จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า “ประกาศตามหาหมาหายมีเงินรางวัล 20,000 บาท เพิ่มเป็น 50,000 บาท ชื่อ น้องทองดี หายวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลาไม่ทราบชัดเจน เพราะมีแม่บ้านรายวันที่จ้างมาเฝ้าทำหมาหลุดหายไปน้องมีแผลผ่าตัดมาข้างขวาข้างหลังมีรอยเย็บใส่เหล็กอยู่ มีแผลเห็นได้ชัดเจน พิกัดสถานที่หายที่ซอยรังสิตนครนายก 20 หลังจากน้องหลุดออกจากบ้านไป น่าจะตกใจเสียงพลุ เลยวิ่งหนีเตลิดไปไกล อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เห็นน้องหมาตัวนี้อย่าทำร้ายเขานะคะ ถ้าเจอแล้วติดต่อกลับมาที่เบอร์(เจ้าของสุนัข)…ด้วยค่ะ
หมายเหตุ อยู่ระหว่างไปแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายกับแม่บ้านรายวันคนนี้ เพราะไม่มีความรับผิดชอบในการตามหาน้องหมาอย่างเต็มที่ ทางเราเป็นกังวลมากที่น้องหมาหลุดหายออกจากบ้านไป ฝากพลังโซเชียลช่วยตามหายน้องให้ด้วยนะคะ”
ต่อมา มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ว่า “ทองดีหมาหาย เจ้าของมารับเรียบร้อยแล้ว นั่งเฝ้าหมดมื้อบ่ได้ไปไสเลย”
จากการพูดคุยกับ คุณวิสา อายุ 35 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะ บอกว่า ตนเองเห็นประกาศสุนัขหายดังกล่าว กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 2 ม.ค. ขณะกำลังพาสุนัขไปเดินเล่น ก็ไปเจอน้องทองดี บริเวณซอยรังสิตนครนายกที่ 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเรียกออกมาจากป่า และเอาข้าวให้กิน จากนั้นได้ถ่ายรูปไว้ และติดต่อไปยังเจ้าของ ซึ่งได้รับคำตอบว่าให้ช่วยดูแลน้องไว้ก่อน เนื่องจากเจ้าของอยู่ต่างจังหวัด
ตนเองเฝ้าน้องตั้งแต่ 07.00-16.00 น. พอเจ้าของมาถึง ก็รับน้องกลับไป โดยไม่ได้ให้เงินรางวัล ตามที่ประกาศไว้ ตนเองจึงสอบถามไปทางแชท ว่าเขาให้รางวัลจริงไหม ได้รับคำตอบว่า รอให้ตำรวจเปิดกล้องดูบริเวณจุดที่เจอหมา ใครเจอคนแรก ทั้งนี้ แม้พนักงานร้านหมูกะทะเจอก่อน แต่ก็ไม่ได้สนใจว่าเป็นหมาที่มีคนประกาศตามหา ต่อมาหมาได้หลุดไปหลบอยู่ในป่า จนมาอยู่หน้าบ้านเราพอดี ตนเองก็ดูแลให้ จุดประสงค์ที่มาสถานีตำรวจวันนี้ เพราะไม่อยากให้ทำแบบนี้ โดยการตั้งตัวเลขสูง เพื่อให้ช่วยตามหาสุนัข
ต่อมา คุณกล้วย อายุ 40 ปี เจ้าของสุนัข เล่าว่า ตนไม่ได้เลี้ยงเจ้าทองดีมาตั้งแต่กำเนิด แต่ไปเจอเจ้าทองดี ชอบนอนอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ เวลาที่ไปซื้อของก็จะผ่านและเห็นทุกวัน วันนึงเจอเจ้าทองดีขาหักเหมือนถูกรถชนมา ตนจึงนำน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลหมดค่ารักษาไป 200,000 บาท ต่อมาช่วงปีใหม่ ตนได้จ้างแม่บ้านมาดูแลบ้านและสุนัข เนื่องจากไปเที่ยวต่างจังหวัด
