เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 68 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ พมจ.ชัยภูมิ, เจ้าหน้าที่ รพสต.วังตะเฆ่ เจ้าหน้าที่กองสวัสดิการ อบต.วังตะเฆ่ และผู้นำชุมชน ได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 15 ปี หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสให้ไปช่วยเด็กที่ถูกพ่อและลุงกระทำชำเรา จนผวาหนักต้องไปขออาศัยอยู่กับบ้านญาติและเพื่อนบ้าน สืบเนื่องจากพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน ต้องใช้ชีวิตอยู่กับพ่อไปเรื่อยๆ แถมยังเจอปัญหาชีวิตที่ย่ำแย่ เมื่อตอนเรียนอยู่ ป.6 ขณะที่อาศัยอยู่กับพ่อในที่ทำงานแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชัยภูมิต้องถูกพ่อแท้ๆ ลวนลามหวังข่มขืน
กระทั่งนายจ้างที่ทำงานพบเห็นเหตุการณ์จึงช่วยเหลือไว้ได้และนำมาอยู่กับป้า แต่เหตุการณ์ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ คือสามีของป้า มีศักดิ์เป็นลุงบังคับให้เด็กหญิงวัย 15 ปีนั่งรถไปส่งยาบ้าด้วยพร้อมกับเอาปืนจี้ บอกเด็กว่าเป็นเมียลุงอีกคนได้ไหม และพาขับรถเข้าป่าและทำการข่มขืน ซึ่งเป็นป่าในพื้นที่บ้านหัวสะพาน หมู่ 6 ต.วังตะเฆ่ พร้อมข่มขู่ว่าอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใคร
กระทั่งเด็กเล่าให้ป้าฟัง ป้าจึงส่งตัวให้ไปอยู่กับญาติที่ จ.สารคาม ซึ่งเป็นป้าอีกคน และเมื่อ 3-4 วัน ป้าที่อยู่ จ.สารคามได้นำเด็กมาไว้ที่บ้านญาติในพื้นที่ บ้านหัวสะพาน ม.6 ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ แต่ด้วยความกลัวเด็กไม่กล้าอยู่ที่บ้านญาติ จึงได้หนีออกจากบ้านญาติไปหาหลบซ่อนตัวอาศัยหลับนอนอยู่กับเพื่อนบ้านที่พอรู้จักกัน เพราะเกรงว่าลุงจะมาเจออาจไม่ปลอดภัย พร้อมขอให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับเด็กเมื่อตอนอายุ 12 ปี จากนั้นเด็กก็ได้ไปอยู่กับญาติ
กระทั่งเด็กกลับมาและมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสดังกล่าวให้กับทาง พมจ.ชัยภูมิเข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว ล่าสุด น.ส.ณิชชา ผิวนวลสุคนธ์ นักสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พมจ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ รพสต.วังตะเฆ่ เจ้าหน้าที่กองสวัสดิการ อบต.วังตะเฆ่ และผู้นำชุมชนได้นำเด็กหญิงวัย 15 ปี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ แท่นแก้ว สว.สอบสวน สภ.วังตะเฆ่ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับนำเด็กไปตรวจร่างกายต่อไป จากนั้นก็ได้มีการทำหนังสือขออนุญาตจากญาติๆ เด็กเพื่อนำเด็กไปดูแลที่บ้านพักเด็กฯ ตามระเบียบ ซึ่งในด้านของกฎหมายก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.