วันที่ 11 ก.พ.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจและหลากหลายกลุ่มถึงข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สอดคล้องกับนโยบายที่สิ้นปีนี้รัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ในธีมของ “อเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ทัวร์ริซึม แอนด์ สปอร์ตเยียร์” จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติม เรื่องห้ามขาย ตั้งแต่ เวลา 14.00-17.00 น. หรือวันทางพุทธศาสนาต่าง ๆ ว่าเรื่องนี้กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง รวมถึงการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และการติดขัดการควบคุมเป็นโซนนิ่ง
ซึ่งกฎบางกฎออกมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องนี้ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างง่ายดายด้วย เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ถ้าปลดล็อกเพิ่มรายได้ผู้ประกอบการและการท่องเที่ยวแล้ว เยาวชนต้องถูกปกป้องเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแอลกอฮอล์ เรื่องนี้ก็ให้ความสำคัญ และไม่ได้ละเลย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ห้ามไว้คือเรื่องของเวลาช่วง 14.00-17.00 น. ส่วนวันสำคัญทางพุทธศาสนาจะให้ทีมลงไปศึกษาดูก่อน เพราะวันพระใหญ่หรือวันที่ยังห้ามอยู่นั้น ชาวต่างชาติที่เข้ามาเขาไม่ทราบก่อน ก็จะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เพราะธีมปีนี้ เน้นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องนี้ต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า คนจะไม่เมากันทั้งประเทศหรือ จังหวะนี้ทำให้บรรดารัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้วยหัวเราะ โดยนายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “โอ้ว” ก่อนจะถามติดตลกว่า “จริง ๆ ปกติทุกท่านดื่มกันทุกวันเลยหรือ ดื่มหนักนะคะ” พร้อมกับหัวเราะ
ก่อนนายกรัฐมนตรี จะกล่าวว่า จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีกฎเรื่องนี้ ตอนที่ห้ามขายเวลาดังกล่าวมาช่วงไม่เท่าไหร่นี้ ซึ่งตนเองบอกกับคณะรัฐมนตรีว่าต้องเน้นย้ำเรื่องของการเข้าถึงมากกว่า คนที่เป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะก็เรื่องหนึ่ง แต่เด็กนั้นมากกว่าที่เราต้องโฟกัส ไม่ใช่ว่าพอปลดล็อกทุกคนจะมีสิทธิซื้อขาย มันไม่ใช่ นี่คือเรื่องต้องเน้นย้ำมาตรการให้ถูก