หมิง ชาลิสา เคลียร์ข้อครหา ท้องก่อนแต่ง หลังคบสามีนอกวงการ อรรถ วิสุทธิ์ แค่ 1 ปี จัดงานแต่งภายใน 3 อาทิตย์ ยังไม่ชินเรียกสามี
หมิง ชาลิสา เปิดใจที่แรกหลังแต่งงานกับสามีหนุ่มนอกวงการ อรรถ วิสุทธิ์ หลังคบหาดูใจกันมาแค่ 1 ปี จนโดนเม้าท์ว่าท้องก่อนแต่ง พร้อมเผยความรักระยะไกลวีดิโอคอลกันตลอด 24 ชั่วโมง แต่งานแบบนี้ไม่รู้ว่าสาวหมิงเตรียมตัวออกจากวงการย้ายไปอยู่กับคุณสามีที่จังหวัดอุดรธานีหรือเปล่า โดยเจ้าตัวเล่าผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ตอนนี้สถานะเปลี่ยนแล้ว ตอนนี้คุ้นกับคำว่ามีสามีหรือยัง?
หมิง : ไม่คุ้นเลยค่ะ เมื่อเช้าพูดคำว่าแฟน เขาบอกอย่ามาแฟน ภรรยา หมิงบอกไม่เอา อย่าเพิ่งหมิงเขิน เมื่อกี้ดูรูป ตอนนี้หมิงก็เขิน
อยากให้เล่าถึงบรรยากาศวันที่ 16 ที่ผ่านมาหน่อย เป็นไงบ้าง มันอบอวลด้วยความรักขนาดไหน?
หมิง : รู้สึกเสียใจ เพราะทุกคนที่อยู่ในงานเป็นคนที่หมิงรัก หมิงอยากกอดทุกคน แต่หมิงไม่ได้พูดคุยกับใครแม้แต่คำเดียว หมิงก็ไม่รู้นะว่าการแต่งงานเราจะไม่มีเวลาคุยกับใครเลย แม้กระทั่งกินข้าวตอนกลางคืน จำไม่ได้ว่าใครมาบ้าง ต้องไปดูในคลิป คนที่แท็กเข้ามา ที่บอกว่าเสียใจตรงที่ว่า เราไม่ได้คุยกับใคร เราไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับใครแล้วเราก็ไม่ได้ขอบคุณเขา เรารู้สึกขอบคุณทุกคนที่มาในงาน แต่จริงๆ ก็ยังมีตกหล่นหลายๆ ท่าน แต่ไม่ได้ลืมนะคะ แต่มันรีบทุกอย่าง 3 อาทิตย์จัดงาน มันลืมไปหมด หมิงไม่ได้บรีฟคุณพ่อ คุณแม่บนเวทีว่าต้องมีพูดนะ คือมันเร่งไปหมดทุกอย่างเลย
ทำไมถึงต้องเร่งภายใน 3 วีคขนาดนั้น?
หมิง : มันมาจากที่เขาขอเราแต่งตอนวันเกิด ประมาณ 26 พ.ย. หมิงเคยคุยกับเขาเรื่องการแต่งงานมาแล้ว ว่าหมิงจะไม่แต่งปีชง คือปีนี้มันเป็นปีชงของหมิง หมิงพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าหมิงไม่แต่งปีหน้า ถ้าพี่จะแต่ง แต่งปีถัดไป แล้วพอดีตอนนั้นที่คุยกัน เขาถามว่าแล้วหมิงนับวันไหนเหรอที่เป็นปีชง หมิงก็บอกว่าตรุษจีนปีนี้ประมาณ 27-28 นะ เขาก็บอกว่าถ้าแบบนั้นก็แต่งก่อน 27-28 แล้วกัน แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวไปที่วัดกันเลย ทีนี้หมิงได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณวัดโพธิ์ หมิงบอกหลวงพ่อคะ หมิงปีชง หมิงอยากแต่งก่อนตรุษจีน ตอนแรกหลวงพ่อจิ้มมาวันที่ 27 เราก็ชื่นใจหน่อย เพราะอีกประมาณ 2 เดือน แต่ทีนี้หลวงพ่อติดภาระกิจ เชิญนิมนต์ไปต่างประเทศ หลวงพ่อเลยย้ายมาเป็นวันที่16 ทุกคนก็เหวอ แล้วช่วงนั้นคือช่วงปีใหม่ ทุกคนต้องหยุดปีใหม่ มันเลยกลายเป็นเหลือ 3 อาทิตย์เท่านั้นที่หมิงจัดงานแต่ง
หลายคนอยากรู้ว่าทำไมแต่งเร็ว คบกันปีเดียวเอง มันเร็วไปหมดเลย มีเบบี๋หรือเปล่า?
หมิง : ไม่เลย พี่เขาเข้ามาด้วยความตั้งใจ ตั้งแต่วันแรกที่เจอเรา เขาก็ถามเราเลยว่าอยู่อุดรฯ ได้ไหม
ย้อนกลับไป เจอกันได้ยังไง?
