Home Blog Page 168

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ซินแสเข่ง เตือนแรง ชะตาตกดวงแตกแยก ต้องพลัดพราก

“แพทองธาร ชินวัตร” นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบเสียงโหวตพรรคร่วมท่วมท้น โดยแบ่งเป็น เห็นชอบ 318 เสียง , ไม่เห็นชอบ 145 เสียง , งดออกเสียง 27 เสียง ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น “ซินแสเข่ง” ผ่าดวง น.ส.แพทองธาร ในรอบปี 2567 บอกว่า เป็นปีแห่งการปะทะ ต่อเนื่องจากปี 2566

ซึ่งปีที่จะก่อให้เกิดปัญหาแตกแยกพลัดพรากและตายจาก หรือจะก่อให้เกิดความวุ่นวายสับสนสร้างความไม่เข้าใจ ให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ จากการที่ อุ๊งอิ๊ง ได้ขึ้นรับตำแหน่ง ในช่วงระหว่างเดือน สิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนปะทะดวงเมือง และปะทะดวงชะตาอุ๊งอิ๊ง ในเดือนสิงหาคมเดือนนี้ ถือว่าเป็นเดือนแห่งทูตมรณะ เหมือนกินยาพิษเข้าไป ก็จะทำให้มีผลต่อเนื่องในอนาคต ที่จะก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยก พลัดพราก ไม่สมหวัง และตายจาก สับสนวุ่นวาย ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568

ซึ่งเป็นปีมะเส็ง ธาตุไม้ ที่มีผลกระทบ เป็นปีแห่งศัตรู ที่จะก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจ เป็นปีแห่งคดีความ ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะในดวงชะตาของอุ๊งอิ๊ง มีดวงชะตาที่ตกดวงแตกแยก พลัดพราก และต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองไปอยู่ในต่างถิ่น

แต่เนื่องจากการที่ได้รับความเห็นชอบ จากครอบครัว ในการส่งเสริมให้ได้รับตำแหน่ง ในช่วงจังหวะมรสุมชีวิต ที่จะเกิดขึ้น ก็จะก่อให้เกิด ความล่มสลายเกิดขึ้นในอนาคต

‘ตู่ จารุศิริ’ ประกาศข่าวดี แต่งงานแฟนหนุ่มรุ่นน้องอายุห่าง 13 ปี ดีกรีไม่ธรรมดา

วัย 47 ปี! เผยข่าวดีให้พ่อ ‘นาท ภูวนัย’ ‘ตู่ จารุศิริ’ ประกาศข่าวดี แต่งงานแฟนหนุ่มรุ่นน้องอายุห่าง 13 ปี ดีกรีไม่ธรรมดา

เชื่อว่าหลายคนคงนั้นคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับ “ตู่ จารุศิริ ภูวนัย” ลูกสาวอดีตพระเอกรุ่นใหญ่ “นาท ภูวนัย” โดย “ตู่ จารุศิริ” มีผลงานอย่างมากมายทางหน้าจอทีวีและก่อนหน้านี้ทางด้าน “ตู่ จารุศิริ ภูวนัย” ทำ

เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแฟนหนุ่มรุ่นน้องอายุห่าง 13 ปี แต่งงาน หลังจากที่ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปี ล่าสุดทางด้าน ตู่ จารุศิริ ประกาศข่าวดี ได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว โดย ตู่ จารุศิริ ได้โพสต์ว่า “ในที่สุด พ่อช้านที่หวง

ลูกสาวก็จิ้มฤกษ์มา 7ธค” และก็ได้มีการถ่าย Pre wedding แล้วเป็นที่เรียบร้อยโดยงานนี้ทางด้าน ตู่ จารุศิริ ได้

ออกมาอวดภาพความน่ารักถ่าย Pre wedding กับแฟนหนุ่ม และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า “อายุห่างกัน13ปี ระยะทางห่างกัน 686 กิโล แต่ใจไม่ห่างกันนะคะ ซุปเปอร์ บี” ซึ่งก็มีทางด้านแฟนๆเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกันเพียบ

อดีตคู่รักดังหวนโคจรร่วมงานกันในรอบ 14 ปี งานนี้สะเทือนบันเทิง

โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบ 14 ปี เลย สำหรับ เเป้ง อรจิรา กับ ภูริ โดยล่าสุด เเป้ง ได้ออกมาเผยว่า

พี่ริเหมือนคนในครอบครัวตั้งเเต่เราเข้าวงการเเรกๆจนตอนนี้ครึ่งชีวิตเเล้ว เหมือนร่วมงานกับคนในครอบครัว เหมือนรียูเนี่ยนดึงความรู้สึกเก่าๆมา
เราตีกันทั้งเรื่อง เขาชอบให้เราตีกันอาจจะสนุกรักกันเเล้วคนไม่ดู เราไม่ต้องเคาะสนิมเพราะเราเล่นละครมา 20 ปี เเม้ว่าจะห่างงานละครก่อนหน้านี้
เหนื่อยเเละหนักเพราะสภาพอากาศเราก็ไม่เด็กเเล้ว ในเรื่องตีกันไม่มีอะไรให้น่ารักเลย ไม่มีอะไรให้ยิ้มเลย ตอนเด็กอาจจะเล่นเเบ๊วบางเเต่ด้วยอายุ
ไม่กล้าอ้อนผู้จัดว่าอยากเล่นเเบ๊ว เราอยากเล่นเเต่ก็ต้องสู้กับความเหนื่อย บางเรื่องสบายบางเรื่องไม่สบาย เราก็ท้าทาย

