดาว่าชอบหาแต่เรื่องมาให้ และไม่ขอรับตัวนางสมาน กลับมาอยู่ด้วย แม้จะมีความผิดจนต้องถูกดำเนินคดีก็ตาม จนกระทั่งนางสมาน ต้องยอมเอ่ยปากขอโทษบุตรสาว จึงทำให้อารมณ์เย็นลง ก่อนจะเปลี่ยนใจให้เจ้าหน้าที่พาตัวนางสมาน กลับมาส่งที่ห้องเช่าและอยู่ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องถูกส่งตัวไปยังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี รายงาน