วันที่ 6 มกราคม มีรายงานว่า ในเวลา 16.30 น. จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระราชมงคลวัชรินทร์ หรือหลวงปู่มี ฐิตสาโร อดีตเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์วัดโพนทอง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มรณภาพลงแล้วด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ด้วยอาการอ่อนเพลีย และโรคชรา สิริอายุ 113 ปี 37 พรรษา
ทั้งนี้หลวงปู่มี เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากที่สุดในภาคอีสาน ขึ้นชื่อในเรื่องพระสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคยเสื่อมเสีย ขณะที่วัตถุมงคลของหลวงปู่มี มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดปลอดภัย
หลวงปู่มี เกิดวันที่ 1 เม.ย. 2455 ที่หมู่บ้านโพนทอง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อจบการศึกษาป.4 ได้บวชสามเณรแล้วศึกษานักธรรมตรีจนจบ ต่อจากนั้นก็เดินธุดงค์ไปตามชายแดนในสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ใน จ.สุรินทร์ หลายรูป พอถึงวัยหนุ่มท่านก็ลาสิกขาออกมาเป็นบรรพชิต อยู่ที่บ้านเกิดหลายสิบปี จากนั้นได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งเมื่อปี 2531 ขณะอายุ 76 ปี โดยมี พระอุปัชฌาย์ คือ พระครูภัทรญาณคุณ (หลวงพ่อประเสริฐ) วัดดาราธิวาส อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พระอธิการสุรินทร์ ปัญญาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุพจน์ เตชพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ส่วนลำดับศักดิ์ หลวงปู่มี ฐิตสาโร เจ้าอาวาสวัดโพนทองฯ ได้รับโปรดเกล้าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ในราชทินนาม “พระราชมงคลวัชรินทร์ สุจิณธรรมวิจิตร มหาคนิสสร บวรสังฆา รามคามวาสี”
โดยในวันที่ 12 มกราคม 68 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพสรีระสังขารพระราชมงคลวัชรินทร์ หรือหลวงปู่มี ฐิตสาโร