549000011984504

1067535

1067536

1067534

1067533

‘อาต๋อย ไตรภพ’ ยังไม่เชื่อ เปิดหุ่นล่าสุด ‘บุ๋ม ปนัดดา’ หลังท้อง 23 สัปดาห์

ขึ้นแท่นว่าที่คุณแม่ลูกอ่อนอีกครั้งสำหรับคุณแม่ลูกดก บุ๋ม ปนัดดา ซึ่งตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกชายคนที่ 3 ซึ่งเผยสาเหตุ ตัดสินใจมีลูกอีกคนตอนนี้ เพราะอยากให้น้องอเล็กซ์มีเพื่อนเล่น ในอายุใกล้ๆกัน โดยแม่บุ๋ม มาประกาศในช่วงที่ท้องได้ 5 เดือนแล้ว ท่ามกลางทุกคนแสดงความยินดีจำนวนมาก

ล่าสุด แม่บุ๋ม โพสต์อินสตราแกรมส่วนตัว @boompanadda เผยภาพถ่ายรายการกับ อาต๋อย- ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พร้อมแคปชั่นระบุว่า “แม่ท้อง 23 สัปดาห์ อาต๋อย ไตรภพ ไม่เชื่อว่าท้อง ฮ่าๆๆๆๆ”บอกเลยค่ะว่าชาวเน็ตที่เห็นภาพเซ็ตนี้แล้ว ก็ต่างบอกตรงกันว่าถ้าไม่ประกาศว่ามีน้อง ก็ไม่รู้จริงๆ ไม่เหมือนคนท้องเลย

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

อาต๋อย ไตรภพ ก็ยังไม่เชื่อ ดาราสาวชื่อดังคนนี้ กำลังท้อง!!?

“เจนนี่ รัชนก” ยอมรับอดีตเคยหลงตัวเอง! อยากเป็นแม่ที่ดี ลูกทำให้อยากมีชีวิตสู้ต่อ

เจนนี่ รัชนก ยอมรับอดีตเคยหลงตัวเอง ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้ว เปรียบตัวเองเหมือนแมว 9 ชีวิต อยากเป็นแม่ที่ดี ลูกทำให้อยากมีชีวิตสู้ต่อ!

เปิดหมดเปลือก “เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ” เปรียบตัวเองเหมือนแมว 9 ชีวิต ผ่านมรสุมดราม่ามากมาย ยอมรับอดีตเคยหลงตัวเองว่ามีอิทธิพลในโซเชียลตอนนี้ได้เรียนรู้แล้ว เป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่ ลูกคือลมหายใจทุกวันนี้อยากเป็นแม่ที่ดี มีชีวิตสู้ต่อไปเพื่อลูกและครอบครัว ในรายการ WOODY FM

เจนนี่ รัชนก

ตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกันคุณโดนมรสุมชีวิต ผ่านอะไรมาเยอะมากจนกระทั่งวันนี้ให้นิยามชีวิตตัวเองว่ายังไง ?เจนนี่ : แมว 9 ชีวิต มันผ่านอะไรมาเยอะมากๆ มาวันนี้เหมือนเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่ พี่ก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่หนูอยากให้รู้ว่า วันนี้หนูโตขึ้นแล้วนะคะ จะบอกว่าไม่ร้องไห้ก็คงไม่ได้ แต่อยากให้รู้ว่าหนูดีขึ้นมากๆ ค่ะ

สัมผัสได้เลย พี่ว่าเราไม่มีวันจบในการเรียนรู้ เพราะโลกมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่เรารับมือเป็น ?เจนนี่ : มันไม่ใช่เมื่อก่อนที่เจอดราม่าก็ร้องไห้ ถ่ายวีดีโอ โวยวายงี่เง่าเป็นเด็ก เดี๋ยวนี้พอเจอดราม่าก็คิดวิเคราะห์แยกแยะตั้งสติก่อนทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าจะมองข้ามหรือมองผ่านไม่ตอบไม่สนนะคะแต่แค่ตั้งสติก่อนว่าแบบไหนดีที่สุด

