รถบรรทุกเฉี่ยวจยย.ล้ม ด.ญ. 11 ซ้อนท้ายตกรถ ถูกเหยียบขาเละ ต้องตัดทิ้ง แม่-ยาย ร่ำไห้ ต้องกลายเป็นคนพิการ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
วันที่ 25 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่กู้ภัยพนมสารคาม รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บนถนน 304 ทางเข้าปั๊มน้ำมันพีทีเขาหินซ้อน มุ่งหน้าพนมสารคาม ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กน 1742 สระแก้ว จอดอยู่ข้างทางพร้อมถังแก๊ส ห่างไปประมาณ 5 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 832207 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่ ลักษณะกำลังจะเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน
ด้านขวาของรถบรรทุกพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กหญิงอายุ 11 ปี มีบาดแผลฉีกขาด ตั้งแต่หน้าแข้งขวาจนถึงปลายเท้ามีสภาพเละ เนื่องจากถูกล้อรถบรรทุกทับ ผู้บาดเจ็บยังมีสติสามารถพูดคุยได้ โดยมียายที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุนั่งกอดประคองหลานสาวร้องไห้
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพนมสารคาม แต่เนื่องจากบาดแผลของเด็กมีขนาดใหญ่และต้องทำการผ่าตัด จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ ด.ญ.มุกดา จันทร์แดง อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5
จากการสอบถาม นางเต็มดวง จันทร์แดง อายุ 46 ปี ยายของเด็ก กล่าวว่า ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับหลานสาว เพื่อจะนำถังแก๊สมาเปลี่ยนที่ร้านแก๊ส ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ตนก็ขับรถจักรยานยนต์มาทางเลนด้านซ้ายปกติ
นางเต็มดวง กล่าวต่อว่า จนมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จะเลี้ยวเข้าปั๊มได้มาเฉี่ยวรถจักรยานยนต์ของตน ทำให้หลานตกลงมาจากรถจักรยานยนต์มุดเข้าไปใต้ท้องรถในช่วงล้อหน้าทำให้ล้อรถทับขา ตอนนี้หลานของตนต้องตัดขาทิ้งในส่วนที่เสียหาย เพื่อรักษาชีวิตไว้ ทำให้หลานต้องกลายเป็นคนพิการ
ด้าน น.ส.พลอยไพลิน จันทร์แดง อายุ 28 ปี แม่ของเด็ก กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ลูกของตนไม่มีขาแล้ว ลูกกำลังจะมีอนาคต แต่สุดท้ายต้องมากลายเป็นคนพิการ เพราะไม่สามารถที่จะเดินได้แล้วตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
ด้าน ด.ญ.มุกดา ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า รถบรรทุกขับเข้ามาชิดกับรถของตนกับยาย แล้วก็เฉี่ยวชนรถของตนกับยายจนส่ายไปมา ทำให้ตนร่วงลงมาจากรถจักรยานยนต์และกลิ้งไปอยู่ใต้รถบรรทุก ตนนำขายกหลบล้อแล้ว แต่หลบได้ข้างเดียว ส่วนอีกข้างยกหลบไม่ทัน รถก็เข้ามาเหยียบเลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน ได้รวบรวมกล้องวงจรปิดในขณะเกิดเหตุ พร้อมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
