มิเรียน มาเหนือดราม่า มองทุกเรื่อง เป็นแค่บทเรียน ภาวนาให้เรื่องจบสวย ชม พีเค น่ารัก ไม่เคยโกรธใคร

ถึงเรื่องจะเจอดราม่า หรือทัวร์ลงมามาแคไหน ตั้งแต่พิธีกรดัง พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร เปิดตัว มิเรียน สุเดชา อัคเซลการ์ด ว่าเป็นรักใหม่ที่เข้ามาดูแลหัวใจ แถมยิ่งเป็นประเด็นร้อนเมื่อฝ่ายหญิงนำหลักฐานเรื่องการเงินของพีเค ที่อดีตภรรยาเคยดูแลอยู่ออกโพสต์ คล้ายจะเป็นการบอกในๆ ว่าพิธีกรดังเตรียมที่จะฟ้องอดีตภรรยา

แต่มิเรียม ก็ยังไม่ไปไหน ยังคงอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจพิธีกรดังไม่ห่าง ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจถึงประเด็นดราม่าที่เข้ามา

พอเราให้กำลังใจเราเจอทั้งดราม่าและทัวร์รู้สึกอย่างไรบ้าง ?

“ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ว่าเรามีที่ปรึกษาที่ดีเรามีผู้ใหญ่มีเพื่อนที่ให้กำลังใจและรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราจึงก้าวข้ามผ่านตรงนั้นได้เร็ว สำหรับใครที่เจออยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวเรื่องครอบครัวคนที่เจอแบบนี้แนะนำว่าให้หาเพื่อนคุย คนข้างนอกเขาจะรู้วิธีการจัดการของปัญหาเพราะเขามองจากข้องนอกเข้ามา เขาจะบอกวิธีการจัดการปัญหาของเรา เราก็รับฟัง”

ในวันที่เราออกมาปกป้องเขา แต่โดนกระแสตีกลับรู้สึกอย่างไร ?

“ไม่มีใครคิดว่ากระแสจะไปทางไหน ที่ผ่านมาก็ทำให้เรียนรู้ว่าอะไรที่เราควรควรทำและไม่ควรทำพี่พีเคก็บอกว่าค่อยๆ เรียนรู้ไปเพราะว่าเราใหม่มาก”

ตอนนี้ยังกดดันกับดราม่าที่เข้ามาไวไหม ? “เชื่อว่าทุกคนเคยเจอ มันขึ้นอยู่กับว่าคนข้างๆ เราเข้าใจไหม ครอบครัวก็ให้กำลังใจไม่มีใครซ้ำเติม สิ่งนี้สำคัญมากๆ อะไรที่เราทำผิดไป แค่ยอมรับและมูฟออน ถ้าเกิดทำอะไรให้ใครรู้สึกไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วย และจะนำมาปรับใช้ บางอย่างก็ปล่อยผ่าน เราคิดว่าคนที่พูดเขาต้องการที่จะบอกอะไรเราเสมอ บางคนก็อาจจะมีประสบการณ์มากกว่าเรา เขาก็มาบอกเราอาจด้วยอารมณ์หรือความเป็นห่วงเราก็รับไว้ทั้งหมด”

ขยับตัวก็เป็นดราม่า ขนาดมาให้กำลังใจพีเค ยังโดนแซะว่าห่างกันไม่ได้ ?

“ต้องบอกว่า ณ ตอนนี้คนรอบตัวเขา คือคนที่สำคัญเราก็ทำหน้าที่ตรงนั้นด้วย จริงๆก็มีทั้งเพื่อนและครอบครัวเขาเพียงแค่สื่อจับตาแค่มิเรียนเท่านั้นเอง”

ตอนแรกๆ คนก็แซะว่าเราออกตัวแรง? “เป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเรา เวลาที่เราทำงานมาเวลามีปัญหาอะไรเราก็จะรีบแก้ทันที เราไม่ใช่ดารา ดังนั้นเวลาที่เราจะออกมาทำอะไร เราก็อาจจะไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่มันจะกระทบเข้ามา พอเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องยอมรับว่าอันนี้คือสิ่งที่เราทำไป ผู้ใหญ่ก็จะถามว่าเรายอมรับได้ไหม

อันนี้คือดิจิตอลปริ้นนะอีกหน่อยลูกคุณมาอ่านคุณจะตอบลูกคุณยังไง เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของใครบางคนเสมอ เราก็คงอธิบายให้ลูกฟังว่าวันหนึ่งแม่เคยทำอย่างนี้นะ แม่เป็นแบบนี้นะ ลูกจะทำไมก็แล้วแต่”

“มันเป็นเรียนรู้อย่างหนึ่งเราก็ได้ขอโทษหลายๆ คนที่ทำให้เกิดผลกระทบโดยเฉพาะพี่พีเค เห็นเขาแบบนั้นแต่เขาไม่โกรธใครเลย บอกว่าไม่เป็นไรนั่นคือวิธีการเรียนรู้ จะบอกว่าเขาน่ารัก ยังไงเราคงต้องเบาลง ค่อยๆทำ ไม่ต้องรีบ”

ทำไมถึงตัดสินใจไม่ออกมาพูดตอนที่เป็นข่าวแรกๆ จนมันกลายเป็นเขาใหญ่?

“การตีประเด็นของข่าวก็ไม่ได้ตรงประเด็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่เราจะต้องออกมาพูดอะไร เพื่อให้มันมีผลกระทบไปมากกว่านี้ “ในสงครามไม่มีใครบาดเจ็บกันทั้งหมด” ให้เรื่องนี้มันจบที่เราแล้วกัน

ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นไปในทางไหนมันก็แล้วแต่การตัดสินใจให้มันเป็นเรื่องของอนาคต เหตุผลที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมาพูดเลยเพราะเราอยากให้ทุกคนก้าวผ่านตรงนี้ไป อยากให้ทุกคนมีความสุขจากเรื่องที่เกิดขึ้น

“สำหรับอนาคตเราก็คุยกับเขาภาวนาให้มันจบ โดยที่ทุกคนมีความสุขมากที่สุด เราจะได้โฟกัสอนาคตได้ดีที่สุด ณ วันนี้เวลาที่ให้ไปทั้งหมดก็ให้กับเขา ล่าสุดรุ่นพี่เพิ่งเสียชีวิตไป เราก็รู้สึกว่าชีวิตมันก็สั้น ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตเป็นเรื่องของการแผนมากกว่า ความรักไม่ใช่เรื่องของเราสองคน มันเป็นเรื่องของคนรอบข้าง ถ้าเกิดคนรอบข้างแฮปปี้ ลูกเราแฮปปี้ ครอบครัวเรา ครอบครัวเขาแฮปปี้มันก็รู้กันอยู่เท่านี้”