เจนนี่ รัชนก

ตอนนั้นมีน้องหลังจากนั้นก็เข้าใจว่าคงต้องมีสมาชิกเพิ่มในครอบครัว ปรากฎว่าไม่เป็นอย่างที่คิดก็คือแท้งไป 2 ครั้ง ความรู้สึกหัวอกคนที่คาดหวังที่จะมีลูกน้อยแต่ก็หลุดไป ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง เยียวยาจิตใจตัวเองยังไงทั้งพ่อและแม่ ?เจนนี่ : แต่มันก็ติดอยู่ในใจนิดหนึ่ง เสียใจค่ะ เพราะว่าบอกทุกคนตลอดว่าอยากมีครอบครัวที่ถ้ามีรูปติดฝาผนังก็คือ 5-6 คนขึ้น อยากมีลูกเยอะๆ อยากให้ตัวเองมีความสุขที่แท้จริง จากคนที่เป็นลูก จากเด็กที่เกิดมาจากเรา เหมือนร่างกายของเรามันสะสมความเครียดเกินไป คือคนแรกหนูรู้เลยว่าเขาเสียไปเพราะหนูร้องไห้ทุกคืน

ตั้งแต่รู้ว่าท้องเจอร้องทางบ้านหนักมากร้องเช้าเที่ยงเย็น เราก็รู้เพราะมีเลือดไหลสุดท้ายไปหาหมอน้องก็หลุด ก็ได้แต่โทษตัวเองว่ามันเป็นเพราะเครียด บางสถานการณ์ที่เราไม่เคยมันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะร้องไห้ออกมา ก็ยังโทษตัวเองที่ทำให้คนที่เรารักอีกคนเสียใจมากคือแฟน คือเขาร้องไห้เป็นเดือนเลย ผ่านมาได้เพราะเข้มแข็งเพราะว่า ยูจิน เขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย

แต่เราร้องไห้ทุกวันลืมแม้กระทั่งสั่งข้าวให้ลูก ลืมแม้กระทั่งให้ความรักเขา ในเมื่อสิ่งที่มีค่าที่สุดก็นั่งอยู่ตรงนี้เราก็ควรที่จะโฟกัสเขา หนูถึงบอกทุกคนว่ายูจินคือลมหายใจของหนู ถ้าวันนี้หนูไม่มียูจินอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ เพราะว่าสิ่งที่เจอในชีวิตมันหนักมากที่จะใช้ชีวิตต่อ แต่ทุกวันนี้หนูใช้ชีวิตเพราะอยากเห็นเขาเติบโต อยากรู้ว่าเขาโตมาแล้วจะเป็นอะไร เป็นนักร้อง เป็นดาราไหม

เจนนี่ รัชนก

พอผ่านเรื่องวัตถุต่างๆนาๆ มาค้นพบว่าสุดท้ายแล้วชีวิตก็คือแค่ความรักในครอบครัว ?เจนนี่ : ใช่ค่ะ ต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน ถ้าคุณโดนคนที่คุณรักเสียใจก็จบเลย บอกเลยว่าชีวิตหนูอยู่ต่อได้เพราะคนรอบข้าง ไม่ใช่เงินทองหรือของรอบกาย ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ที่หนูมี ต่อให้วันนี้หนูมีบ้านหลังใหญ่แต่ถ้าไม่มีลูก ไม่มีสามีที่ดีอยู่ข้างๆ เราก็คงไปต่อไม่ไหว หนูบอกกับสามีทุกวันว่าคิดถึงวันที่หนูขายรองเท้ามากๆ เลย ค่ะ พูดจากใจเลย เพราะวันนั้นหนูขายรองเท้าโดยไม่มีแรงกดดันอะไรเลย สนุกกับการได้ขายของ ขายเท่าไหร่ก็ไม่มีดราม่าจะพูดแหกปากยังไงคนก็ไม่ด่า แต่ทุกวันนี้หนูจะพูดอะไร 1 คำเป็นข่าวทั้งประเทศ ผิดนิดเดียวคือชีวิตโดนทัวร์ลงเลย แต่ถามว่าอยากกลับไปไหม ไม่อยากกลับไปค่ะ (หัวเราะ) เป็นวันนี้ดีแล้ว

มันก็มีข้อดี ทุกอย่างดีเสมอถูกไหม วันนี้คุณมีผู้ติดตามที่รักคุณเยอะมากและเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน ?เจนนี่ : วันนี้หนูตั้งใจมาจากบ้านเลยว่าจะเป็นพลังบวกให้พี่และให้ทุกคนให้ได้ คือหลังจากที่ข่าวดราม่ามันเยอะจนทุกคนอคติ เจอเจนนี่เมื่อไหร่ทุกคนรู้สึกลบ รู้สึก Toxic หนูอยากให้ทุกคนได้รับพลังงานใหม่ค่ะ เป็นพลังงานที่ประสบความสำเร็จและพลังงานที่มีแต่ความสุข

