วันที่ 7 มี.ค. 68 ทางด้าน ประจักษ์ชัย ไหทองคำ ได้มาออกรายการโหนกระแส ย้อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่า ในวันที่เกิดขึ้นเมื่อสิงหาคมปี 2567 ที่แล้ว ตนไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย เป็นความลับระหว่างคน 4 คน คือ แอนนา ไหทองคำ ภรรยาของตนเอง, โม, บอส แดนเซอร์ และ พี่ชายน้องโมที่มาเป็นพยานทำสัญญาดังกล่าว

โม โพสต์แล้ว ถึง นายห้างประจักษ์ชัย หลังยกพานพวงมาลัยขอขมา

ก่อนจะถึงช่วงหนึ่งที่ โม เข้ามาในรายการ เป็นการเจอหน้ากันครั้งแรก ระหว่าง โม กับ นายห้างประจักษ์ชัย โดย โม ถือพานพวงมาลัย คุกเข่าขอขมาอาจารย์ประจักษ์ชัย โดยยืนยันความจริงใจของตัวเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นฝีมือของตนที่ปล่อยข้อมูล คลิป ภาพ ใดๆ ทั้งสิ้นเลย แต่ถ้ามีอะไรที่ตนไปโพสต์เฟซบุ๊กที่โพสต์ไปแล้วทำให้อาจารย์ไม่สบายใจ หนูขอขมาจริงๆ อาจารย์เป็นผู้ใหญ่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เด็กๆ ทำผิด อาจารย์ต้องลงมาจัดการ หนูขอโทษจริงๆ

โม โพสต์แล้ว ถึง นายห้างประจักษ์ชัย หลังยกพานพวงมาลัยขอขมา

ด้าน นายห้างประจักษ์ชัย ถึงกับน้ำตาซึมไปด้วย พร้อมเอ่ยว่า เมื่อน้องมีความจริงใจ มาแสดงความจริงใจ อาจารย์ก็ยกโทษให้ทั้งหมด ไม่ไปฟ้องร้องอะไรกันอีก และบอกว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน ให้น้องเอาเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์

โดยหลังจากที่ โม จากออกรายการโหนกระแส ถือพานพวงมาลัยขอขมา ก็มีการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nitchakul Rodsamrit ลงภาพตนเองยืนข้าง นายห้างประจักษ์ชัย ตอนให้สัมภาษณ์สื่อ พร้อมระบุว่า

“มันตื้นตันจนไม่รู้จะเขียนอะไรเลย ขอบคุณที่เชื่อหนู และให้อภัยหนูนะคะ เรื่องคดีก็ส่วนเรื่องคดี แต่น้ำปลาร้าดีๆต้องไหทองคำค่ะ จบ”

โม โพสต์แล้ว ถึง นายห้างประจักษ์ชัย หลังยกพานพวงมาลัยขอขมา

ส่วนทางด้าน ประจักษ์ชัย ไหทองคำ ก็โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“กลืนเลือดกลืนน้ำตา เเต่บางที มันกลืนไม่ลงทั้งหมด ปล่อยมันก็ต้องไหลออกมาบ้างไม่เป็นไร สายไหต้องรอด สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ (อ้ายปจช.หทค)”

โม โพสต์แล้ว ถึง นายห้างประจักษ์ชัย หลังยกพานพวงมาลัยขอขมา