พีเค ปิยะวัฒน์ น้อยใจ! งานหดจากดราม่าชีวิตคู่ ขอคุยไกล่เกลี่ยให้ได้เดินหน้าต่อ เผยสถานะการเงินไม่มั่นคง ตอนนี้มีเงินในกระเป๋า 700 บาท ขอโอกาสกลับไปทำงาน ถ้าวิ่งไปของานสาบานทำไมเป็น
เป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ครอบครัวที่เป็นที่พูดถึงมานานหลายเดือนสำหรับการจบความสัมพันธ์ชีวิตคู่ของพิธีกรหนุ่ม พีเค ปิยะวัฒน์ และสาว โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ซึ่งก่อนหน้านี้สาว โยเกิร์ต ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กลับหลังสาว มิเรียน ได้มีการโพสต์ถึงความผิดปกติบัญชีเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งครั้ง พีเค ปิยะวัฒน์ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนครั้งแรก ถึงการกลับมาทำงานพิธีกรอีกครั้งหลังเจอดราม่าหนัก พร้อมเคลียร์ถึงประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย
พีเค ปิยะวัฒน์ ได้รับหน้าที่มาเป็นพิธีกรสายนางงามอีกครั้งกับการประกวด Miss International Queen 2024 รอบชุดประจำชาติและรอบสามารถพิเศษ โดยทาง อั๋น ภูวนาท ได้ให้โอกาสและเป็นผู้ทาบทามเจ้าตัวด้วยตัวเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้นั้นทางหนุ่ม “พีเค” ไม่ได้ไปต่อกับการเป็นพิธีกรเวที Miss Universe Thailand
ซึ่งการกลับมารับงานพิธีกรครั้งนี้ ทางครอบครัวของหนุ่ม ”พีเค“ ก็ได้ขนทัพมาให้กำลังใจติดขอบเวทีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหวานใจคนใหม่สาว มีเรียน สุเดชา อัคเซลการ์ด – คุณแม่วิไลวรรณ และพี่ชาย หนุ่ม เข็มเพชร โดยมีท่าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ในส่วนของหนุ่ม ”พีเค“ วันนี้ก็ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองได้ดี ไร้ความกังวลใดๆ
หลังจากจบงาน “พีเค” ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนครั้งแรกหลังจากเกิดดราม่าต่างๆ ถึงการได้รับโอกาสกลับมาทำงานพิธีกรอีกครั้ง โดยเจ้าตัวเผยว่า ได้มีโอกาสกลับมาเหยียบเวทีอีกครั้งก็ต้องขอบคุณทางเจ้าของเวทีที่ให้โอกาส ยอมรับไม่มีความตื่นเต้นเลย ตนพร้อมมาก ตอนที่ตนไม่ได้ทำงานก็ได้ไปยืนดูหลายอีเวนต์ เรารู้สึกว่าถ้าเป็นตนจะทำให้สนุกว่านี้ได้ ตนนอนฝันแทบทุกคืนและรู้สึกว่าเราทำสิ่งนี้ได้ดีพอๆกับคนอื่น
ในช่วงก่อนขึ้นเวทีนั้น มีการแตะเวทีก่อนขึ้นเวที ตนก็เผยว่า ตนจับหัวใจและจับเวที เพราะมันเหมือนร่างกายเรา พอได้กลับมาจะทำให้เต็ม 120 เลย เพราะการเป็นพิธีกรมันสำคัญกับชีวิตเรามาก และเวทีอีเว้นท์เป็นเวทีที่สร้างชีวิตตน สามารถมีบ้านมีรถได้เพราะอีเว้นท์ ทำมาเยอะจนสามารถสอนคนอื่นได้ ตอนที่แตะเวทีตนบอกว่า กลับมาแล้วนะ และจะทำให้ดีกว่าเดิม