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ตนโทรหาแม่บ้าน ถามว่าให้อาหารสุนัขหรือยัง แม่บ้านบอกว่า เจ้าทองดีหายไป ตนจึงลงประกาศตามหาน้องทองดี และยินดีให้เงินรางวัลกับผู้ที่เจอน้อง จากนั้นเพจอาสาปทุม ได้แก้ไขเพิ่มเงินรางวัล 50,000 บาท ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขออนุญาตตน ซึ่งหากเจอ ตนก็ยินดีที่จะจ่ายให้หากมีใครพบเจอ แต่ถ้าถามถึงความยุติธรรม ตนยินดีที่จะจ่าย 20,000 บาท ส่วน 50,000 บาท ขอปรึกษาทนายความก่อน
ต่อมาวันที่ 1 มกราคม 68 ร้านหมูกระทะโทรมาหาตนบอกว่า เจอน้องทองดีแล้ว น้องวิ่งมาหลบที่ ซอย 14 ซึ่งไม่ห่างจากจุดหาย ตนก็บอกไปว่าช่วยส่งคลิปกล้องวงจรปิดในร้านให้ดูได้หรือไม่ ว่าใช่น้องทองดีหรือเปล่า จากนั้นร้านหมูกระทะก็ส่งมา ซึ่งตนดีใจและยืนยันว่าใช่น้อง แต่ตนเองอยู่ จังหวัดชลบุรี กำลังเดินทางกลับ ให้ช่วยดูแลน้องไว้ให้ก่อน และช่วยให้ข้าวให้อาหาร หากถึงกรุงเทพฯ จะไปรับน้องกลับบ้าน
ต่อมาวันที่ 2 มกราคม 2568 ช่วงเช้า ร้านหมูกระทะแจ้งมาว่า น้องทองดีหายไป คาดว่าจะเดินออกไปปัสสาวะบริเวณหน้าร้าน เดียวคงกลับมา
เวลาผ่านไปไม่นาน มีคนชื่อโอ LGBTQ โทรมาแจ้งว่า เจอน้องทองดีแล้ว เจอน้องระหว่างทาง จึงพาน้องกลับมาที่บ้าน โดยคุณโอ ขอให้โอนเงินจำนวน 50,000 บาท ให้เสียก่อน ทำให้ตนเกิดความสับสน จึงบอกไปว่า สุนัขอยู่กับทางร้านหมูกระทะนะคะ ยังไม่ขอจ่ายเงินให้นะ ขอกลับไปดูกล้องวงจรปิดก่อน ว่าสุนัขออกไปจากร้านหมูกระทะได้อย่างไร
ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ปฏิเสธจ่ายเงินรางวัล แต่สับสนว่าใครเจอสุนัขก่อนกันแน่ ซึ่งทางร้านหมูกระทะก็มีหลักฐานว่าน้องทองดีอยู่ที่ร้าน ก่อนจะหายไปในช่วงเช้าของอีกวันหนึ่ง
ตนมองว่า ร้านหมูกระทะเป็นคนเจอน้องทองดีก่อน และตอนนี้ ตนขอให้สังคมเห็นใจด้วย เพราะได้รับความเสียหาย จากเพจต่างๆ ที่นำเรื่องราวของตนไปโพสต์ว่าไม่จ่ายเงินรางวัล ทั้งที่เข้าใจผิด
คุณกล้วย บอกว่า เบื้องต้นได้ติดต่อกับทนายเดชา เพื่อปรึกษากรณีแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับคุณโอแล้ว เนื่องจากไม่พูดความจริงว่า ร้านหมูกระทะเป็นคนเจอก่อน และจะแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทกับผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เข้ามาคุกคาม ด่าทอว่าตนเบี้ยวเงินรางวัลอีกด้วย
หลังจากนี้ตนจะโทรติดต่อไปที่เพจอาสาปทุม สอบถามเรื่องการเพิ่มเงินรางวัล จาก 20,000 เป็น 50,000 บาท ว่าเพิ่มเงินรางวัลโดยไม่ขออนุญาตได้อย่างไร
ล่าสุด แอดมินเพจอาสาปทุม เจ้าของรู้อยู่แล้วว่าสุนัขอยู่ร้านหมูกระทะ แล้วเล่นใหญ่พูดเองว่าจะเพิ่มให้อีก 30,000 เป็น 50,000 บาท แล้วเจ้าของร้านหมูกระทะ บอกว่าไม่เอาเงินรางวัล แต่หลังจากนั้นสุนัขได้หลุดไปที่บ้าน LGBTQ โดยที่เจ้าของไม่รู้ ทำให้ LGBTQ มาทวงเงินรางวัล