เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 มกราคม ร.ต.อ.วิศรุต สุขสกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กันทรารมย์ รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิต บ้านสีถาน ตำบลหนองบัว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังทราบเรื่องได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานมูลนิธิกู้ชีพหลักเมืองกันทรารมย์ ไปให้การช่วยเหลือ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ที่ 7 บ้านสีถาน ตำบลหนองบัว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ พบศพผู้เสียชีวิต เพศหญิง ทราบชื่อภายหลังคือ นางวิไลรัตน์ บุญสว่าง อายุ 52 ปี หัวหน้าครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลหนองบัว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สภาพศพผู้ตายนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลบริเวณลำคอ เลือดไหลท่วมตัว กระจายนองทั่วพื้นกระเบื้อง ในมือซ้ายกำมีดทำครัว ไว้แน่น ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ
นายไพรวัลย์ อายุ 57 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ตนกลับมาแต่รดน้ำสวนหลังบ้าน เมื่อมาถึงภายในบ้านมีการล็อคหน้าต่างประตูไว้ ตนจึงเคาะประตูบ้านเพื่อให้ นางวิไลรัตน์ ผู้ตาย เปิดประตูบ้านให้ ก่อนที่จะได้เสียง ตุ๊บ 1 ครั้ง ลักษณะคล้ายคนตกเตียง ด้วยความสงสัย ตนจึงงัดหน้าต่างเข้าไปดู ปรากฏว่า พบร่างของภรรยาของตนจมกองเลือดอยู่ ในมือซ้ายกำมีดไว้แน่น จึงรีบวิ่งออกมาเรียกชาวบ้านให้ช่วย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้ตายเคยพยายามที่จะก่อเหตุฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการปาดคอตัวเองตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาตนเคยขอร้องให้ตนเป็นคนช่วยปาดคอภรรยาให้ตนคิดว่าภรรยาตนพูดเล่น ซึ่งตนก็ไม่คาดคิดว่าภรรยาของตนจะมาก่อเหตุปาดคอตัวเองเสียชีวิตในครั้งนี้
นายไพรวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ด้วยสภาพอาการที่เป็นโรคซึมเศร้า จากสาเหตุหลายๆอย่าง และการรักษาโรคจากการผ่าตัดมดลูก และรังไข่ หลายครั้ง ผู้ตายได้บ่นตัดพ้ออยู่หลายครั้งว่า มีอาการผิดปกติไม่เหมือนชาวบ้านเขา มีอาการท้อแท้ และโทษตัวเองอยู่ตลอด จนเป็นภาวะของโรคซึมเศร้ามาตลอดเวลา และบ่นว่าจะตายอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยก่อเหตุรุนแรง และตนไม่คาดคิด ภรรยาของตน ซึ่งเป็นผู้ตายจะก่อเหตุปาดคอตัวเองตายแบบนี้ แต่กลัวที่จะฆ่าตัวตายโดยการผูกคอตายมากกว่า
นายไพรวัลย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ เคยเกิดเหตุครูพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ได้ปาดคอสามีเสียชีวิต ขึ้นแล้ว 1 ครั้ง ในพื้นที่อำเภอกันทรารมย์ ทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว จึงได้ให้ นางวิไลรัตน์ ผู้ตาย ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ลาป่วย ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เพื่อให้รักษาอาการ ก่อนที่จะมาเกิดเหตุสลดในครั้งนี้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้นำร่างของผู้ตายไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ก่อนที่จะนำส่งมอบให้กับทางญาติ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
