เปิดใจ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลพรเจริญ โกงความตาย รอดชีวิต รถทัวร์คว่ำ 19 ศพ เผยมาถึงโคราชเปลี่ยนคันนั่งเพื่อจะไปร้องเพลง มีลางสังหรณ์ไม่อยากขึ้นรถคันเดิม
กรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารคณะดูงานเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทาง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 บริเวณ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 03.09 น. วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต จำนวน 19 ราย และบาดเจ็บจำนวน 22 ราย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายทราย โคตะมี อายุ 65 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลพรเจริญ ที่รอดตายอย่างหวุดหวิด กล่าวว่า มาจากบึงกาฬจะไปศึกษาดูงานที่จังหวัดระยอง ตอนแรกตนนั่งรถคันที่เกิดเหตุมา เมื่อมาถึงโคราช ตนจึงเปลี่ยนรถนั่งคันที่ 1 เพื่อจะไปร้องเพลง คันนี้มีแต่คนนอน กลัวจะไปรบกวนเขา
“ผมไม่คิดว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นคนตำบลเดียวกัน การไปศึกษาดูงานครั้งนี้ไปดูเกี่ยวกับการคัดแยกขยะทำเกี่ยวกับขยะ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่อยากไปแล้ว เกิดการสูญเสียขึ้นมามันไม่คุ้ม ความรู้สึกผมตอนนั้นมันเป็นยังไงไม่รู้ มีความรู้สึกไม่อยากขึ้นรถคันเดิม ตัดสินใจไปขึ้นคันที่ 1 เขาว่ารถทัวร์จะไปชนท้ายรถเทรลเลอร์เขาจึงหักหลบไปทางซ้ายเลยเสียหลัก น่าจะเป็นที่ระบบเบรคด้วย” นายทราย กล่าว
จากการสอบถาม นายพิภูษณะ ดีแสวง หัวหน้าแผนกกิจกรรมมูลนิธิสัจจะฯ กล่าวว่า ทางเราประสานไปทางมูลนิธิสว่างศรีวิไลธรรมสถานจังหวัดบึงกาฬ ว่านำรถมาเปลี่ยนถ่ายกับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิสัจจะฯ บริเวณสุสานหัวทะเล โดยประสานไปทางสว่างเมตตาขอใช้พื้นที่ในการย้ายร่างผู้เสียชีวิต ตอนนี้ทางเรานำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถอาสาเพื่อไปส่งที่หมาย โดยได้รับการสนับสนุนน้ำมันในการเดินทางจาก สส.ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ
จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสันนิษฐานในการเกิดเหตุในครั้งนี้ คาดว่าคนขับน่าจะไม่คุ้นชินทาง อาจจะตรวจเช็กระบบลมเบรคไม่ดี อาจจะเบรคหมด แล้วเบรคไม่ทำงาน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอสอบสวนกับคนขับรถ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่จุดจอดลงเวลา สภ.วังขอนแดง ซึ่งเป็นจุดลงเวลาของรถบรรทุกและรถทัวร์ จากการตรวจสอบพบว่ารถบรรทุกโดยส่วนมากจะขับเข้ามาช่องบริเวณที่ลงเวลา แต่ไม่จอดรถลงมาทำการตรวจตรวจเช็กหรือลงเวลา ตามที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนด นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมกับ 19 ชีวิตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุยังพบว่ามีทางเจ้าหน้าที่นำกรวยมากั้น พร้อมทั้งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตามการค้นหาทรัพย์สินของมีค่าของผู้ที่เดินทางมาในรถของคันเกิดเหตุ และรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงทำการตรวจสอบก่อนเก็บกู้ซากรถ หลังจากพิสูจน์เอกลักษณ์ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ขบวนศพเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับภูมิลำเนาแล้ว