เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่คุณแม่ท่านนึงคุณแม่ท่านหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้ตัดสินใจส่ง เป่าเปา ลูกสาวอายุ 2 ขวบ ให้เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล และยังคงเป็นห่วงไม่ได้เช่นเดียวกับพ่อแม่คนอื่นๆ จึงคอยตรวจเช็กภาพที่ครูส่งมาในกลุ่มเสมอ

บ่ายวันหนึ่ง ครูส่งวีดีโอบันทึกภาพการนอนกลางวันของเด็กๆ ให้กับผู้ปกครอง ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะจดจำตำแหน่งของลูกสาว จึงสังเกตเห็นได้ทันทีว่าลูกสาวมีพฤติกรรมแปลกๆ เป่าเปานอนหงาย คลุมร่างกายด้วยผ้าห่มผืนเล็ก แขนวางข้างลำตัว อย่างไรก็ตาม มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่ม แล้วขยับตบร่างกายตัวเองเบาๆ ไม่หยุด ราวกับว่ายังไม่สามารถนอนหลับได้

ในตอนแรกผู้เป็นแม่เห็นแล้วไม่สบายใจ แต่เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิดจึงรู้ว่า นี่เป็นสิ่งที่ลูกสาว ติดนิสัย เวลานอนเนื่องจากปกติเธอมักจะคอยอยู่ข้างๆ และตบก้นกล่อมลูกสาวเสมอ แต่เมื่อไปโรงเรียนอนุบาล ครูไม่สามารถดูแลเด็กเพียงคนเดียวได้ เป่าเปาจึงทำท่านี้เพื่อกล่อมตัวเองให้หลับ

เมื่อเห็นภาพลูกกำลัง กล่อมตัวเองนอน คนเป็นแม่ก็น้ำตาไหลออกมา เธอทั้งรู้สึกเศร้าและมีความสุขเพราะเป่าเปาเติบโตจนดูแลตัวเองได้แล้ว เมื่อลองสอบถามครูถึงสถานการณ์ของลูก ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อพบว่า เป่าเปาเป็นเด็กดี ประพฤติตนดีกับทุกคนเสมอ

หลังจากที่เรื่องราวของคุณแม่เป่าเปาถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ผู้ปกครองหลายคนก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องลูกๆ ที่น่าสนใจในลักษณะคล้ายกัน เช่น ลูกฉันก็ทำแบบเดียวกัน ถ้าไม่มีใครปลอบเขา เขาก็จะปลอบตัวเอง ตอนนั้นลูกดูน่ารักมากเลย

ทั้งนี้ โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่จัดตารางการงีบหลับให้กับนักเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง เพียงพอ สำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ในช่วงบ่าย ขณะเดียวกันการงีบหลับยังช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจอีกด้วย

ดังนั้นเพื่อให้เด็กๆ ปรับตัวเข้ากับเวลางีบหลับของโรงเรียนได้ไม่ยากเกินไป ผู้ปกครองควรฝึกให้บุตรหลานมีนิสัยการงีบหลับตรงกับเวลางีบในโรงเรียนอนุบาล เมื่อไปโรงเรียนลูกจะหลับง่ายโดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากครู เพราะการฝึกความเป็นอิสระ การควบคุมตนเอง และนิสัยการใช้ชีวิตที่ดีให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าพ่อแม่เน้นสอนเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์กับลูกมากในอนาคต