เปิดใจ “ม่อน ตำหรุ” ตบเด็กนักศึกษา น้อมรับผิด ตอนนี้ตกงานโดนไล่ออก ต้องดูแลแม่และยายป่วยติดเตียง ขอโอกาสจากสังคม ยันไม่ใช่สมาชิกแก๊งโพธิ์ดำ
จากกรณีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ โพสต์มีข้อความว่า ใครๆ ก็รู้จักกู มึงไม่รู้จักได้ยังไง? “ม่อน คลองตำหรู” เก่าโจ๋ของหมู่บ้านคลองตำหรุ หลังเมื่อคืนไปก่อเหตุตะปันหน้าวัยรุ่นที่นั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนๆ โดยเดินมาหาเรื่องถึงที่โต๊ะทั้งที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นไอ้ม่อนก็เคยใช้มีดจี้นักศึกษาแถวย่านนั้นมาแล้ว ชลบุรี โดยมีภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นชายใส่กางเกงขาสั้นสีส้มยืนคุยกับชายใส่เสื้อสีน้ำเงินที่นั่งที่เก้าอี้ สักครู่มีชายใส่เสื้อสีเทาเดินมาแล้วใช้มือขวาตบไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูก มีผู้หญิงที่นั่งที่โต๊ะมาช่วยพยุงออกไป
ซึ่งทราบว่ามาเป็นสมุน “แก๊งค์โพธิ์ดำ” ที่กร่างชอบหาเรื่องชาวบ้านที่เป็นคนต่างจังหวัดรวมทั้งนักศึกษาที่มาฝึกงานและพักในชลบุรี และอีกคลิปวงจรปิดเกิดวันที่ 3 กุมภาพันธุ์ จะเห็นชายใส่เสื้อขาวเดินไปม่แล้วฉวยจังหวะใช้มีดจี้คอนักศึกษาแต่นักศึกษาชายดึงตัวออกทันมีดจึงปาดคอเป็นแผลเล็กน้อย และตำรวจได้มาคุมตัวไป สภ.เมืองชลบุรี
ล่าสุดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ชุมชนคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบกับนายอาทิตย์ หรือม่อน ตำหรุ อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนได้นั่งดื่มเบียร์อยู่ภายในร้านก่อนหน้าอยู่แล้ว จากนั้นก็มีกลุ่มของน้องได้มานั่งโต๊ะข้างกัน ไม่นานน้าของตนก็ได้เดินทางมาที่ร้านแล้วก็มีการทักทายกัน จากนั้นก็มีการเดินไปพูดคุยกับโต๊ะน้อง
ยอมรับว่าตอนนั้นเมาอาจจะได้ยินอะไรเพี้ยนคิดว่า น้าตนถูกกลุ่มน้องหาเรื่องตนจึงได้ตะโกนถามว่าน้องสุดหล่ออายุเท่าไหร่ จากนั้นน้องก็ตอบมา ตนจึงลุกขึ้นไปแล้วตบที่หัวน้องเพียงครั้งเดียวแล้วกลับมานั่งต่อเหตุการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรหลังจากนั้น
จนกระทั่งตนนั่งรอและดื่มไปเรื่อย ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ร้านก่อนหน้าน่าจะมีคลิปออกมาเป็นข่าว ตนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญไปที่โรงพักและสอบสวนข้อมูลทั้งหมด ตนก็ยอมรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายโดยการตบหัวน้องจริง ทางตำรวจจึงได้บันทึกจับกุมและให้ตนนอนภายในคุกหนึ่งคืนที่โรงพัก จากนั้นก็ได้ทำเรื่องประกันตัวออกมา แต่เรื่องก็ยังถูกส่งไปที่ศาลตนก็ต้องเดินทางไปให้การที่ศาลต่อ
