อุบัติเหตุตายหมู่ 3 รายซ้อน รายแรกรถตู้มรณะ บรรทุกแรงงานพม่าจากบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ย่านเขาย้อย จ.เพชรบุรี จะไปส่งต่อวีซ่าที่ด่าน ตม.แม่สอด จ.ตาก เกิดพุ่งชนต้นไม้ข้างทางไฟลุกพึ่บคลอกร่างย่างสดผู้โดยสารตายทุรนทุราย 9 ศพ บาดเจ็บสาหัสเพียบ คาดโชเฟอร์หลับในจากความอ่อนเพลีย หรือฝนตกถนนลื่นแล้วขับรถเร็วจนควบคุมไม่อยู่ อีกราย หนุ่มหนองคายขับเก๋งคันใหม่รับลูกเมียแม่และยายจะไปไหว้พระขอพร เผลอเหลือบมองข้างทางรถแฉลบตกน้ำจมหายในพริบตา เจ้าตัวรอดแต่คนในรถตายยกคัน 4 ศพ ขณะที่หนุ่มโรงงานย่านปทุมธานีชวนพรรคพวกไปเที่ยวผับเมืองกรุงเก่า ขากลับยูเทิร์นรถอย่างเร็วจนเสียหลักฟาดราวสะพาน รถขาดสองท่อนกระเด็นตกน้ำตายสยอง 6 ศพ
อุบัติเหตุสยองรถตู้บรรทุกชาวพม่าพุ่งชนต้นไม้ไฟลุกคลอกร่างผู้โดยสารตายเกลื่อนและบาดเจ็บระนาวครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ร.ต.ท.ชัชชานนท์ สนิทมาก รอง สว. (สอบสวน) สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ระดมกำลังไปที่เกิดเหตุบนถนนพหลโยธิน ใกล้โรงสีคงเดช ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง หลังรับแจ้งมีรถตู้ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง มีไฟลุกไหม้ท่วมรถ มีผู้เสียชีวิตคาซากรถและบาดเจ็บจำนวนมาก จุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนพหลโยธินฝั่งขาขึ้น ช่วงรอยต่อ อ.คลองขลุง กับ อ.เมืองกำแพงเพชร พบรถตู้โดยสารโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียน 33-2779 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนต้นไม้ ขนาดใหญ่ริมถนน หน้ารถพังยับยุบมาถึงห้องโดยสารและมีไฟโหมไหม้รถรุนแรง ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง ขอความช่วยเหลือของผู้โดยสารที่ติดอยู่ในซากรถ พยายามตะเกียกตะกายดิ้นรนเอาชีวิตรอด เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบฉีดน้ำและสารเคมีดับไฟ พร้อมช่วยเหลือ
ผู้บาดเจ็บออกมาอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชนด้านหน้ารถและลามมาไหม้ด้านท้ายจนเผารถวอดทั้งคัน หลังเพลิงสงบลงพบภายในห้องโดยสารมีศพถูกย่างสดกองรวมกันเกลื่อนเป็นที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างตัด ซากถังรถนำศพออกมา สภาพไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกจำเค้าเดิมไม่ได้ และยังพบคนขับรถตู้เป็นชายถูกอัดก๊อบปี้คาพวงมาลัยรถบาดเจ็บสาหัส รวมมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เป็นชาย 4 ราย เป็นหญิง 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บที่ช่วยเหลือออกมาได้ 6 ราย นำส่ง รพ.คลองขลุง และ รพ.กำแพงเพชร อย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวนทราบว่า รถตู้โดยสารคันดังกล่าวรับจ้างขนแรงงานชาวพม่า 14 คน มีคนขับ เป็นคนไทย เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อและที่อยู่ มุ่งหน้า ไปที่ด่าน ตม.แม่สอด จ.ตาก ระหว่างทางเกิดฝนตก หนัก คาดว่ารถอาจเสียหลักเพราะขับมาเร็วและถนนลื่น หรือคนขับมีอาการอ่อนเพลียจนหลับใน เนื่องจากเป็นทางตรงระยะยาวมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทันทีที่รถพุ่งไปชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ได้เกิดประกายไฟมีเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่นอนหลับอยู่ หรืออาจจะหมดสติเพราะแรงกระแทกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กำแพงเพชร อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ารถตู้ใช้เชื้อเพลิงประเภทใด และสาเหตุมาจากเรื่องใด