ได้เรียนรู้การปล่อยวางยังไงเพราะสมัยก่อนคุณแบกไว้เยอะมาก ?เจนนี่ : ควบคุมทุกอย่างค่ะเมื่อก่อน คิดว่าทุกคนคือเราควบคุมได้ ใครด่าก็คือฉันสามารถพูดกลับไปเพื่อควบคุมคุณได้ว่าอย่ามามีสิทธิ์ด่าฉัน มีปัญหาภายในค่าย ในครอบครัว ศิลปินในค่าย ก็คิดว่าตัวเองควบคุมได้ว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆ จนทุกวันนี้รู้แล้วว่าเราควบคุมไม่ได้และเราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ สิ่งที่เปลี่ยนได้คือตัวหนูเองเท่านั้นค่ะ ต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากเพื่อที่จะอยากทำงานในวงการ อยากทำงานที่เรารักต่อ สอนให้ตัวเองปล่อยวางเข้าใจแล้วว่าอะไรที่ควบคุมไม่ได้คือให้เปลี่ยนที่ตัวเอง

กับน้องลิลลี่ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้างช่วงที่มีครอบครัว เวลาที่ใช้ด้วยกันก็คงจะน้อยลง ?เจนนี่ : ใช่ค่ะ กว่าจะรับได้ก็มีปากเสียงกันเยอะมากค่ะ เพราะว่าโตมาด้วยกันลิลลี่อยู่กับหนูมาทั้งชีวิต จนวันที่หนูแต่งงานแล้วตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพฯ นั่นก็เป็นวันที่เขารู้สึกเสียใจและร้องไห้เยอะที่สุดในชีวิต ทำใจไม่ได้ ไม่กินข้าว ไม่ลงจากห้องไม่อะไรเลย เพราะรู้สึกว่าหนูทิ้งเขาไปรักคนอื่นมากกว่า หนูพยายามส่งข้อความหาเขาบอกว่าถ้าวันหนึ่งลิลลี่มีครอบครัวจะเข้าใจ

ซึ่งมันไม่ใช่วันนี้ พี่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ใกล้ลิลลี่แต่สัญญาว่าจะซัพพอร์ตเรา พยายามอธิบายแรกๆเขาก็ไม่ฟังหรอกค่ะ เพราะรู้สึกว่าพี่เจนรักพี่ยิวมากกว่า จนกระทั่งเขารู้ว่าพี่เหนื่อยมากนะ คือไหนจะน้อง ไหนจะลูกไหนจะแฟน ครอบครัว งาน ร้องไห้ใส่เขาเยอะมากแล้วเขาก็เริ่มสงสารหนู และเข้าใจก็พูดได้แค่ว่าถ้าว่างก็มาหาน้องนะ นี่ก็บอกว่าถ้าว่างก็ขึ้นมาอยู่กับพี่สิ ก็ไม่มาอยู่ดีเพราะว่าชอบอยู่ใต้ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แล้วก็แอบชอบชีวิตอิสระแล้วด้วยซ้ำไม่มีพี่คอยตามคอยห้าม

เจนนี่ รัชนก

ทำให้สามีก้าวผ่านความทุกข์ได้ยังไง ?เจนนี่ : หนูเกือบเลิกกันเพราะคนอื่นเยอะมาก หนูขอโทษเขาทุกครั้งที่หนูมีโอกาสเลย ตั้งแต่เขาเข้ามาในชีวิตคือเขาเครียด จากเขาพลังบวกเยอะกลายเป็นว่าชีวิตเขามีแต่เรื่อง Toxic คนภายนอกอาจจะเจอนานๆที แต่เขาอยู่กับหนูทุกวัน เขาเครียดไปกับหนูอะไรก็ไม่รู้ปัญหาเยอะมากกับดราม่าของการเป็น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น มันไม่ได้สนุก ไม่ได้เรียบง่าย ขอโทษเขาเยอะมากจนกระทั่งเขาก็ตกผลึกไปแล้วว่า เขาเคยถามตัวเองว่าเขาอยากไปจริงๆไหม อยากเลิกกับหนูจริงๆ หรือเปล่า

แล้วเขาบอกว่าสุดท้ายไม่อยากเลิกเพราะรักหนูมาก คิดไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาหนูจะอยู่ตรงไหน หนูจะอยู่ยังไง จะร้องไห้กับใคร กินข้าวกับใคร จะปรึกษาเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ยังไง เขาเลยบอกว่าขออย่างเดียวคือต่อไปนี้อย่าให้เรื่องของคนรอบตัวหรือคนอื่นมาทำให้เรามีปัญหาซึ่งกันและกัน เข้าบ้านช่วยเป็นเจนนี่ที่เป็นแฟนเขาคนเดียวได้ไหมที่แบบไม่ใช่ไปเอาพลังลบหรือไปทะเลาะกับใครมาแล้วมาลงกับเขา ไปเจอเรื่องอะไรมาก็มาใส่ที่เขา ก็ตกลงกัน จนกระทั่งเขาบอกว่าหนูทำได้ และหนูก็ทำได้ดีจริงๆ ตั้งแต่หนูตัดทุกอย่างออกจากชีวิตเหลือแค่เราและลูก หนูรู้สึกว่าเรามีความสุขมากขึ้น และหนูต้องขอบคุณที่เขายังอยู่

