วันที่ 16 ก.พ. 2568 พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี น้องไอ รับงานเด็กเอนฯ ถูกหนุ่มจีนให้อัพยาจนช็อกเสียชีวิตคาโรงแรม ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากมีการไปรับงานเอนเตอร์เทนลูกค้าชาวจีน
โดยในที่เกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย และมีของกลางบางส่วนเป็นยาเสพติดอยู่ภายในห้อง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 23.16 น. ชายชาวจีน ได้เดินทางมาที่โรงแรมที่เกิดจากนั้น ช่วงเวลาประมาณ 02.49 น. ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่โรงแรม
ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 06.17 น. ชายชาวจีนคนดังกล่าวได้ออกจากโรงแรมไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย จะได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวในห้องพักเมื่อเวลา 07.10 น.
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้คือ นายดูยิงวู หรือ นายเจษฎา อายุ 37 ปี เป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยวีซ่าสามารถอยู่ได้ถึงเดือนกรกฎาคม
จากการตรวจสอบพบว่าเคยเดินทางเข้ามาหลายครั้ง และสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ขึ้นบัญชีเฝ้าระวังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ผู้ต้องหารายนี้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและออกหมายจับในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
พล.ต.ต.ธนันท์ธร กล่าวอีกว่า จะเชิญโมเดลลิ่งที่จัดหางานให้ผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่ม หากพบว่าเข้าข่ายมีความผิดก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ผู้รับจัดหา นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบข้อความแชทที่ระบุว่า ให้ผู้เสียชีวิตเสพยา ซึ่งตำรวจจะพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญาหรือไม่
ส่วนของกลางยาเสพติดในที่เกิดเหตุนั้น พบว่ายาเสพติดที่อยู่ในห้องน่าจะเป็น แฮปปี้วอเตอร์ (Happy Water) ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังระบาดในกลุ่มนักเที่ยว และเคตามีน ขณะนี้ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันผลแล้ว
ส่วนข้อมูลจากการสืบสวนระบุว่า นายเจษฎา เคยเรียกเด็กเอนเตอร์เทนมาบริการในลักษณะนี้หลายครั้ง โดยใช้โรงแรมดังกล่าวเป็นสถานที่นัดพบ และเปิดเมมเบอร์กับโรงแรมเพื่อเข้าพักระยะยาว อย่างไรก็ตามโรงแรมยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาเด็กเอนแต่เป็นเพียงสถานที่ให้พักอาศัย
พล.ต.ต.ธนันท์ธร กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไม่พบว่ามีโมเดลลิ่งเข้าไปที่โรงแรมในคืนเกิดเหตุ และข้อมูลยังระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เสียชีวิตรับงานในลักษณะนี้ ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวน ว่ามีคนกลางของชายชาวจีนรายนี้ แสดงเจตจำนงว่าต้องการร่วมทำบุญงานศพจำนวน 100,000 บาท แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดสาเหตุที่แสดงเจตจำนงค์
ส่วนกรณีนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางวินัยหรืออาญา จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนที่สังคมต้องข้อสังเกตว่า ทำไมใช้เวลากว่า 5 วันกว่าจะมีการดำเนินคดี และหากไม่มีเพจข่าว อีซ้อขยี้ข่าว เปิดเผยเรื่องนี้ ก็อาจถูกปกปิดหรือไม่นั้น ตนเองยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด ก่อนออกหมายจับตำรวจยืนยันว่า นายเจษฎา ยังคงอยู่ในประเทศไทย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเนื่องจากทำความผิดแล้วหลบหนี ทางชุดสืบสวนยืนยันว่าจะสามารถควบคุมตัวได้เร็ว ๆ นี้