จากกรณี “ตั้ม” อดีตสามีของ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” ออกมาอ้างว่าถูกหลอกให้เซ็นใบหย่า แต่ยังคงใช้ชีวิตร่วมกัน โดยทรัพย์สินทั้งหมดที่หามาด้วยกันกลับเป็นชื่อของฝ่ายหญิง ซึ่งภายหลังถูกนำไปให้กับนักร้องดัง นอกจากนี้ ตั้มยังถูกห้ามเข้าบ้าน ทั้งที่เป็นเจ้าของร่วม
ล่าสุด จ๊ะโอ๋ ออกมาชี้แจง หลังจากอดีตสามีเพิ่งไปเปิดใจในรายการโหนกระแส โดยเธอเล่าถึงความสัมพันธ์ว่า คบหากันไม่นานก็มีลูก แต่ใช้ชีวิตร่วมกันเพียง 6 ปี และแยกห้องนอนตั้งแต่ปี 2560 แม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็แยกกันใช้ชีวิต ก่อนจะหย่ากันจริงๆ ในปี 2566 หลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับนักร้องชื่อดัง
เหตุผลที่ทำให้เธอเลือกเดินออกจากชีวิตคู่ เพราะอดีตสามีมีธุรกิจสีเทา เคยถูกตำรวจบุกจับถึงในบ้าน ขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์ เธอจึงตัดสินใจไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกันอีก
ช่วงก่อนจะเป็นข่าว เธอได้บอกอดีตสามีอย่างชัดเจนว่า “ฉันไม่รักคุณแล้ว” แต่เขาไม่เชื่อ พร้อมพูดว่า “พี่จะกรีดหัวใจหนูออกมาดู ว่าในนั้นยังมีพี่อยู่ไหม”เธอจึงตอบกลับไปว่า “ต่อให้พี่กรีดออกมา ก็ไม่เจอหัวใจหนูหรอก เพราะหัวใจของหนู มันไปอยู่ที่ ‘พี่หนุ่ม’ นักร้องแล้ว” ทำเอา หนุ่ม กรรชัย ถึงกับอึ้ง ถามย้ำว่า “พูดแบบนี้จริงเหรอ?” ซึ่งเธอก็ยืนยันว่า “พูดจริง”
จ๊ะโอ๋ยังพูดถึงประเด็น รูปของเธอและหนุ่ม กะลา ที่ถูกนำไปโยงกับเรื่องไสยศาสตร์ โดยยืนยันว่า ไม่สมเหตุสมผล เพราะตั้มบอกเองว่าเธออยู่บ้านตลอด “แล้วฉันจะกล้าเอารูปผู้ชายอื่นเข้าบ้านได้ยังไง?” เธอยังอธิบายว่า ภาพที่ถูกกล่าวหาเป็น กรวยหมากพลูสำหรับไหว้ครู ไม่ใช่รูปหุ่น และยันต์ที่เห็นก็เป็นแค่ เทียนต่ออายุ ต่อโชคชะตา ไม่ใช่คาถามนต์ดำ เนื่องจากเธอเป็นสายมู เพราะเธอเป็นแม่ค้า พี่หนุ่ม กะลา รู้แต่ไม่ได้ไปทำด้วยกัน
หลังจากนั้น หนุ่ม กรชัย ก็ได้ถามถึงเรื่องคาถาที่อยู่ในคลิป จ๊ะโอ๋ บอกว่าไม่ใช่ลายมือเธอ และไม่ใช่คาถาของเธอ ส่วนคำว่า “ไอ้ณพ” น่าจะเป็นชื่อจริงของ หนุ่ม กะลา ที่ชื่อว่า “ณพสิน” ที่เธอเดา นอกจากนี้เธอยังบอกว่าถ้าสังเกตดีๆลายมือในรูปที่เป็นของเธอ กับลายมือในใบคาถาต่างกันมากเลย ซึ่งเธอได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าคาถาไม่ใช่ของเธอแน่นอน