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผวจ.กำแพงเพชร นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร นายวิสิษฎ์ สกุลยืนยง นอภ.คลองขลุง นายทรงชัย พ่วงสุวรรณ ผอ.แขวงการทางหลวงกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ. ตำรวจและทหาร เข้าเยี่ยมผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกถนน ชนอัดต้นไม้ รักษาตัวอยู่ รพ.คลองขลุง จำนวน 4 ราย ทั้งหมดเป็นชายชาวพม่า ถูกไฟลวกตามลำตัวสาหัส 3 ราย และถูกกระแทกฟกช้ำ 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่ รพ.กำแพงเพชร เป็นชายไทยคนขับรถตู้ ชื่อนายคมวัฏ แซ่ฟู อายุ 55 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ทั่วตัว อาการสาหัสยังให้การไม่ได้ และชายพม่าอีก 1 คน อายุ 30 ปี ไม่ทราบชื่อ ถูกไฟไหม้สาหัสเช่นกัน
สอบถามนายหวิ่น เมียว ทู อายุ 20 ปี หนุ่มพม่าผู้รอดชีวิต ให้ข้อมูลว่า แรงงานพม่าทั้งหมดที่โดยสารมาในรถตู้คันเกิดเหตุ ทำงานอยู่บริษัทแคลคอมพ์ อิเล็กโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 138 หมู่ 4 ต.สระพัง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทส่งออก ก่อนเกิดเหตุได้เช่าเหมารถตู้ออกเดินทางจากเพชรบุรี มุ่งหน้าไปต่อวีซ่าที่ชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะเกิดเหตุผู้โดยสารส่วนใหญ่นอนหลับ เมื่อรถตู้พุ่งชนต้นไม้และเกิดไฟไหม้ทำให้หนีออกมาไม่ทัน โชคดีตนได้รับบาดเจ็บ แค่ฟกช้ำจากแรงกระแทกเลยหนีรอดจากรถตู้มรณะมาได้หวุดหวิด
อุบัติเหตุอีกรายเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สว. (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รับแจ้งอุบัติเหตุรถเก๋งตกน้ำมีคนติดอยู่ในรถ บริเวณห้วยลาน ริมถนนทางเข้าบ้านท่าเจริญ หมู่ 9 ต.น้ำโมง ไปที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.ท.กิติธัช สีหาชัย รอง ผกก. (สอบสวน) แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ หน่วยกู้ภัยประจักษ์ กู้ภัยรวมใจท่าบ่อ กู้ภัยเวียงคุก และวีอาร์กู้ภัยหนองคาย
ที่เกิดเหตุพบนายพงษ์พันธ์ ไสแสง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 หมู่ 13 ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นั่งร้องไห้อยู่ริมถนน และเป็นคนขับรถเก๋งที่ตกลงไปในน้ำห้วยลาน ระดับน้ำในห้วยลึกประมาณ 8-10 เมตร กู้ภัยรีบลงน้ำงมหารถยนต์ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ใต้น้ำ ประตูรถฝั่งคนขับเปิดออก ในซากรถพบผู้เสียชีวิต 4 ศพ ทราบชื่อนางทอง มุ่งพึ่งกลาง อายุ 65 ปี นางแพร มุ่งพึ่งกลาง อายุ 53 ปี นางอิงอร ไสแสง อายุ 26 ปี และ ด.ช.นฤเบศ ไสแสง อายุ 3 ขวบ จากนั้นประสานรถเครนมายกรถขึ้นจากน้ำใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง พบเป็นรถเก๋งฮอนด้า บีอาร์-วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7 กบ 2946 กรุงเทพมหานคร