ยูจินเป็นยังไงบ้าง ?เจนนี่ : น่ารักมากค่ะ ขอบคุณที่เกิดมา ขอบคุณที่มาได้ทันเวลา ไม่รู้ว่าถ้าไม่มีเขา เราอาจจะตายไปแล้วจริงๆ เขาคือลมหายใจของหนูที่ทำให้อยากจะมีชีวิตในทุกๆ วัน อยากตื่นมาทำงานเพื่อเขา อยากเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเขา อยากเป็นแม่ที่ดี อยากเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่ อยากให้สังคมเปิดใจก็เพราะเขา เพราะไม่อยากให้ลูกโตมากับแม่ที่โดนทัวร์ลงบ่อยๆ ทุกวันนี้ตั้งแต่มียูจิน จากที่เมื่อก่อนถ้าลงคลิปหรือลงรูปอะไรก็ช่างคนด่า 80% แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีเลย แถมมีคนมาปกป้องด้วยซ้ำถ้ามีใครมาด่าเรา รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็น ระยะเวลามันพิสูจน์แล้วว่าตั้งแต่เรามีลูก เราดีขึ้นจริงๆ ชีวิตนี้หนูสามารถทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ สามารถตายแทนเขาได้คำนี้ที่พ่อแม่เขาพูดกันเราไม่รู้ว่ารู้สึกยังไง แต่วันนี้เรารู้แล้ว

คนติดตามคุณได้แรงบันดาลใจจากคุณเยอะมาก ก่อนจะมาถึงวันนี้มันก็ต้องผ่าน วันนี้คนเห็นตัวจริงที่ผ่านมาหมด ความจริงคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ ?เจนนี่ : ความจริงพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายด้วย แต่ความจริงที่ว่าต้องออกมาจากสติปัญญาที่จะสื่อให้คนรู้ เมื่อก่อนก็คือความจริงแต่สื่อออกไปแล้วมันดูเหมือนโกหกเพราะว่าเราไม่มีสติปัญญาในการใช้ชีวิต เราใหม่ เราเพิ่งดัง เรากำลังรวย มีอำนาจบารมีของโซเชียลมาก หลงตัวเองช่วงแรกๆ ก็ยอมรับ แต่ความจริงวันนั้นกับวันนี้ยังเหมือนเดิมค่ะแค่สื่อออกมาคนละแบบ ซึ่งแบบนี้มันเพอร์เฟคมากกว่า หนูได้เรียนรู้แล้ว การใจเย็น มีสติ ต้องถามตัวเองก่อนว่าจริงหรือเปล่า เพราะบางทีที่เขาด่ามันคือความจริงแต่เราแค่รับไม่ได้ ถ้ามันจริงก็ไม่เป็นไรก็ขอโทษแล้วกันนะ

‘น้องฑีฆายุ’ ไล่สอบวิชาการ เพื่อขอทุนเพื่อแม่ ‘แอนนี่ บรู๊ค’ ปลื้มใจ ร่ายยาวถึงลูก

เรียกได้ว่าทั้งหล่อทั้งเก่งเลยจริง ๆ สำหรับ น้องฑีฆายุ วัย 14 ปี ลูกชายสุดที่รักของ แอนนี่ บรู๊ค เพราะหลังจากลงประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ และได้ 100 คะแนนเต็ม ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จนคุณป้าที่อยู่อเมริกา เห็นแววความสามารถและความเก่งของ น้องฑีฆายุ จึงอยากช่วยสนับสนุนส่งหลานเรียนต่อที่อเมริกา แต่ น้องฑีฆายุ กลับปฏิเสธ พร้อมบอกว่า “ผมอยากอยู่กับแม่ แม่ครับ 10 คนรวยเลี้ยง ไม่เท่า 1 แม่ที่เข้าใจผม แล้วแม่ตัวคนเดียวจะอยู่ยังไง? แม่เป็นอะไรมา ผมมาหาแม่ไม่ทันใครจะดูแล” ทำเอาคนเป็นแม่ที่ได้ยินคำตอบถึงกลับปลื้มใจ น้ำตาไหลกันเลย

ล่าสุด แอนนี่ บรู๊ค ได้โพสต์ภาพ น้องฑีฆายุ ไล่สอบวิชาต่าง ๆ เพื่อให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดเอามาใส่ใน Portfolio และง่ายต่อการยื่นขอทุนการศึกษาปี 2568 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ระบุว่า “เพื่อให้ได้พอร์ตในการยื่นขอทุนการศึกษาปีหน้า ม.ปลายหรือให้ได้เข้าม.ปลายโดยที่แม่ไม่ต้องจ่ายมาก (ซึ่งก็คือปีหน้าไม่ไกลนี้แล้ว) สิ่งที่ฑีฆาทำคือไล่สอบ วิชาการทุก ๆ ที่, กลับบ้านถ่านหมด ทำให้พลาดการพูดคุยงานกับผู้ใหญ่หลายครั้ง ถึงจะเสียดายโอกาสที่เข้ามาแต่แม่เข้าใจเรื่องของจังหวะชีวิตคนเป็นอย่างดี แม่รู้ว่าหนูกำลังเรียงลำดับความสำคัญของชีวิตอยู่ แม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในวันที่ทุกอย่างพร้อมขอให้ผู้ใหญ่ยังคงเมตตาลูกเช่นวันนี้จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่ถูกที่ถูกเวลามาถึง และในระหว่างนี้แม่จะช่วยเตรียมความพร้อม ก่อร่างสร้างตัวตนของหนูให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้ ในเวอร์ชันของฑีฆายุให้พร้อมที่สุดจนไม่สามารถมีอะไรมาขวางทางความสำเร็จใด ๆ ได้เลย”

