จากกรณีตัวอย่างของ นายหลิว ผู้ปกครองในประเทศจีน ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกลงบนโซเชียลมีเดีย โดยบอกว่าเขามีลูกคนหนึ่งที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษา นับตั้งแต่เข้าโรงเรียนก็มักจะได้คะแนนอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ คำชมของครูทำให้เขาและภรรยาภูมิใจในตัวลูกมาก ดังนั้น เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสอนหนังสือลูก ให้ความสำคัญกับการสอบทุกครั้งของลูกอย่างจริงจังมาโดยตลอด

อย่างไรก็ดี ในการสอบคณิตศาสตร์ล่าสุด มีข้อหนึ่งที่ลูกพลาดคะแนนไป และทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากโจทย์ข้อดังกล่าวถามว่า ในห้องเรียนมีไฟ 12 ดวง ปิดไฟ 3 ดวง ห้องเรียนเหลือไฟกี่ดวง? และลูกของเขาก็คำนวณให้คำตอบไปว่า 12-3=9 ซึ่งเขาเองก็มั่นใจว่าคำตอบนั้นถูกต้องแล้ว แต่กลับถูกขีดฆ่าว่าผิด สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจไปถามคุณครูด้วยตัวเอง

ในด้านของคุณครู เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของผู้ปกครอง ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในขณะที่ค่อยๆ อธิบายให้ฟังอย่างใจเย็น นี่เป็นปัญหาทางคณิตศาสตร์เพื่อทดสอบความสามารถในการคิดเชิงตรรกะของนักเรียนเป็นหลัก ผู้ปกครองควรอ่านคำถามอย่างละเอียด เพื่อดูว่าโจทย์ถามหาอะไร ชั้นเรียนมีไฟ 12 ดวง ปิดไฟ 3 ดวง ถามว่าในห้องเรียนเหลือไฟกี่ดวง แม้ปิดไฟแล้วแสงจะดับไป แต่จำนวนหลอดไฟยังเท่าเดิม ดังนั้น คำตอบยังคงเป็น 12 ดวง

เมื่อได้ฟังคำอธิบายทั้งหมด นายหลิวก็สับสนและเขินอายมาก เพราะตนเองมาถามครูด้วยอารมณ์โกรธเคือง เข้าใจว่าให้คะแนนลูกผิด แต่แท้จริงแล้วคำถามนี้จะช่วยทดสอบความสามารถในการคิดของนักเรียน และการประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากนี้ ปัญหาทางคณิตศาสตร์เหล่านี้ยังส่งผลต่อการสร้างนิสัยที่รอบคอบ กระตุ้นให้นักเรียนคิดหาวิธีต่างๆ ในการแก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความสามารถในการคิด และประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กด้วย