นายพงษ์พันธ์ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ช่วงวันหยุดยาวได้ขับรถที่เพิ่งซื้อมาใหม่ได้เพียง 6 เดือน กลับมาเยี่ยมครอบครัวและจะมารับภรรยาคือนางอิงอร และ ด.ช.นฤเบศ ลูกชาย ไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ หลังกินข้าวเช้าเสร็จได้ชวนภรรยา ลูกชาย พร้อมนางแพร แม่ยาย และนางทอง ยายของนางอิงอร ขึ้นรถจะไปไหว้พระขอพรที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง และมีลำห้วยลานอยู่สองข้างทาง ตนเหลือบไปมองข้างทางด้านซ้ายมือเพราะเห็นอะไรผิดสังเกต เพียงเสี้ยววินาทีรถแฉลบพุ่งตกน้ำพลิกหงายท้อง ตนรีบเปิดประตูรถว่ายขึ้นมาตะโกนให้คน ในรถรีบหนีออกมา แต่ไม่ทันรถจมน้ำทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
ก่อนหน้านี้ได้เกิดอุบัติเหตุทางถนนอีกรายมีผู้เสียชีวิตถึง 6 ศพ เมื่อเวลา 04.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.พรนรินทร์ เปรื่องกระโทก สว. (สอบสวน) สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนราวสะพานข้ามคลองหนึ่ง บนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสระบุรี หมู่ 9 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน มีผู้เสียชีวิตหลายราย รีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบบริเวณขอบสะพานปูน มีร่องรอยการเฉี่ยวชนอย่างแรง มีเศษชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์กระจายเกลื่อน และพบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีฟ้า ทะเบียน กต 583 ชัยภูมิ สภาพพังยับตัวรถขาดเป็น 2 ท่อน จมอยู่ในคลอง กู้ภัยใช้รถยกนำซากรถขึ้นมาไว้บนฝั่ง
ส่วนบนถนนพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ศพ และยังมีผู้เสียชีวิตจมน้ำอีก 4 ศพ ต้องใช้นักประดาน้ำลงงมค้นหา รวมมีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ทราบชื่อนายภาคภูมิ สีดอกไม้ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 33 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ เป็นผู้ขับ นายทศวัฒน์ ไพศาลพันธ์ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 132 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ นายแสงสุรีย์ บุญคุ้ม อายุ 29 ปี ที่อยู่ 96 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ นายพีระพงษ์ โพธิระ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 59 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เมือง ชัยภูมิ น.ส.สุวิสา ประดุจชนม์ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 20 หมู่ 10 ต.ตรำดม อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ และ น.ส.รวิวรรณ เลางาม อายุ 20 ปี ที่อยู่ 52 หมู่ 9 ต.หนองปลิง อ.หนองแค จ.สระบุรี นำศพส่ง รพ.บางปะอิน ให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ทำงานและพักอาศัยอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก่อนเกิดเหตุเป็นคืนวันหยุดทั้งหมดชักชวนกันไปเที่ยวสถานบันเทิง ระหว่างเดินทางกลับที่พักได้ขับมาตามถนนพหลโยธิน ช่องทางคู่ขนาน เพื่อจะยูเทิร์นรถ แต่บนถนนมีน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนตก คนขับอาจใช้ความเร็วทำให้บังคับรถไม่อยู่ รถเสียหลักฟาดราวสะพานข้ามคลองอย่างแรงจนขาดสองท่อนและพลิกตกคลองจมน้ำ ผู้โดยสารบางส่วนกระเด็นออกมาตายนอกรถ และบางส่วนจมน้ำในคลองเสียชีวิตยกคัน ตำรวจจะส่งศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมดให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ และติดตามญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป