เป็นประเด็นที่หลายคนจับตาไม่น้อยก่อนหน้านี้ และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น กรณีนักร้องดัง แสตมป์ อภิวัชร์ พูดถึงเหตุผลที่หายหน้าไปช่วงหนึ่ง เพราะไปขึ้นศาลมา
เนื่องจากภรรยาสาว นิว จีริสุดา ถูกกล่าวหาและคุกคาม จากผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวเท็จ บุกรุกเข้ามาถ่ายคลิปถึงหลังเวที
แบล็กเมลว่าภรรยาตนเป็นบ้า พยายามบอกเรื่องจริงเขาก็ไม่เป็นผล จนไปขึ้นศาลและได้ชนะคดีแล้ว ซึ่งหลายคนก็เป็นห่วง และสงสัยว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ล่าสุด ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปที่ แสตมป์ อภิวัชร์ ออกมาเปิดใจบนเวทีงานคอนเสิร์ตหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 เล่าถึงสาเหตุที่หายไป และไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดังนี้
– ขอเล่าเรื่องบางเรื่อง ซึ่งจะปกป้องชีวิตคนในครอบครัวได้ ถ้าตนนำมันออกมาสู่แสงสว่าง เพราะภรรยาตนถูกโจมตีในที่มืดมานานเกินไปแล้ว ตนหายไปเพื่อฟ้องร้องคน 2 คน ที่บุกรุกเข้ามาแบล็กเมลภรรยาตนหลังเวที เมื่อปี 2567
– เริ่มมาจากมีคนคนนึง สร้างสถานการณ์ ปั่นให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภรรยาตน ทั้งในวงการเพลงและนอกวงการเพลง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และมีคนหลงเชื่อ ถึงขั้นมาโพสต์ด่า โจมตี บุกรุกเข้ามาหลังเวที จนเราทำงานไม่ได้
– คนคนนี้โผล่หน้ามาให้ภรรยาตนรำคาญใจเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่เรื่องมันร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2565 ที่มีตัวละครคนนึงเพิ่มขึ้นมาคือแฟนของเขา ซึ่งทำงานอยู่ในวงนึง ทำให้มีป้ายห้อยคอที่สามารถบุกเข้ามาหลังเวทีไหนก็ได้ตามอำเภอใจ
– ในช่วงปี 2565 ขณะที่ตนเล่นดนตรีอยู่บนเวที 2 คนนี้ก็จะแวะมาโฉบผ่านหน้าภรรยาตน บางครั้งก็มาสร้างสถานการณ์ มานั่งร้องไห้ใกล้ ๆ ภรรยาตน โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว ซึ่งภรรยาตนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่ามันไม่น่าจะปลอดภัย แต่ก็ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากให้ตนเป็นข่าว ก็เลยใช้วิธีหลบเลี่ยงเอา
– ปีต่อมาท่านก็เสียสละเวลา และเสี่ยงอะไรต่าง ๆ ไปขึ้นศาลให้เรา เป็นพยานว่า 2 คนนี้ มาทำลายชื่อเสียงภรรยาตน ไม่อยากให้ตนทำงานต่อหรือเปล่า
– ต่อมาตนได้ตัดสินใจ โทร. หานักร้องนำของวงที่อีกฝ่ายสังกัดอยู่ ขอโทษที่ร่วมงานกันไม่ได้ ตราบใดที่ทั้ง 2 คน ยังอยู่ในวง ระหว่างการสนทนาก็รู้สึกได้ว่าถูกอัดเสียงอยู่ตลอด นั่นแปลว่า 2 คนนั้น ไปบอกเขาก่อนแล้วว่าภรรยาตนไปคุกคามเขา แล้วเขาก็เชื่อ
– อยากถามว่าภรรยาตนจะไปคุกคามเขาก่อนได้อย่างไร เมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุ เกิดที่หน้าห้องพักศิลปินของตน เกิดตอนตนกำลังจะเดินขึ้นโชว์ และทุกครั้งเราเช็กแล้วว่าไม่มีพวกคุณ เราไปไหนมาไหนตามงาน เราต้องใช้การ์ด 2 คน แต่เขาเดินไปไหนมาไหนก็ได้สบายใจ
– สุดท้ายแล้วแต่ใครจะเชื่อแบบไหนก็ได้ แต่ในเมื่อมันไม่มีความปลอดภัยและไม่มีใครช่วยเราได้ เราก็ต้องไปพึ่งศาล ไม่งั้น 2 คนนี้ จะไปวาดภาพว่าภรรยาของตนเป็นอะไรก็ได้เลย มีหลักฐานมากมายที่คนในวงการเพลงส่งมาให้พวกเรา ว่าเขาไป DM ไปเล่าให้ทุกคนฟัง แล้วมีคนส่งมา มองว่ามันไม่ make sense บอกว่าอีบ้านี่มันเป็นอะไร โรคประสาทกำเริบเหรอ ก็ตัดสินใจให้ศาลตัดสิน ว่าภรรยาตนเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า
– เราก็ปรึกษากันในปี 2567 แล้วเรื่องที่น่ากลัวที่สุดก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อของจำเลยท่านนึง เป็นทหารยศพลตรีจากพิษณุโลกมาขึ้นศาลแทนลูกเขา แล้วแบกเอกสารปึกใหญ่ เกี่ยวกับยศ ผลงาน เครื่องราชฯ บอกว่าเขากำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ ขอให้ตนกับภรรยาถอนฟ้องลูกของเขาซะ ไม่งั้นตนจะโดนคดีทางการเมือง นี่คือเรื่องในศาล
– ฝากไปถึงท่านนายพล ผมเข้าใจท่านดี นับถือท่านที่ท่านปกป้องครอบครัวของท่าน ผมเองก็ทำเช่นนั้นอยู่ แต่จะดีกว่านี้ไหม ถ้าหากว่าแทนที่จะรักลูกของท่านด้วยการมาขึ้นศาลแทน ไปบุกรุกบ้านแม่ตน ท่านรักลูกของท่านด้วยการดูแลเขาอยู่ในบ้าน ไม่ให้มาหาเรื่องภรรยาผม ไม่ให้ใส่ร้ายใส่ความภรรยาผมอีก คดีที่ท่านข่มขู่ผม ไว้ถ้าท่านยิงมา ก็คงต้องสู้กันไป ถึงวันนั้นผมคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปิดศึกในสื่อ แล้วทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นใคร
– สุดท้ายขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผมและครอบครัวมาตลอด 20 ปี และขอให้ปรบมือให้ภรรยาตนที่พยายามสู้มาตลอดดีกว่า ผมดีใจที่ในที่สุดผมก็ได้ปกป้องนิว
ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนหรือครอบครัวหลังจากวันนี้หรือเปล่า แต่ขอบอกไว้เลยว่า “ถ้ามีอะไรกับคนในครอบครัวผมหรือผม ชีวิตนี้ผมมีศัตรูคนเดียว”