Home ข่าว สุขภาพ อย่าเห็นแก่ของถูก!!! ปลา 3 ประเภท ที่ควรกินให้น้อย เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง

อย่าเห็นแก่ของถูก!!! ปลา 3 ประเภท ที่ควรกินให้น้อย เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง

163

ปลา 3 ประเภทนี้ แม้จะหาซื้อได้ง่ายในตลาดและราคาถูกแค่ไหน ก็ควรกินให้น้อย เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง 

เนื้อปลาขาวนุ่ม หอมสดใหม่ พอวางเสิร์ฟบนโต๊ะก็มีกลิ่นชวนกินจนอยากตักทันที หลายคนเชื่อว่ากินปลาแล้วดีต่อสมองและสุขภาพแข็งแรง แต่รู้ไหมว่าปลาบางชนิดแฝงความเสี่ยงต่อสุขภาพ หากกินไม่ถูกวิธีอาจพาสารพิษเข้าสู่ร่างกายได้

โดยเฉพาะปลา 3 ประเภทที่พบได้บ่อยในตลาดทั่วไป แม้ราคาจะถูกแค่ไหน ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการกินลงจะดีกว่า

3 ชนิดปลาที่ควรระวัง

  1. ปลานักล่าขนาดใหญ่ เสี่ยงสารปรอทสะสมเกินมาตรฐาน
    ปลาพวกปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาอินทรี ปลาซอร์ดฟิช มักอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารทะเล จึงสะสมโลหะหนักอย่างสารปรอทได้ง่าย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็กยิ่งต้องหลีกเลี่ยง เพราะอาจกระทบต่อพัฒนาการทางสมอง ควรกินไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน และครั้งละไม่เกิน 100 กรัม
  2. ปลาทะเลแช่แข็งนาน เสี่ยงไขมันออกซิไดซ์
    ปลาทะเลอย่างปลาซาบะ ปลาอินทรี หากแช่แข็งไว้นาน หรือเนื้อปลามีสีเหลืองผิดปกติในช่องฟรีซ ต้องระวัง หากผ่านการละลายน้ำแข็งหลายรอบ หรือเก็บเกิน 6 เดือน ไขมันในปลาจะถูกออกซิไดซ์จนเหม็นหืน มีกลิ่นน้ำมันเหม็นไหม้ หากปรุงแล้วมีกลิ่นผิดปกติ อย่าเสียดาย ควรทิ้งทันที
  3. ปลาน้ำจืดที่ไม่รู้แหล่งที่มา เสี่ยงพยาธิและปรสิต
    ปลาน้ำจืดอย่างปลานิล ปลาดุก ปลาไหล หรือปลาช่อน ที่จับจากธรรมชาติอาจมีพยาธิใบไม้ในตับ หากปรุงไม่สุก เสี่ยงต่อสุขภาพสูง ควรหลีกเลี่ยงเมนูปลาดิบ ปลาลวก หรือโจ๊กปลาเลือดซิบ ๆ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ และสังเกตตาปลาต้องใส เหงือกแดงสด

4 หลักง่าย ๆ กินปลาอย่างปลอดภัย

  • เลือกชนิดปลาให้ถูก: ปลาทะเลขนาดกลาง เช่น ปลาจะละเม็ด ปลาทู ปลอดภัยกว่า ส่วนปลาน้ำจืดควรเลือกปลาที่เลี้ยงจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน กินเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละขนาดพอดีฝ่ามือก็เพียงพอ
  • ปรุงให้เหมาะสม: การนึ่งหรือต้มจะช่วยคงคุณค่าทางอาหารได้ดีที่สุด เลี่ยงการทอดน้ำมันท่วมที่อุณหภูมิสูงเกิน 180 องศา หากย่างควรห่อฟอยล์เพื่อลดสารก่อมะเร็ง
  • ตัดส่วนที่อาจสะสมสารพิษ: หัวปลา ไส้ปลา หนังปลา หากไม่มั่นใจความสะอาดควรเลี่ยง โดยเฉพาะเยื่อสีดำในช่องท้องปลา เป็นแหล่งสะสมสารพิษ ควรขูดออกก่อนปรุงเสมอ
  • กินคู่กับของที่เหมาะสม: กินปลาคู่กับเต้าหู้หรือหัวไชเท้าช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร แต่อย่ากินกับลูกพลับหรือส้มซ่า เพราะอาจทำให้ท้องอืด ท้องเสียได้

ใครควรระวังเป็นพิเศษ

  • ผู้ป่วยโรคเกาต์: ควรลดการกินปลา โดยเฉพาะช่วงที่อาการกำเริบ
  • คนที่แพ้ง่าย: หากไม่เคยกินปลาชนิดนั้นมาก่อน ควรลองกินทีละน้อยก่อน
  • ผู้ที่กำลังรับประทานยาปฏิชีวนะ: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินปลา

เคล็ดลับเลือกปลาสด ดู 3 จุดสำคัญ

  • ตาปลา: ต้องใส มีประกาย เล็กน้อย ไม่ขุ่นมัว
  • เหงือกปลา: ต้องแดงสด ไม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
  • เนื้อปลา: ต้องแน่น เด้ง มีความยืดหยุ่นดี

ข้อควรระวัง: หากปลาดูเงาวับ เกล็ดแวววาวผิดธรรมชาติ อาจมีการใช้สารเคมีในการตกแต่ง ปลาที่สดจริงไม่จำเป็นต้องดูสวยสมบูรณ์ที่สุดเสมอไป

ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่ไม่ควรกินสุ่มสี่สุ่มห้า เลือกให้ดี อย่าซื้อเพราะแค่ราคาถูกหรือสะดวก เพราะอาจเสี่ยงสารพิษโดยไม่รู้ตัว