วันที่ 30 ส.ค.2567 ที่ สภ.เมืองสกลนคร ได้มีนางพีรญา (สงวนนามสกุล) หรือ คุณแอน อายุ 44 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี มาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เพื่อนำหลักฐานรายการเดินบัญชีธนาคารมายื่นเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2567 ได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ไว้ว่าถูกถอนเงินจากบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นคนถอนเงิน และไม่เคยทำธุรกรรมการเงินในบัญชีธนาคาร เนื่องจากตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 ตนพักอาศัยอยู่กับลูก 3 คน ที่ประเทศนิวซีแลนด์มาโดยตลอด

1725004423219

กระทั่งเพิ่งกลับประเทศไทยเมื่อเดือน มี.ค.2567 ก็พบว่าทรัพย์สินหลายรายการ รวมไปถึงเงินสดจำนวนกว่า 3,800,000 บาทหายไปจากบัญชีธนาคาร ทั้งที่ระหว่าง 5 ปีมานี้ตนไม่เคยกลับมาประเทศไทยเลย พอเกิดเรื่องจึงรีบกลับมาตรวจสอบ

คุณแอน กล่าวทั้งน้ำตาว่าตนกับสามี อายุ 47 ปี ชาวจ.สกลนคร ได้แต่งงานจดทะเบียนสมรสอยู่กินกันมา 19 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วยกันทำมาหากิน เปิดบริษัทลิสซิ่งร่วมกันจนมีฐานะ เมื่อ พ.ศ.2561 พอลูกโตตัดสินใจพาลูกไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีตนเป็นคนเลี้ยงลูกอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนสามีดำเนินการประกอบธุรกิจอยู่ที่จ.สกลนคร

1725004395549

ต่อมาต้นปี พ.ศ.2567 ระยะเวลาผ่านไปกว่า 5 ปี เริ่มระแคะระคายว่าสามีแอบไปมีชู้แล้วแต่งงานใหม่ จึงบินกลับมาประเทศไทยเพื่อตรวจสอบปรากฎว่าเป็นจริงตามคาด พร้อมกันนี้ยังตรวจสอบพบอีกว่าทรัพย์สินหลายรายการ เช่นบ้าน ที่ดิน รวมไปถึงเงินสดในบัญชีธนาคารของตนถูกถอนและเซ็นโอนขายไปหมดเกลี้ยงแล้ว พอทราบดังนั้นเลยดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนของการฟ้องร้องต่อศาล

วันนี้ได้เอาเอกสารหลักฐานรายการเดินบัญชีธนาคา รเอกสารการเดินทางเข้า-ออกประเทศมามอบเพิ่มให้กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสกลนคร โดยเอกสารข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ระบุว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 ตนเดินทางออกนอกประเทศไทย และกลับเข้ามาเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2567 ซึ่งระหว่าง 5 ปีนี้ที่ตนไม่ได้อยู่ในประไทย บัญชีธนาคารชื่อของตนเองนั้นเงินถูกถอนออกไปได้อย่างไรและทั้งที่เจ้าของบัญชีธนาคารไม่ได้มาด้วยตัวเอง ทำไมถึงสามารถเบิกถอนออกไปได้ โดยรวมทั้งหมด 15 ครั้ง เงินจำนวน 3,800,000 บาท จึงตั้งข้อสงสัยว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นได้อย่างไร

1725004371015

เมื่อติดต่อสอบถามไปยังธนาคารแห่งนั้น ได้รับคำตอบว่ามีการถอนเงินออกไปจากบัญชีไปหลายครั้ง โดยการเขียนเบิกถอนและนำสมุดบัญชีเล่มจริงมาแสดงพร้อมกับเอกสารประจำตัวของตน ซึ่งขอยืนยันว่าตนไม่เคยเซ็นกำกับเอกสารหรือเซ็นมอบอำนาจให้ใคร สำหรับเรื่องนี้ตนสงสัยสามีที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่ ว่าอาจจะเป็นคนไปปลอมเอกสารและลายเซ็นเเบิกถอนหรือไม่ เนื่องจากสมุดบัญชีเล่มจริงตนเอาเก็บไว้ในตู้เซฟอย่างดี มีแค่สามีที่ทราบรหัสตู้เซฟ ส่วนทางธนาคารดังกล่าวก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการว่าต้องทำอย่างไรบ้างในการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ที่ทางธนาคารพอจะช่วยเหลือได้ตามกรอบกฎหมาย

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกทุกข์ใจมากอยากดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง หวังอยากได้เงินคืนโดยเร็ว เพราะตอนนี้แทบไม่มีเงินประคองชีพในไทยแล้ว ไหนจะค่าเลี้ยงดูลูกและค่าเทอมที่เมืองนอกอีก ซึ่งตอนนี้บัญชีก็เหลือเพียงเงินติดบัญชีเพียง 600 บาท และวันนี้ก็ต้องกลับ จ.ปราจีนบุรี เพราะสิ่งที่ทำไว้กับสามีอยู่ที่ จ.สกลนคร ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ส่วนลูกทั้ง 3 คนนั้นเขาก็ไม่ค่อยติดต่อไปและลูกตัดสินใจจะอยู่กับแม่ เพราะสงสารแม่.