ทั้งนี้ยังได้คอมเมนต์ใต้โพสต์ดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ไม่คิดว่าสมัยนี้การแข่งขันจะสูงขนาดนี้และการทดสอบจะมีแยกหลายประเภทมากมายเหลือเกินสมัยก่อนคือเพียงแค่เรียนดีแต่ยากจน ตอนนี้ไม่ใช่ตอนนี้รวยก็อยากเรียนฟรีก็มี (แต่ก็มีพ่อแม่บางท่านที่ร่ำรวยแต่อยากได้ทุนการศึกษาเพราะว่ามันต่อยอดในเรื่องของโปรไฟล์) แยกเป็นหลายประเภทมากมันคละเคล้ากันไปหมดและแยกเป็นการทดสอบแต่ละอย่างในการเข้า ม.ปลายและมหาวิทยาลัยยากเหลือเกินเหนื่อยเหลือเกินสงสารเด็ก ๆ มาก ๆ จริง ๆ ในยุคสมัยนี้” ท่ามกลางแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมในความเก่งของ น้องฑีฆายุ กันอย่างเนืองแน่น

429649774 780105840657837 5156677539478617456 n

429753658 780105900657831 6382514358264594177 n

417413696 841351894533231 1188039725811809457 n

450609103 853805926621161 9058564499715948306 n

1723707410495

454453318 807654431544677 4256101575456620476 n

1723707356127

455157683 872319291436491 7180010547705316342 n

1723707341810

ประวัติ ‘น้องปิ๋ม สุภาวดี’ ใจแกร่งเกินชาย ขับ 10 ล้อที่เมกา

แห่ชมจบม.6ไปอยู่อเมริกา เปิดประวัติ ‘น้องปิ๋ม สุภาวดี’ ใจแกร่งเกินชาย ขับ 10 ล้อหารายได้หลักล้านส่งกลับร้อยเอ็ด

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตแห่แชร์ และให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากหลังเพจเฟสบุ๊คชื่อ New York ออกสาว ได้ออกมาเล่าเรื่องลาวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวได้ระบุข้อความว่า สาวไทยวัย 25 ปี ขับรถ10ล้อส่งของทั่วอเมริกา เรื่องราวของสาวไทยที่ขับรถส่งของทั่วอเมริกาที่หลายคนอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แล้วคุณรู้มั้ยว่าก่อนที่เค้าจะมาถึงจุดๆนี้เค้าผ่านอะไรมาบ้าง เพจเรามีเรื่องราวของเธอมาฝากกันค่ะ ปิ๋ม สุภาวดี นามชารี สาวน้อยชาวร้อยเอ็ด ที่ชีวิตลิขิตให้เค้ากลายเป็นสาวแกร่งและเก่งแห่งปี จากเด็กที่เริ่มจากศูนย์ จนวันนี้เธอสามารถทำรายได้เกือบล้านต่อเดือน และทำหน้าที่ลูกที่น่ารักของพ่อแม่และครอบครัว เค้าเป็นใคร แล้วเพราะอะไรเธอถึงเลือกอาชีพนี้

ปิ๋ม เกิดในครอบครัวที่ทางบ้านประกอบอาชีพเกี่ยวกับรถขนของ พ่อและแม่ของเธอต้องขับรถบรรทุกส่งของ ซึ่งต้องออกต่างจังหวัดเป็นประจำ ทำให้เธอนั้นเติบโตและเลี้ยงดูมากับคุณตาคุณยายโอกาสเดียวที่เธอจะได้อยู่กับพ่อและแม่นั้น เธอต้องอาศัยช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมเพื่อที่จะนั่งรถบรรทุกส่งของและเดินทางติดตามไปกับพ่อแม่ของเธอ นั่นก็ทำให้เธอได้ซึมซับกับประสบการณ์การขับรถบรรทุกส่งของตั้งแต่เด็กๆ ตอนวัยเด็กปิ๋ม ก็เหมือนเด็กต่างจังหวัดทั่วๆไป ที่การทำไร่ไปนา นอนกลางดินกินกลางทราย หรือแม้แต่งานรับจ้างทั่วไป เป็นสิ่งที่เธอทำประจำ หรืออะไรที่พอจะช่วยให้เค้าแบ่งเบาภาระทางบ้านได้ เธอไม่เคยเกี่ยง เรียกว่าหนักเอาเบาสู้ น่าชื่นชมจริงๆ กับผู้หญิงคนนี้

