จากกรณีนายธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เจ้าของไวรัลดัง แร็ปเปอร์ขายพวงมาลัย เสียชีวิตกะทันหันหลังถูกจ้างดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเงิน 30,000 บาท ในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เสียชีวิต ที่งานฉลองวันเกิดและเปิดร้านใหม่ ภายในพื้นที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี นำตัว เอ็ม เอกชาติ อินฟลูสายแข่งรถชื่อดังจากจังหวัดจันทบุรี ลูกชายเจ้าของงาน มาสอบปากคำ โดยมีกระแสข่าวว่า นายเอ็ม เป็นคนสั่งให้ แบงค์ เลสเตอร์ กระดกเหล้าหมดแบน เพื่อแลกกับเงินโดยช่วงที่เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายเอ็ม กล่าวว่า งานนี้ตนไม่ได้จ้าง แบงค์ มาฟรี โดยมากับ เบิร์ด วันว่างๆ ก่อนหน้านี้ แบงค์ ก็ดื่มไปหมดแบนแล้ว แล้วไปอ้วกทิ้ง ส่วนตอนหลังตนไปเดินรับแขกอยู่โต๊ะอื่นไม่เห็น ตอนที่กินก็มีคนห้ามหลายคน แต่เขาก็ไม่ฟัง ก่อนหน้านี้เค้าเคยกินที่อื่นเมากว่านี้อีก ตนดูแขกด้านนอกอยู่ แล้วมีคนมาตามว่า แบงค์อาการไม่ดี ตนจึงให้พาไปโรงพยาบาล แต่ แบงค์ มีร่างใหญ่หามไม่ไหว จึงใช้รถเข็นมาช่วยกันเข็นร่างของแบงค์ไป นายเอ็ม ยังกล่าวว่า ส่วนคลิปที่มีคนว่าตนเห็นแล้วหัวเราะกันเล่นกันนั้น เป็นคลิปก่อนเหตุการณ์นี้ ยืนยันว่าบริสุทธิ์ ตนมีกล้องวงจรปิดยืนยันว่า ไม่ได้ยุ และยืนยันว่าไม่มีการจ้างให้ดื่ม ส่วนการให้เงินเป็นการสงสารน้อง เนื่องจากเห็นน้องลำบาก ตอนนี้คุณแม่เครียดมากหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เนื่องจากเป็นกินเลี้ยงเปิดร้าน และวันเกิดของแม่ด้วยในวันเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ทาง แบงค์ถ่ายคลิปคู่กับเบิร์ดส่งมาให้ดูบ่อย เกี่ยวกับเรื่องของกินเหล้าโชว์ โดยตนไม่รู้ว่า มีการดื่มมาก่อนหน้านี้มากน้อยขนาดไหน นายโต้ง คนสนิทของเอ็ม เรียกเอ็มว่าเสี่ยให้ข้อมูลว่า ตนเห็นเหตุการณ์ ก่อนหน้านี้เสี่ยได้สั่งงานไว้แล้ว ก่อนที่จะไปรับแขกว่า ให้ช่วยดูแลแบงค์ เพราะว่าแบงค์เมามาก กลัวว่าจะเมาหัวฟาดพื้น ตนก็ดูแลอยู่ตลอด โดยก่อนหน้านี้ตนก็ยังเล่นกับแบงค์ เอาน้ำฉีดเล่นสนุกสนานกันอยู่ โดยยืนยันว่าตนกับเพื่อนไม่ได้ทิ้งแบงค์ มีคนคอยดูแลตลอด แม้กระทั่งแฟนของตนก็ล้วงคอให้อ้วก เมื่อตนเองเห็นว่า แบงค์เริ่มมีอาการเล็บเขียว จึงไปแจ้งเสี่ยเอ็ม หลังจากนั้นจึงไปแจ้งตำรวจให้แจ้งกู้ภัย แต่ติดต่อไม่ได้ จึงให้ตนเอาไปใส่รถเข็นนำไปส่งโรงพยาบาล
ขณะเดียวกัน ยูแปดริ้ว ได้เดินทางเข้ามายังสถานีตำรวจภูธรทุ่งเบญจา โดยมาถึงก็รีบลงรถเข้าทางประตูด้านหลังของสถานีตำรวจ เพื่อหลบนักข่าวเข้าห้องสอบสวนทันที