เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ต่างตกใจหลังจากทราบข่าวทางโลกโซเชียล ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้เข้าช่วยเหลือ นายทน อายุ 62 ปี ที่กำลังเดินเท้าเป้าหมายจะไปจังหวัดหนองคาย

สาเหตุที่เดินเท้า นายทน อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกภรรยาและลูกเลี้ยงที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ไล่หนีออกจากบ้านโดยไม่ให้ค่ารถ จึงเดินเท้าไปเรื่อยๆ และเดินมาแล้วกว่า 13 วัน จนโลกโซเชียล ต่างออกมาตำหนิภรรยาและลูกที่บุรีรัมย์ ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตามที่เป็นถูกนำเสนอเป็นข่าวไป นางเอ เล่าว่าหลังทราบจากข่าวรู้สึกตกใจมาก ยอมรับว่านายทน เป็นสามีตนจริง มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ได้เลิกรากันไปนานกว่า 35 ปีแล้วจนตนมีสามีใหม่ไปนานแล้ว หลังจากเลิกกันทราบข่าวว่านายทน ไปมีภรรยาใหม่ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายทน ยอมรับว่าแปลกใจมากที่นายทน มาอ้างถึงภรรยาเก่าที่บุรีรัมย์ ทั้งที่ลูกทั้ง 3 คนจำหน้าพ่อไม่ได้แล้วเพราะพ่อไม่เคยติดต่อกันกับลูกมานานถึงกว่า 35 ปีแล้ว ปกตินายทน จะเป็นคนพูดกลับ

กลอก ชอบโกหก หลังจากออกจากบ้านไปไม่เคยติดต่อกันเลย การออกมาพูดดังกล่าวของนายทน ส่วนตัวเชื่อว่าเลอะเลือนหรือไม่หรือมีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบให้ดีๆ เช่นเดียวกับนายอุทัย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถที่อยู่ตรงข้ามกันกับบ้านอดีตภรรยานายทน เล่าว่า ไม่เห็นนายทน มานานแล้วจนจำหน้าไม่ได้ตอนที่อยู่นายทน ชอบโกหก ข่าวที่ออกมาอาจจะมีความคลาดเคลื่อนเพราะตนอยู่ตรงนี้มานานไม่เคยเห็นนายทน