ใครที่คิดว่าเรียนไม่เก่งจะไม่ประสบความสำเร็จ ปิ๋มเรียนจบแค่ชั้นมัธยมศึกษา แต่ไม่ได้หมายความว่าการจบแค่ม.6 แล้วคุณจะไม่มีโอกาสทำอะไรตามที่เราฝัน เพราะฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินตามความฝันเข้ามาทำงานในอเมริกา ปิ๋มก็เหมือนเด็กไทยส่วนใหญ่ที่ทำงานตามร้านอาหารไทย

แต่สำหรับเธอคนนี้เธอคิดว่างานบริการไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดและชีวิตคนเราถ้ามุ่งมั่นและไม่หยุดที่จะทำในสิ่งที่เราฝัน จนเธอตัดสินใจเข้าสมัครเรียนจริงจังเกี่ยวกับการขับรถส่งของในอเมริกา และสอบผ่านใบอนุญาตขับรถส่งของ จนวันนี้เธอได้ทำตามความฝันอาชีพอะไรที่คุณรักและถนัด แล้วทำมันแล้วมีความสุข นั่นก็ถือว่าคุณประสบความสำเร็จในอาชีพแล้วค่ะ

ล่าสุดวันนี้ 4 พฤศจิกายน 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ChaRee Pim ก็ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ยินดีนะคะ ที่ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองออกไป ไม่ว่าเพจไหน สื่อไหนที่ให้ความสนใจสอบถาม ที่ตอบไป ยินดีค่ะ และก็ชื่อว่าครบทุกคำถาม ส่วนแต่ละที่จะมีวิธีการนำเสนอในรูปแบบไหน ก็แล้วแต่สไตล์ของเขา แต่ที่อยากพูดคือ

“ปิ๋มขอบคุณคนที่อ่านแล้วเข้าใจ เปิดใจกว้าง มองเห็นด้านดีที่ถูกแชร์ออกไป ไม่ใช่แค่ส่วนรายได้ จริงๆความสำเร็จในชีวิตคนเรา ไม่ได้ไกลตัวเลยนะ เริ่มจากการอ่าน คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เบสิคง่ายๆเลย ถ้าตีความได้ ใช้เหตุผล เข้าใจคนอื่นให้เหมือนที่อยากให้คนอื่นเข้าใจเรา แค่นั้นก็ถือว่าคุณประสบความสำเร็จ ในการใช้ชีวิตไปอีกขั้นแล้วค่ะ ไม่ได้โลกสวย แต่ก็ไม่เคยใช้ด้าน ไม่สวย”

เปิดโฉมหน้าคุณเเม่ของ ‘คิมเบอร์ลี่’ ออกสื่อครั้งเเรก

ออกมาโพสต์ภาพย้อนหลังในช่วงวันเเม่เเห่งชาติที่ผ่านมาให้เเฟนๆได้เห็นกัน สำหรับ คิมเบอร์ลี่
โดยโพสต์นี้เเฟนๆได้เห็นภาพของคุณเเม่ของคิมเบอร์ลี่เป็นครั้งเเรก ซึ่งไม่ค่อยได้ออกสื่อเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่าคุณเเม่สวยไม่เเปลกใจเลยว่าทำไมลูกสาวสวยขนาดนี้

454381736 18452656168058204 868212559309034536 n

454312848 18452656141058204 8167456322050736264 n

455991742 18454515313058204 7877989333237157795 n

455752194 18454515304058204 4824625466142883842 n

455282403 18454515229058204 2523288142609348203 n

‘สงกรานต์’ เผยสาเหตุแพ้ใจ ‘มายด์’ พากันรวยไปอีก

สงกรานต์ เผยสาเหตุแพ้ใจมายด์ สารภาพแพ้ทางผู้หญิงนิสัยแบบนี้
ความหวานไม่ลดลงเลย สำหรับคู่รักทายาทโบนันซ่า “สงกรานต์ เตชะณรงค์” กับ “มายด์ ณภศศิ” ล่าสุด ฝ่ายหญิง เปิดธุรกิจใหม่ หนุ่มสงกรานต์ เลยมาร่วมแสดงความยินดี

ซึ่ง “มายด์” เผยว่า “ตนผ่านประสบการณ์ทำธุรกิจมา 20 ปี ก็ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาก่อนเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำจากการเรียนรู้ของตัวเอง
แต่เชื่อเขาเก่งอยู่แล้ว ความรัก 2 ปีที่ผ่านมาดีขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ด้วยกันแล้วแฮปปี้ต่างคนต่างช่วยกันเรื่องธุรกิจ
มายด์ เผยพี่สงกรานต์เป็นเหมือนกำลังใจแม้จะไม่ค่อยพูดหรือบอกรัก แต่การแสดงออกของเขาตนสัมผัสได้ ทุกครั้งจะทำอะไรเขาก็อยู่ด้วยตลอดเห็นอยู่เคียงข้างตลอด

