จากกรณีเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 เอเอส (737-8AS) ของสายการบินเชจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน และลูกเรือ 6 คน รวม 181 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ ไถลออกนอกรันเวย์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย มีผู้รอดชีวิตเป็นลูกเรือ 2 ราย ในจำนวนนี้มีคนไทย 2 รายที่เสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค. 67 กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ แถลงว่า เจ้าหน้าที่หน่วยสอบสวนของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ แถลงความคืบหน้าล่าสุดของ โศกนาฏกรรมเครื่องบินเจจู แอร์ ที่ประสบเหตุไถลออกนอกรันเวย์ไปชนกับรั้วของท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ในจังหวัดชอลลาใต้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ศพ มีผู้รอดชีวิตเป็นลูกเรือ 2 ราย

โดยระบุว่า พบกล่องดำ ทั้ง 2 กล่อง ได้แก่ FDR (Flight Data Recorder) ที่บันทึกข้อมูลการบิน ไม่ว่าจะเป็นระดับความสูง ความเร็วอากาศ และทิศทาง และ CVR (Cockpit Voice Recorder) บันทึกการส่งสัญญาณวิทยุและเสียงในห้องนักบิน ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบินที่ 7C2216 แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งกู้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินและเสียงสนทนาระหว่างทำการบินแล้ว เพื่อสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ทางด้าน สำนักข่าวยอนฮับ ระบุว่า โดยปกติแล้วการถอดรหัสอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินเพียงอย่างเดียวอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจะระบุสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุทางการบินที่มีความเสียหายร้ายแรงระดับนี้ต้องใช้เวลาหลายเดือน แต่พบว่าหนึ่งในสองกล่องดำของเครื่องบินลำนี้ได้รับความเสียหายหนักบางส่วน ทำให้ในกรณีนี้อาจทำให้เกิดความล่าช้ามากขึ้นได้

โดยเจ้าหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนกล่าวว่า กล่องดำอาจต้องถูกส่งไปยังคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ ของสหรัฐฯเพื่อถอดรหัส ซึ่งในกรณีนี้กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานอย่างน้อย 6 เดือน