Home ข่าววันนี้ ทนายเดชา เผยหญิงคู่กรณี แสตมป์ แจ้ง ม.112 แล้ว ชี้ไม่ใช่ข่มขู่ ต้องปกป้องสถาบัน

ทนายเดชา เผยหญิงคู่กรณี แสตมป์ แจ้ง ม.112 แล้ว ชี้ไม่ใช่ข่มขู่ ต้องปกป้องสถาบัน

32

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ม.ค. 2568 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา แถลงข่าวแทนฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นคู่กรณีของ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องชื่อดัง มาปรึกษาคดีความต่าง ๆ และได้ยกเลิกการแถลงข่าวทั้งหมด เนื่องจากพอใจคำขอโทษของแสตมป์

ทนายเดชา กล่าวว่า ตนได้ประชุมกับทางทีมที่ปรึกษาและครอบครัวของคู่กรณีฝ่ายหญิง ซึ่งมีทั้งหมด 4 คดี คดีแรก ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี คดีอาญาหมิ่นประมาท แสตมป์เป็นโจทก์ฟ้อง, คดีที่ 2 ศาลแขวงดุสิต คดีหมิ่นประมาท, คดีที่ 3 ศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท และคดีที่ 4 ศาลเยาวชนกลาง เป็นคดีของภรรยาแสตมป์เรียกร้องค่าเสียหายฟ้องชู้ ซึ่งมีการถอนฟ้องทั้งหมด 3 คดีในคดีหมิ่นประมาท ส่วนคดีที่ศาลเยาวชนกลางศาลไกล่เกลี่ย ทำยอม ซึ่งคดีทั้งหมด 4 คดีถึงที่สุดแล้ว

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันหลังจากมีการแถลงข่าวขอโทษจากทางแสตมป์แล้ว และอีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดใจดำเนินคดีความอะไร พอใจกับคำขอโทษ ขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 ซึ่งได้ไปให้การต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า โดยครอบครัวของคู่กรณีฝ่ายหญิงจะไปให้การกับทางกองทัพ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ในเรื่องมาตรา 112 โดยในคดีนี้มีพยานหลักฐานข้อความแชท ตรงกับที่ทางคุณแสตมป์โพสต์ว่าพูดจาพาดพิงถึงสถาบัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกองทัพและกระทรวงกลาโหมดำเนินการ

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันหลังจากมีการแถลงข่าวขอโทษจากทางแสตมป์แล้ว และอีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดใจดำเนินคดีความอะไร พอใจกับคำขอโทษ ขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 ซึ่งได้ไปให้การต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า โดยครอบครัวของคู่กรณีฝ่ายหญิงจะไปให้การกับทางกองทัพ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ในเรื่องมาตรา 112 โดยในคดีนี้มีพยานหลักฐานข้อความแชท ตรงกับที่ทางคุณแสตมป์โพสต์ว่าพูดจาพาดพิงถึงสถาบัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกองทัพและกระทรวงกลาโหมดำเนินการ

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า การขู่ยัดคดีมาตรา 112 ทางครอบครัวยืนยันว่าไม่มีการคุกคามหรืออ้างมาตรา 112 ไปข่มขู่คุณแสตมป์เลย แต่อาจจะมีการแจ้งให้เห็นว่าการแสดงความคิดเห็นการสนทนา มันต่อการละเมิดสถาบัน

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า นี่ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการแจ้งว่าการกระทำของแสตมป์ มันหมิ่นเหม่ ในเรื่องมาตรา 112 ซึ่งเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะต้องปกป้องสถาบัน มันเป็นคดียอมความไม่ได้ ต้องว่าไปตามกฎหมาย ส่วนช่วงเวลาที่มีการพูดหมิ่นเหม่ ถึงมาตรา 112 นั้น ตนไม่ทราบช่วงระยะเวลาที่ชัดเจน แต่เป็นช่วงที่มีการฟ้องร้องคดีครอบครัวกัน และหลักฐานค่อนข้างชัดเจน

“ณ วันนี้ไม่ติดใจเอาความ แต่ถ้าหลังจากนี้ไปให้สัมภาษณ์สื่อแล้วกระทบกับทางคู่กรณีฝ่ายหญิงและครอบครัว ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ถ้าหากอีกฝ่ายหยุด เขาก็หยุด ส่วนเรื่องต้องจ่ายค่าชดเชยที่เหลืออีก 900,000 บาท จะต้องรอหลังจากวันนี้ว่าจะดำเนินการยังไงต่อ”

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องความสัมพันธ์นั้น ไม่ได้สอบถาม เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในสัญญายอมความ คู่กรณีฝ่ายหญิงไม่ได้ยอมรับว่าเป็นชู้ แต่ยอมรับที่จะจ่ายค่าทดแทนจำนวน 1 ล้านบาท อ้างว่าถูกกดดันจากคู่กรณี ว่าไปกดดันกับทางแฟนคนปัจจุบัน ทำให้แฟนไม่สามารถหางานได้ จึงต้องการจบเรื่องทุกอย่าง

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า หลังจากมีการทำคดีพิพากษาจำยอม ทั้งพ่อของคู่กรณีฝ่ายหญิงไม่เคยเจอคุณแสตมป์และไม่เคยไปข่มขู่ คุกคามเลย ส่วนกระแสที่ว่าไปหาที่บ้านแม่ของคุณแสตมป์นั้น ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ อีกฝ่ายก็สงสัยว่าคดีนี้ในเมื่อจำยอมแล้ว แสตมป์เป็นคนไปถอนฟ้องเอง โดยที่ไม่ได้มีการตกลงอะไรกันเป็นพิเศษด้วย ทำไมถึงไปพูดบนคอนเสิร์ตต่ออีก

ส่วนที่มีหลายคนตั้งคำถามว่าการนำคำพิพากษามาโพสต์ลงโซเชียลมีเดียลักษณะนี้ จะไม่มีความผิด ทนายเดชา ยืนยันว่าไม่มีความผิด เพราะคนที่โพสต์เป็นแฟนคู่ความ เสมือนเป็นผู้รับมอบอำนาจ เมื่อโดนกล่าวหาให้เสียหายก็ต้องชี้แจง