เรียกได้ว่าออกมาเปิดใจครั้งแรก สำหรับพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ถึงกรณีการเลิกรากับอดีตภรรยาสาว นัท มีเรีย โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ ไว้ว่า “ตอนนั้นเราอ่านไม่ได้คิดว่าเป็นเรา ยังใช้ชีวิตกันตามปกติกับคุณนัท อยู่บ้านทานข้าวกัน วันนั้นเป็นวันที่ 1 ต.ค. ทานข้าวเสร็จก็ไปประชุมต่อ

จากนั้นผู้ช่วยพี่ก็วิ่งขึ้นมาบอกเรื่องอักษรย่อเตียงหัก นอกใจ ก่อนหน้าคือจะมีข่าวแบบนี้มาเรื่อยๆ ซึ่งเราก็บอกตามสถานการณ์และสิ่งที่เป็นอยู่ ณ เวลานั้น ไม่ใช่พี่ ไม่ได้นอกใจ ไม่ใช่เราหรือเปล่า กลับเข้าบ้านยังเจอคุณนัท คืนนั้นเรายังไม่ได้คุยกับคุณนัท เพราะเรากลับกันคนละเวลา

เช้าวันที่ 2 ผมไม่อยากพูดเยอะ ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นในชีวิต ที่ออกมาพูดเพราะมันกระทบต่อครอบครัวผมมากมาย เราเลิกกันวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ใช่ครับ แต่วันที่ 1-2 ต.ค. เรายังไม่ได้เลิกกันจริงๆ วันที่ 2 เราไปถ่ายรายการเลยโทรหาคุณนัทว่าเห็นข่าวไหม

เขาบอกเห็นแล้ว ขอทำธุระก่อนกำลังจะแต่งตัวไปทำงาน เดี๋ยวโทรกลับ วันนั้นเราต้องไปออกรายการด้วย ต้องเคลียร์กันก่อน เราบอกทุกอย่างตามเหตุการณ์จริงๆ ไม่ได้บิดเบือน จากนั้นคุณนัทได้โพสต์ภาพจับมือหลาน ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คนตีความไปกันเอง

พอเราถามคุณนัท เขาขอเวลา 2-3 วันในรายการ พี่เลยขอรายการว่ายังไม่ไปออกนะ และคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่า คือเราไม่ได้ทะเลาะกันเลย เลยอยากเคลียร์ คืนวันที่ 5 พี่ไปช่วยน้ำท่วมที่เชียงใหม่ รอสายคุณนัทมาตลอด จนวันนั้นคุณนัทโทรมา

เขาบอกขอยุติความสัมพันธ์ โดยให้สาเหตุว่าหลังๆ เราเริ่มใช้ชีวิตมากขึ้น มีเป้าหมายชีวิตที่ต่าง ไลฟ์สไตล์ต่างกัน ครอบครัวสองฝั่งก็มีความต้องการต่างกัน มันเป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น ผมเลยบอกให้กลับมาคุยกันที่บ้านได้ไหม คุยต่อหน้าจะตกลงยังไง

วันที่ 9 เราได้คุยกันเจอหน้ากันที่บ้าน เรามีทั้งทุกข์และสุขร่วมกันมากมาย พี่ถามว่ามีปัญหาเรื่องของมือที่ 3 อย่างที่ข่าวมีขึ้นไหม เขาก็บอกไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับมือที่ 3 มันยุติด้วยความเข้าใจ เราต่างกันหลายเรื่อง เราต่างเข้าใจดี เรายุติในแบบที่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

เราตัดสินใจร่วมกันจริงๆ วันนั้นเกิดเมื่อวันที่ 9 ต.ค. เราเลยขอเวลาในการย้ายของออก เราย้ายวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมาไม่ได้โกหก มันเกิดขึ้นหลังจากนั้น และหลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกับใครเลย 15 ปี ประโยคไหนที่ฟังจากปากนัทแล้วยุติความสัมพันธ์กันดีกว่า

เราเข้าใจทุกอย่างที่เป็นเขา เข้าใจในทุกอย่างที่พยายามกันมา สังคมและครอบครัว เราต่างเห็นมุมข้อดีข้อเสีย ในวันที่เขาตัดสินใจแล้วจริงๆ ถ้าเราคุยแล้วแสดงว่ามันถึงเวลาของเขา ก่อนหน้านั้นเราพยายามกันแล้ว การที่เราดูแลครอบครัว ผิดเรายอมรับและพร้อมแก้ไข

ถ้าอะไรไม่ใช่ก็จะบอกไม่ใช่ เลิกกันทั้งที่ยังรักอยู่ เราไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน เป็นปัญหาที่สะสมกันมา เรารู้แล้วว่าพยายามกันแล้ว การสร้างครอบครัวประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งครอบครัวเขา ครอบครัวเรา หลายเรื่องเราพยายามแก้ไขมาตลอด

ในเมื่อเราตัดสินใจคุยกันแบบนี้ เราก็เลยเคารพเหตุผลของกันแล้วกัน ในวันนั้นที่ข่าวลง คือมันลงก่อนที่จะมีปัญหา เรายังวางแผนในเรื่องต่างๆ อยู่ แต่หลังจากนั้นมันมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ เลยตอบอะไรใครไม่ได้แล้ว”

ขอบคุณข้อมูล: คุยแซ่บโชว์