วันที่ 25 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบุรี รายงานว่า หลังจากเมื่อช่วงเช้า ญาติได้โพสต์ตามหา “น้องโอเว่น” อายุ 10 ขวบ สวมเสื้อกีฬา ขาวเหลือง มีหมายเลข 7 อยู่ด้านหลังเสื้อ เดินออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อนำขยะออกมาทิ้งที่หน้าบ้าน ก่อนหายตัวไป
ญาติเปิดกล้องวงจรปิดพบมีบุคคลรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 17-18 ปี สวมเสื้อคลุมสีขาว กางเกงขายาว สวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีขาว-แดง(ทะเบียนไม่ชัด) เข้ามาจอด แล้วเรียกน้องโอเว่นนั่งซ้อนท้ายและขี่ออกจากหน้าบ้านพักไป ญาติจึงรีบเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบน้องโอเว่นถูกนำตัวมาปล่อยทิ้งบริเวณวัดเพรียง ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงประสานญาติให้มารับตัวและทำการสืบสวนข้อเท็จจริง
ต่อมาตำรวจสืบสวน สภ.ท่ายาง สืบทราบว่าบุคคลที่พาตัวน้องโอเว่นออกมาจากบ้านที่ท่ายางคือ น.ส.เสาวรส แตงอ่อน อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นครูพี่เลี้ยงโรงเรียนปริยัติรังสรรค์ จึงเดินทางไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.โพไร่หวาน อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี
สอบสวน น.ส.เสาวรส ให้การอ้างว่า เป็นครูพี่เลี้ยงที่โรงเรียนดังกล่าว นอกจากสอนหนังสือแล้วจะมีหน้าที่คอยประจำรถรับ-ส่งนักเรียน ที่ผ่านมาตนไปรับน้องโอเว่นที่บ้านใน ต.ท่ายาง และมาส่งน้องโอเว่นที่โรงเรียนเป็นประจำ ตนและน้องโอเว่นจึงเกิดรักชอบกัน
น.ส.เสาวรส กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุน้องโอเว่นได้โทรมาคุยและนัดหมายให้ตนไปรับที่บ้าน ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปรับน้องโอเว่นที่บ้านและพาน้องมาที่บ้านพัก แต่เมื่อมาถึงน้องโอเว่นกลับไม่ยอมเข้าบ้าน
น.ส.เสาวรส กล่าวว่า ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงปล่อยให้น้องโอเว่นอยู่ข้างนอก แล้วตนก็กลับเข้าบ้านพัก กระทั่งน้องโอเว่นเดินไปขอความช่วยเหลือจากนักศึกษาชายที่หอพัก ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของตนและถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม
จากการสอบถามน้องโอเว่น เล่าว่า มีรถจักรยานยนต์มาจอดรับ โดยพูดว่า “มึงขึ้นมานี่ ถ้ามึงไม่ขึ้นมากูจะฆ่ามึง” น้องโอเว่นจึงขึ้นรถจักรยานยนต์ไป น้องคิดว่าคนก่อเหตุเป็นผู้ชาย แล้วพาไปบริเวณพื้นที่ที่เป็นป่า ซึ่งอยู่ไกลจากจุดที่รับน้องไป หลังจากนั้นจึงให้น้องขึ้นไปอยู่บนรถตู้ทึบ มีผู้ชายในรถตู้ถามว่า น้องมีเงินไหม 100 บาท น้องบอกว่าไม่มี
หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวจึงพาน้องมาบริเวณทางรถไฟที่จะข้ามไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี แล้วปล่อยน้องลงจากรถ โดยน้องได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากวัยรุ่นที่อยู่บริเวณหอพักใกล้กับจุดที่น้องถูกนำไปปล่อยทิ้งไว้ เพื่อขอความช่วยเหลือ