หมิง : เรื่องความรักครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีผู้จัดการของหมิง ตอนนั้นเราไปไหว้พระกับคุณแม่ที่ญี่ปุ่น พี่โอม ผู้จัดการหมิงเขาโทรหาถามว่าหมิงอยู่ไหน หมิงบอกอยู่ญี่ปุ่น เขาบอกว่ากลับมาเจอกัน หมิงก็ถามว่าทำไม เขาบอกเอาน่า ฉันจะพามาดูว่าที่น้องเขยของฉัน หมิงก็คิดว่าพูดเล่น เลยถามว่าพี่อยู่ไหน เขาบอกมาทำกฐินที่อุดรฯ เสร็จแล้วกลับมานัดจริงหลังจากวันเกิดหมิง 1 วัน เขาบอกว่าว่างไหม หมิงก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เหมือนพี่พามาเจอรุ่นน้องเขา พอเจอเขาก็ถามว่าอยู่อุดรฯ ได้ไหม เรื่องของเรื่อง พี่อุ๋ยภรรยาพี่ดู๋ สัญญา เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับพี่เขา แล้วพี่อุ๋ยกับพี่โอมเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาเลยมองๆ เอาไว้ ว่าน้องสาวเราโสดนะ เขาก็ช่วยๆ กันหา แล้วเขาก็มองว่าคนนี้เหมาะกับเรา เพราะเราชอบทำบุญ แล้วครั้งแรกที่พี่อุ๋ยกับพี่โอมโทรไปหาพี่เขาถามว่าทำอะไรอยู่ เขาบอกว่ามางานบุญแจกตู้เย็น ก็สายบุญเหมือนกันน่าจะเหมาะแหละ
แล้วตอนที่เขาถามเราว่าอยู่อุดรได้ไหม ตอนนั้นเราตอบเขาไปว่าอะไร?
หมิง : บอกว่าอยู่ได้พี่ ชอบเที่ยว หนูไปบ่อยมาก ไปถ้ำนู้น ถ้ำนี่ เราไม่ได้คิดอะไร ใครจะคิดว่าผู้ชายเจอเราครั้งแรกแล้วถามคำนี้เลย แล้วพอหมิงตอบไปเขาก็นิ่ง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเขาจะถามต่อว่าน้องชอบที่ไหน แต่เขาเงียบ เราก็คิดว่าไม่มีอะไร
แล้วไปชอบตรงไหน?
หมิง : ตอนแรกคือไม่ชอบเลย แต่มันไม่ชอบเลยแบบนั้น เรามองว่าเขาเป็นผู้ชายคนละไทป์กับเรา เราเป็นเด็กสายศิลป์ เขาเป็นเด็กสายวิทย์ จบวิศวะ ทุกอย่างเขาอยู่ในกรอบ คุยอะไรกันเรารู้สึกว่าทำไมต้องเป๊ะแบบนั้น เรารู้สึกว่ายืดหยุ่นได้ แต่พอเราไปเจอกับความเป๊ะของเขา เรามีความอึ้งเล็กน้อย ตอนปีใหม่เขาชวนหมิงกับคุณแม่ไปอุดรฯ กำลังทานข้าวร้านลาบ ไม่ได้โรแมนติกอะไรเลย เขาก็เงียบอยู่คนเดียว แล้วบอกว่าคุณแม่ครับ ต่อไปนี้ผมขออนุญาตจีบน้อง คือเขาจริงจัง
เราได้บอกคุณแม่หรือยังว่าพี่คนนี้มาจีบเรา?
หมิง : ยังเลย หมิงบอกแม่เดี๋ยวเราไปอุดรฯ เดี๋ยวมีคนที่เขาเป็นเพื่อนสนิทพี่โอม คือเราใช้พี่โอมเป็นเครดิต เดี๋ยวแม่ไม่ไป เพราะอะไรที่ผ่านพี่โอมแม่จะโอเค
แม่วันนั้นพอพี่เขาพูดแบบนั้น แม่ตอบเขาไปว่าไง?
แม่ :อึ้งไปพักนึง ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจม
แล้วเราพูดอะไรไปตอนนั้น?
หมิง : โอ้ว..พี่ไม่เลือกร้านเลยนะ นั่งกินลาบกันอยู่ แล้วแม่ก็ถามว่าทำไมถึงเลือกมาถามแม่ เขาก็บอกว่าผมอยากเข้าตามตรอก ออกตามประตู อยากให้แม่สบายใจว่าผมตั้งใจมาจีบน้อง แม่ก็บอกว่าลองถามน้องแล้วกันว่าน้องโอเคไหม แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันเป็นเดือน เขาก็ขอนัดคุณแม่อีก ตอนแต่เขาบอกว่าหมิงเราคบกันมาสักระยะแล้ว อย่างที่ลอกเขาเป็นสายวิทย์ เขาจะเป๊ะๆ เขาจีบหมิงสัก 2 เดือน เขาจะมาเป็นแฟน พอช่วงนั้นมันก็ถึงระยะเวลาที่มันต้องเป็นแฟนกัน เขาบอกว่าหมิงถึงเวลาแล้วไหม เรามาเป็นแฟนกัน หมิงก็ติดตลก บอกว่าพี่ไปขอแม่แล้วกัน ถ้าแม่ให้ หมิงก็เป็นแฟนพี่ เขาก็บอกงั้นนัดเลย คือทุกแมตช์เขารุกมาก
กว่าจะคบกันพี่หมิงเองก็เหมือนไม่ไว้ใจ ฉันจะไว้ใจเธอได้ไหม แล้ววิธีการที่ทำให้ไว้ใจคือยังไง?
หมิง : ช่วงที่เขาขอเป็นแฟน หมิงก็บอกว่าพี่เอาจริงๆ หมิงว่าเราเข้ากันไม่ได้ คำว่าเข้ากันไม่ได้ของหมิงคือด้วยไลฟ์สไตล์ที่มันห่าง เราคิดภาพไม่ออกว่าการที่เราจะคบคนระยะทางไกลมันเป็นยังไง เราจะต้องเจอกันเดือนนึงกี่ครั้ง ถ้าเขาอยู่ตรงนู้น