ขณะที่ สงกรานต์ ยอมรับแพ้ทางมายด์เป็นผู้หญิงเก่งและขยันรวมทั้งเอเนอร์จี้เขาที่มาช่วยปลุกไฟตน สำหรับตนเป็นผู้ชายวัย 40 จะดรอปเอเนอร์จี้ลงแต่พอมี มายด์ ช่วยปลุกไฟขึ้นมาทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน
ส่วนเรื่องแพลนอนาคต ทั้งคู่ เผยว่าไม่ได้มองไกลเรื่องคิดจะแต่งงานเพราะยังเป็นอนาคต มีคุยกันแค่เรื่องปัจจุบันคือทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด ส่วนข่าวดีก็ให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตดีมาก แค่เข้าใจกัน ช่วยกันแบบทุกวันนี้ก็ดีมากแล้ว

1067372

1723864393783

1723864374398

1723864357096

1723864347354

567000002406905

LINE ALBUM 2132024 240321 3

LINE ALBUM 2132024 240321 8
mind

455341239 867880255237766 2350293314670662452 n

455341239 467558582833214 8919023499055968117 n

ได้อิสระแล้ว! แร็ปเปอร์ยอดกตัญญู สไปร์ท ต้นสังกัดเก่ายอมถอนฟ้อง ไม่ต้องจ่าย 14 ล้าน

จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ด้านนักร้องแร็ปเปอร์ยอดกตัญญูชื่อดัง อย่าง สไปร์ท ที่ได้ถูกต้นสังกัดเก่าฟ้องเรียกค่าเสียหาย 14,000,000 บาท ได้รับหมายเรียกทั้งครอบครัวถ้วนหน้า 3 คน พ่อแม่ลูก โดยตามคำฟ้องอ้างว่า ผิดสัญญาว่าจ้างศิลปิน ทั้งที่ฝ่ายพ่อของน้องสไปรท์ ขอยกเลิกสัญญาไปแล้ว ก่อนจะผลักดันตัวเองให้มีชื่อเสียงระดับโลก

ล่าสุด ทางทนายเจมส์ ได้ออกมาเผยแล้วว่า จบมหากาพย์ 14 ล้าน คู่กรณียอมถอนฟ้องโดยดี คืนอิสระให้น้องสไปร์ท นักร้องยอดกตัญญู ครอบครัวขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ขอตัดกรรมกันแต่เพียงชาตินี้ คดีนี้ ฝ่ายสไปรท์ใช้ทนายเจมส์ 1 คน ส่วนอีกฝ่ายจ้างทนายอาวุโสมา 3 คน เสียดายคดีจบก่อน อดใช้ศิลปะการว่าความเลย อุตส่าห์ลับฝีปากไว้รอครับ

ขอบคุณผู้จัดใจดีนะครับ ที่ติดต่อเข้ามาขออนุญาตใช้ประวัติชีวิตของน้อง เพื่อนำไปทำละคร รอคิวน้องว่างก่อน

ขอบคุณพี่พจน์ อานนท์ ที่ให้โอกาสน้องสไปรท์ ได้ร้องเพลงร่วมเล่นภาพยนตร์นะครับ

ขอบคุณ HYPE TRAIN (ไฮป์เทรน) ที่ให้โอกาสและยืนเคียงข้างน้องสไปร์ทมาโดยตลอด โดยไม่มีพันธะสัญญาใดๆ ต่อกัน มีแค่สัญญาใจเท่านั้น

สุดท้าย กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ทนายลูกสอง น้องสไปร์ท และครอบครัวนะครับ

หวังว่า เรื่องราวของน้องสไปร์ท จะเป็นตัวอย่างให้กับศิลปินนักร้อง นักแสดง ที่อยากเข้าวงการ รวมถึง ผู้ปกครองหลายหลายคน ก่อนจะลงหน้าในสัญญา ควรอ่านให้รอบคอบ ตรวจสอบคู่สัญญาให้ดีว่า มีประสบการณ์ที่จะปั้นลูกหลานของเราจริงหรือไม่ พวกแอบอ้างมีเยอะครับ ระวังกันหน่อย

ปัจจุบันนี้มีบุคคลที่หลอกให้เซ็นสัญญาศิลปิน และเรียกร้องเงิน เพื่อเป็นค่าฉีกสัญญาเป็นจำนวนมากครับ

เรียบเรียง news.in.th

Popular Posts

My Favorites

คุณแม่น้อยใจ! “ยุ้ย จีรนันท์” แซว “น้องพราวตะวัน” ลั่น ไม่ต้องเอาพ่อมาหมดก็ได้.

0
คุณแม่น้อยใจ! “ยุ้ย จีรนันท์” แซว ลูกสาวตัวน้อย “น้องพราวตะวัน” โชว์รอยยิ้มสุดกรุ้มกริ่ม ถอดแบบคุณพ่อ “ธันน์ ธนากร” มาเป๊ะ ลั่น ไม่ต้องเอาพ่อมาหมดก็ได้ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 อยู่ในวัยที่กำลังน่ารักน่าฟัดสุด สำหรับ น้องตะวัน พราวตะวัน ลูกสาวหัวเเก้วหัวเเหวนของ คุณพ่อ ธันน์ ธนากร...