Home ข่าววันนี้ ปิดฉากเลือกตั้ง อบจ. จบสงคราม “แดง-น้ำเงิน-ส้ม” เกมการเมืองมีผู้ชนะและผู้แพ้

ปิดฉากเลือกตั้ง อบจ. จบสงคราม “แดง-น้ำเงิน-ส้ม” เกมการเมืองมีผู้ชนะและผู้แพ้

975

ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเลือกตั้ง นายกอบจ. 47 จังหวัดสุดท้าย “ค่ายแดง-ค่ายส้ม-ค่ายน้ำเงิน และบ้านใหญ่ รวมถึงมุ้งต่างๆ” ล้วนมีทั้งสุขสมหวัง และผิดหวังคละเคล้ากันไป เป็นเรื่องธรรมดาของเกมการเมือง เมื่อมีการแข่งขันแล้ว ย่อมมีผู้ชนะ และมีผู้แพ้

ซึ่งในทางประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องที่สวยงาม เมื่อประชาชนตัดสินแล้วก็ต้องยอมรับ และโอกาสหน้าฟ้าใหม่ ค่อยกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง โดยเลือกตั้ง อบจ.ในปีนี้ มีความแปลก และแตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ ค่อนข้างมาก หลายคนมองว่า เหมือนเป็นละครโรงใหญ่ เพราะพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งเพื่อไทย และ ประชาชน ต่างส่งผู้สมัครในนามพรรค และส่งผู้ช่วยหาเสียงระดับบิ๊กเบิ้ม ตัวตึงของแต่ละพรรคลงพื้นที่ ช่วยผู้สมัครหาเสียงอย่างดุเดือด ฟาดฟัน เชือดเฉือนกันตลอดเวลา

แม้บางพรรคไม่ส่งผู้เล่น แต่ส่งกำลังคน และกำลังใจไปช่วย ในบางพื้นที่ ก็กลายเป็นสีสันเบอร์ใหญ่ ถูกจับตาเป็นพิเศษ และเหมือนเป็นการส่งสัญญาณไปถึงการเมืองสนามใหญ่ในอนาคต ว่า “ค่ายแดง-ค่ายส้ม-ค่ายน้ำเงิน” ที่ต่อสู้กันในสนามอบจ.อาจจะจบศึกพักรบ พักการละคร กันเพียงชั่วคราว และ ทั้ง 3 ค่ายนี้ น่าจะเป็นตัวหลักในการท้าชิงสนามใหญ่กันอีกครั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนจะชิงชัยแข่งขันกันดุเดือด หรือเป็นแค่ละครตบตา ต้องรอติดตาม เพราะที่ผ่านมาชัดเจนแล้ว การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร สามารถพลิกลิ้น สลับขั้ว จับมือกันได้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองผลประโยชน์เท่านั้น

ว่ากันว่า ศึกเลือกตั้ง อบจ.ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีเรื่องแปลก เรื่องคาใจ ที่หลายคนยังส่งสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพรรคเพื่อไทย และ อดีตนายกรัฐมนตรี อย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” ยอมเป็นผู้ช่วยหาเสียง ระดับท้องถิ่น ทั้งที่หลายๆปัจจัย อาจไม่เอื้ออำนวย เหมือนเมื่อครั้งหาเสียงจนได้เป็นายกฯ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนเลย หรือบางพรรค มีการจับมือกัน แท็คทีมกัน

อย่างกรณีแกนนำ”กล้าธรรม” กับ “ภูมิใจไทย” ที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อสู้กับ “ประชาชาติ” บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่เดิม หรืออีกกรณี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ดีกรีอดีตนายกฯ อีกคน ที่ไปขึ้นเวทีหาเสียง อบจ.ที่จังหวัดพัทลุง เพื่อช่วยเหลือคนใกล้ชิด ที่ได้รับการสนับสนุนอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับพรรคของตัวเองในอดีต จนหลายคนโดยเฉพาะอดีตลูกพรรคเดิม พากันตีความไปต่างๆ นานา

ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ ในสนาม อบจ.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในทางการเมืองของไทย และจะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตว่า ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นสามารถทำแบบนี้ได้ ทำแบบนี้ไม่ผิด ทำแบบนี้แล้วโอกาสกลายเป็นผู้ชนะมีมากกว่าเดิม ดังนั้นในการเลือกตั้งรอบหน้า เราคงได้เห็นอะไรแปลกๆ แบบนี้อีกมากแน่ๆ เว้นแต่มีการปรับปรุงข้อกฏหมาย หรือเขียนกฏหมายขึ้นมาใหม่ ทำให้บริบทการเลือกตั้งท้องถิ่นเปลี่ยนไป

การเมืองใหญ่ ไม่สามารถลงไปคลุกวง ในได้เหมือนเดิมอีก บรรบากาศ และสีสันก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ภาพที่เราจะได้เห็น การต่อสู้ของ “แดง-ส้ม-น้ำเงิน” ก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย สามก๊กการเมืองไป ก็อาจไม่มีอยู่จริง หรืออาจจะมีก๊ก มีกลุ่ม ที่มากกว่านี้ ก็เป็นไปได้ทั้งหมด เพราะการเมืองไทย ก็ไม่ต่างอะไรจากการละครนั่นเอง…