วันที่ 20 ก.พ. 68 เกิดเหตุไฟลุกไหม้บ้านไม้ ภายในชุมชนสันโค้งหลวง ม.14 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย หลังรับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลสันทราย ลงพื้นที่ระงับเหตุ พร้อมกับหน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิสยามเชียงราย มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงราย สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย จนท.ทหาร มทบ.37 ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอย 5 บ้านหลังไฟไหม้คือบ้านเลขที่ 30 ภายในชุมชนสันโค้งหลวง ซึ่งสภาพพื้นที่ถนนค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงเข้าพื้นที่ค่อนข้างยาก แถมไม่มีท่อดับเพลิงภายในซอย ต้องทะยอยให้รถดับเพลิงเข้าระงับเหตุทีละ 1-2 คัน ทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลาควบคุมเพลิงจนสงบนานประมาณ 2 ชั่วโมง บ้านซึ่งมีโครงสร้างเป็นไม้และทรัพย์สินภายในบ้านโดนไฟไหม้วอดทั้งหมด ไฟไม่ลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง
พ.ต.ท.อานันต์ ยาวิชัย อายุ 67 ปี เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ที่บ้าน และบ้านที่ถูกไฟไหม้ตนสร้างให้พ่อซึ่งเป็นอดีตข้าราชการทหาร อายุเกือบ 90 ปี อยู่อาศัยกับน้องสาว อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการเหมือนกัน เช้านี้น้องสาวของตนไปเยี่ยมลูกสาวที่ จ.เชียงใหม่ เหลือพ่ออยู่บ้านคนเดียว จากการสอบถามพ่อ แกบอกว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อของตนออกมานั่งจิบกาแฟอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อนข้างนอกตัวบ้าน จู่ๆก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นมา จากนั้นก็มีไฟลุกท่วมบ้าน เข้าไปเอาอะไรออกมาไม่ได้สักอย่าง
บ้านหลังนี้ตนสร้างไว้ตั้งแต่ปี 2533 เพื่อให้พ่อกับแม่อยู่อาศัย เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง และมีรถยนต์จอดไว้ที่ใต้ถุนบ้านอีก 2 คัน แถมทรัพย์สินในบ้านอีกหลายอย่าง ไม่สามารถขนอะไรออกมาได้ทันสักอย่าง คาดความเสียหายทั้งหมดคงไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท” พ.ต.ท.อานันต์ กล่าว
ด้าน ส.อ.บุญศรี ยาวิชัย อายุ 89 ปี อดีตข้าราชการทหาร เจ้าของบ้าน ได้ไปดูพระพุทธรูปจำนวน 3 องค์ ที่ทางเจ้าหน้าที่นำออกมาจากกองเพลิงมาได้ และมองพระพุทธรูปที่ได้รับความเสียหายด้วยความเสียดาย เพราะเป็นพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งและสิงห์สาม ซึ่งค่อนข้างจะมีราคาสูง และเผยอีกว่า ขณะกำลังนั่งดื่มกาแฟที่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นมา จากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ เอาอะไรออกมาไม่ทันสักอย่าง ที่ในห้องพระมีพระพุทธรูป พระเครื่อง ทองคำ เพชร และทรัพย์สินมีค่าอีกหลายอย่างที่สะสมเอาไว้มานาน ไม่สามารถเอาออกมาได้ โดนไฟไหม้ไปหมด ไม่รู้ว่าจะหลงเหลืออะไรไว้บ้าง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุของไฟไหม้ ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และรอให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ เพื่อหาสาเหตุและประเมินความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.เชียงราย รายงาน
