พิม พิมพ์พรรณ เจอพิษละครหด ผุดอาชีพเสริมแม่ค้าขายชา เจอคนถามเป็นดาราทำไมมาขายของ ลั่นไม่เคยมองเป็นการลดศักดิ์ศรี
มีหลายคนเห็นนักแสดงสาว พิม พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ ไปเปิดบูธขายชานานาชาติแถมช่วงหลังมานี้นักแสดงสาวก็ดูจะห่างจากหน้าจอไป ผู้สื่อข่าว ข่าวสดบันเทิง ได้ต่อสายตรงถึงนักแสดงสาว ขออัพเดตชีวิตว่าตอนนี้จะผันตัวเป็นแม่ค้า ทำธุรกิจขายชาเต็มตัว หรือว่าเพราะเจอพิษงานละครหด
นักแสดงสาว เผยว่า “พิมชอบค้าขายอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำมาขาย เคยแต่ทำแจก พิมรู้สึกว่าปีหลังมางานละครน้อยมาก หลายๆ คนตกงาน อย่างที่เราก็ทราบกันอยู่ การผลิตละครมันน้อยลง พิมเลยเอาเวลาว่างมาทำในสิ่งที่เราชอบ พอดีว่ามีบูธที่เขาให้ดารามาขาย เราเริ่มเอามาลงบูธดารา เริ่มมีคนสั่งออเดอร์เหมานำไปใช้ในงานจัดเลี้ยง พอมีออเดอร์เข้ามา เราทำเป็นเรื่องเป็นราวมีทีมงานเข้าช่วย แต่งานแสดงยังรับอยู่นะ ไม่ใช่ว่าไม่ทำแล้ว ตอนนี้ถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง แต่ก็ยอมรับว่างานน้อยลงมากๆ เราก็ต้องหาชีวิตเสริม ตอนนี้เราก็อยู่ได้
จุดเริ่มต้นก็มาจากที่พองานน้อย เราก็ว่างมากอยู่บ้านจนเบื่อ แต่พิมไม่ค่อยซีเรียสตอนที่ไม่มีงาน เพราะไม่มีหนี้ แต่สำหรับคนที่มีหนี้สินก็อาจจะเดือดร้อน เราไม่ได้เดือดร้อนมากแค่มีเวลาว่างเยอะไปหน่อย มีบูธดารามาให้ เราก็ไปลองทำสิ่งที่เราชอบเพราะเราเป็นสายเครื่องดื่ม อาหาร ลองผิดลองถูกก็สนุกดี ขาดทุนก็มีบ้าง เพราะว่าเรายังไม่มีประสบการณ์ว่าจะต้องไปออกบูธที่ไหน บางทีไปก็ไม่ใช้กลุ่มเป้าหมาย แต่ว่าตอนนี้เริ่มจับทางถูกแล้ว มีลูกค้าติดก็เลยต้องจัดสรรเวลา ถ่ายละครด้วยขายของด้วย พอเรามีทีมมาช่วยทำ ก็แบ่งเบาเราได้เยอะ ไม่เหนื่อยมาก ยังไปถ่ายละครได้เหมือนเดิม”
เหมือนเราเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อเตรียมตัวเฟสออกจากวงการหรือเปล่า? “จริงๆ เราก็ทำทั้งสองขา ไม่ดรอปอันไหน งานแสดงก็มีเข้ามาเรื่อยๆ แค่มีเข้ามาน้อยลง แล้วก็มีธุรกิจตัวนี้ด้วย ตอนแรกๆ มันเหนื่อยๆ มาก ต้องตื่นแต่เช้าเพราะว่าเราทำคนเดียว ตอนนั้นเวลาไปกองละครอีก ไม่เอาแล้วเพราะมันกระทบกับงานหลักของเราคืองานแสดง เราก็เลยต้องหาคนมาช่วย พอมีทีมก็สามารถทำงานแสดงได้ด้วยสบายๆ”
จากนักแสดงต้องมายืนขายของเป็นแม่ค้า? “พิมไม่เคยมองว่ามันเป็นการลดศักดิ์ศรี มีคนถามเยอะ คนที่มาซื้อของเราก็มีที่มาถาม บางคนก็ถามว่าทำไมเป็นดาราแล้วมาขายของ พิมมองว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอาชีพที่สุจริต ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะทำอะไร การขายของก็เป็นอีกอาชีพที่เรารัก ทำแล้วมีความสุข ถามว่ารายได้มันทดแทนกันไหม มันอาจจะไม่เป็นรายได้เยอะเท่างานแสดง แต่เรามีความสุขที่ได้มาออกร้าน คนซื้อเขาแฮปปี้กับสินค้า มันเหนื่อยจริง แต่พอมีทีมแล้วมันโอเค ตอนนี้อยู่ตัว มองไว้หลายอย่าง ที่อยากจะทำ แต่ก็ต้องเรียนรู้”
ตอนที่ไปยืนขายของครั้งแรก ทำตัวไม่ถูกไหม? “ไม่นะ เพราะว่าตอนที่พิมเรียนจบใหม่ๆ หางานทำยาก เราก็เริ่มไปขายเสื้อผ้าตลาดนัด ขับรถกระบะไปเอง เอาเสื้อผ้าราคาถูก ขับรถกระบะวิ่งซื้อขายเองคนเดียว ลุยมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ทำงานไปด้วย ขายของไปด้วย เพื่อหารายได้เป็นเงินเก็บ มันไม่มีความกดดันอะไร เราเป็นแม่ค้ามาก่อนทำงานแสดง เราอยากทำอะไรเราก็ต้องพยายามมุ่งไป”
ส่วนตัวต้องปรับตัวอย่างไรกับงานแสดงที่น้อยลง? “เราต้องวางแผนชีวิตตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงเราต้องมีแผนสำรอง พิมว่าเรื่องของการก่อหนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ามีหนี้ก้อนใหญ่ต้องทำงานหนักจริงๆ แผน 2-3 ต้องเตรียมไว้เลย ของพิมผ่านจุดนั้นมาแล้วจุดที่ต้องหาเงินมาโปะหนี้ที่เราสร้างขึ้นมา ตอนนี้เราชิลแล้ว เมื่อก่อนพอทำงานได้เงินมาเราก็โปะหนี้ เราไม่อยากมีหนี้ เพราะว่าอาชีพนักแสดงมันไม่แน่นอน ถ้าเราเจ็บป่วย รายได้เราก็หยุดไปเลย
ตอนนั้นมีงานเยอะ เงินก็ได้เยอะ เราก็รีบโปะภายในปี 2 ปีให้หมด ก็เลยหมดห่วง มีเงินเก็บพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัวได้ ไม่ลำบาก ค้าขายเป็นอาชีพเสริม ถามว่าขายดีไหมมันก็มีทั้งดีและไม่ดีสลับกัน ถ้าไม่มีกำไรเราก็จะได้ไม่ต้องเครียดกับมัน แล้วเวลาที่พิมลงรูปที่เกี่ยวกับการขายของมีแต่คนชื่นชม ไม่มีมาดูถูกว่ามาขายของ มีแต่คนชมว่ามีแต่คนชมว่าขยันจัง เป็นแบบนี้มากกว่าค่ะ”.