ตนอยากชี้แจงในเรื่องกรณีที่มีข่าวออกไปว่าตนเป็นสมุนหรือสมาชิกแก๊งโพธิ์ดำชื่อดัง อันนี้ตนขอโต้ไม่เป็นความจริง ตนเป็นเพียงช่างรับจ้างสักลายตามร้านสักที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่ใกล้บ้าน พอหลังจากมีข่าวไปตนก็ถูกพักงานและตอนนี้ตนถูกสังคมมองว่าเป็นสมาชิกแก๊งโพธิ์ดำ
ตนก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่และไม่เป็นความจริง ตนก็อยากให้ทางน้องหรือเจ้าของร้านนำคลิปออกมาแล้วชี้ไปเลยว่าใครเป็นคนพูด เพราะตนไม่ได้พูดเลยว่าเป็นสมาชิกแก๊งโพธิ์ดำ ซึ่งตอนนี้ตนตกงานก็ไม่มีรายได้และขาดรายได้หลักไปแล้ว อีกอย่างตนเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวต้องดูแลแม่ และยายป่วยติดเตียง
อีกทั้งต้องเลี้ยงลูกอีกสามคน ตนจึงอยากกขอโอกาสสังคมและอยากขอโทษสังคมที่ภาพออกไปเหมือนรุนแรง ตนยอมรับผิดว่าไปตบน้องจริง และอยากขอโทษน้องคนที่โดนไปตบวันนั้นอาจเป็นเพราะเมาและเกิดการเข้าใจผิดเนื่องจากมีน้าเดินทางมาซื้อของที่ร้านเหมือนกันและมีการคุยกันจึงเข้าใจว่าอาจจะเกิดการทะเลาะกับน้าของตนเพียงแค่นั้นเอง ในส่วนคดีตนก็ยังต้องไปดำเนินการเพราะตำรวจต้องส่งฟ้องศาลต่อ
จากนั้นนายม่อน ตำหรุ พาผู้สื่อข่าวไปดูห้องภายในบ้าน ซึ่งมียายชราที่นอนป่วยติดเตียง พร้อมกับวอนขอสังคมให้โอกาสตอนกลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะตอนนี้ตนโดนพักงานไปแล้ว ทำให้ไม่มีงานและขาดรายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัว
ด้านนายธงชัย อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า กรณีของตนก็เกี่ยวพันกันกับของม่อน เพราะก่อนหน้านี้ตอนนั้นได้ออกไปซื้อเบียร์ที่ร้าน และตอนนั้นยอมรับว่าเมาเพราะดื่มยาดองไปก่อนแล้ว พอไปถึงก็เหมือนจะมีปากเสียงกันกับลูกค้าที่อยู่ในร้าน ตนจึงได้มีการเอามีดพกที่เป็นพวงกุญแจซึ่งเป็นมีดพับสั้นอันเล็กๆ เหมือนของเด็กเล่นยืนใส่คู่กรณีแค่นั้นเอง แต่ไม่มีการควักมีดออกมา
ซึ่งกรณีของตนได้เกิดขึ้นก่อนน่าจะมีเหตุของม่อนและตนก็มีการได้ไปพูดคุยและถูกดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการจ่ายเงินเยียวยากับคู่กรณีไปแล้ว ในจำนวนเงิน 4,000 บาท ก็ยังพูดคุยกันอย่างดี ส่วนแฟนน้องก็ยังบอกเลยว่าฝากดูแลถ้าเมาก็ดูแลดีๆ
ตนก็ยังมีการพูดคุยกันอย่างดี แล้วเมื่อวานมีการนำคลิปเก่าที่ตนมีเรื่องก่อนหน้านี้มาออกข่าวซึ่งเรื่องของตนได้เคลียร์จบกับคู่กรณีไปเรียบร้อยแล้วและไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของม่อนแต่อย่างใด และอีกอย่างที่บอกว่าตนก็มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับแก๊งโพธิ์ดำ ตนก็ยืนยันว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับแก๊งโพดำอะไรเลย ตนเป็นเพียงแค่พ่อค้าประมงมีอาชีพหาปูขายในชุมชนแค่นั้นเอง