โดยผลกระทบที่ตนโดน เหล่าบริษัท ออแกไนซ์ อาจจะสูญเสียความมั่นใจจากตนไป ซึ่งตนรู้ว่าตัวเองพลาด แต่ความสามารถทางหน้าจอทีวีและบนเวทีเรานั่นยังเก่งเหมือนเดิม เพราะตนทำมา 25 ปีแล้ว เลยรู้ว่าตัวเองเก่งระดับหนึ่งได้ จนสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ และรู้ว่าความสามารถยังไม่ได้หายไปไหน ตัวเองถึงกับไม่ถึงหลุดจากวงการไปเพียงแต่มันต้องใช้เวลา อีกทั้งข่าวที่ออกมา มันไม่ค่อยดี ทำให้ตนเข้าใจคนที่ว่าเรา ตนพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นระหว่างพักเบรก
ส่วนคนที่มองปัญหาที่เกิดมากกว่าความสามารถของตนนั้น ตนก็แอบน้อยใจ ที่เขาแยกไม่ออกระหว่างชีวิตส่วนตัวกับความสามารถ ตนเข้าใจสังคมไทย เลยเลือกที่จะไม่พูด เลยขอไม่ให้สัมภาษณ์และยอมรับผิดเอง แต่วันนี้ตนกลับมาได้ทำอย่างเต็มที่ ต้องไปถาม อั๋น ภูวนาท ที่เลือกให้โอกาสตน ในวันที่คนอื่นไม่ให้โอกาส ตนเลยใส่เต็มที่ และจะหวนกลับมาทำงานเหมือนเดิม
ในงานพิธีกรเจ้าตัวยอมรับว่า นอกจากรายการดังและเวทีนางงามดัง พิธีกรงานอีเวนต์ทั้งหมด ก็โดนยกเลิกหมดเลย ทางตนเข้าใจว่าตัวเองพลาด และพยายามจะขอโทษ หากใครยังความสามารถตนอยู่ก็เรียกใช้ได้ ตนพร้อมเสมอกับโอกาส ถึงแม้จะหลายไป 3-4 เดือนก็ตาม คิดว่างานวันนี้เปิดโอกาสให้เจ้าตัวอีกครั้ง เพราะมีงานหลายที่ติดต่อมาแล้ว จากที่ทุกคนมองข้าม และไม่คิดว่ามันจะมีผลกระทบกับงาน แต่ทางแม่ตนบอกเสมอว่า ลูกทำงานมา 25 ปี ถือว่าพักผ่อน ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจอดราม่าหนักแบบนี้ โชคดีที่มีแม่ พี่ชาย คอยซัพพอร์ต
วันนี้ครอบครัวมาให้กำลังเยอะมาก ตนก็บอกว่า วันนี้เขาเหมือนเป็นห่วง เพราะตนที่มีปัญญามากๆ ตนดิ่งสุดแล้ว เขาก็พยายามจะเข็นเราขึ้น พอเราได้โอกาส ครอบครัวก็มาจับตาไม่ให้เราพลาด
สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ใครจะคิดอะไรคิดเลย ขออนุญาตไม่พูด ตอนที่มีปัญหาทำให้รู้เลยว่า เราเป็นคนที่รักทุกคน ใจดีกับทุดคน พอมีปัญหาแล้ว มันเหลือแค่กำมือเดียวคนที่อยู่ในชีวิต และก็ขอโทษคนไปเยอะแล้ว ไม่รู้ว่าขอโทษแล้วได้อะไรขึ้นมา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางคู่กรณี ตนก็อยากจะไกล่เกลี่ยและต่างคนต่างไปใช้ชีวิตทำงานในหน้าที่ของตัวเอง ก็รู้สึกว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว คิดว่ายังพูดคุยกันได้ ขอให้เป็นเรื่องอนาคต และเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาหาอะไร ส่วนเรื่องจะถึงขั้นฟ้องร้องไหม ขอไม่ตอบ ยอมรับว่าคุยได้ เพราะหมา 2 ตัวยังอยู่กับเขา อาจจะสลับกันเลี้ยงบ้าง และปัญหาตอนนี้เราไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นยังไง
ถามถึงความมั่นคงในชีวิต เรื่องเงิน ตนก็ยอมรับว่า ไม่มั่นคงเท่าไหร่ แต่ต้องขอบคุณแม่ เพราะแม่บอกว่า ถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยวแม่ดูแลให้เอง อย่างตอนนี้มีเงิน 700 ในกระเป๋า แม่ให้มาด้วย น้อยที่สุดตอนนั้นมีติดตัวแค่ 916 บาท ตอนไม่มีก็ขอยืมเงินพี่ชาย หลังจากนี้ก็ยืนยันจะไม่พูดพลาดพิงถึงใครแล้ว
วี วีระชัย ถามว่ามีท้อไหมก็ท้อเหมือนกัน แต่ทุกคนในวงการบอกอย่าท้อ ต้องอยู่เพื่อครอบครัว ตอนนี้ขายดีขึ้น มีขายอยู่บ้านและออกบูธบ้าง รายได้กับรายจ่ายที่เจอก็พอได้อยู่ แต่ก็ยังขาด”
