Home Blog Page 212

แม่หัวเสีย ลูกสาวทำพาสปอร์ตไม่ผ่าน เพราะชื่อซ้ำตัวละครในซีรีส์ดัง 'Game Of Thrones'

ทริปล่ม แม่หัวเสีย ลูกสาว 6 ขวบทำพาสปอร์ตไม่ผ่าน จนท.แจง เพราะชื่อดันไปซ้ำตัวละคร ในซีรีส์ดัง ‘Game Of Thrones’

เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า คุณแม่ชาวอังกฤษท่านหนึ่งระบายอย่างหัวเสีย หลังลูกสาววัย 6 ขวบ ทำพาสปอร์ตไม่ผ่าน โดยเจ้าหน้าที่แจงว่า เป็นเพราะชื่อของลูกเธอไปซ้ำกับ ตัวละคร ‘คาลิซี’ ในซีรีส์ดังอย่าง Game of Thrones ซึ่งเป็นเรื่องเครื่องหมายการค้า ต้องมีหนังสือรับรอง ทริปที่รอคอยต้องล่ม

ตามรายงานเผยว่า คุณแม่รายนี้ชื่อ นางลูซี อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ในเมืองวิลต์เชอร์ ประเทศอังกฤษ วางแผนจะพาลูกสาววัย 6 ขวบไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ แต่ก่อนจะเดินทางเธอต้องยื่นเรื่องทำพาสปอร์ตให้ลูก

ภายหลังเธอได้รับจดหมายจากเจ้าหน้าที่สำนักงานหนังสือเดินทาง แจ้งกับเธอว่า เธอต้องได้รับการอนุมัติ และต้องมีหนังสือรับรองจากค่าย วอร์เนอร์บราเธอร์ส เนื่องจากพวกเขาเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของชื่อ ‘คาลิซี’ ชื่อของตัวละครในซีรีส์ดัง ซึ่งมันเป็นชื่อเดียวกับลูกสาวเธอ ให้สามารถใช้ชื่อนี้ได้

ขณะที่ ทางคุณแม่ต้องประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เธอจึงไปขอคำปรึกษากับสำนักกฎหมาย เพราะเธอคิดว่า ถ้าเธอสามารถขอใบสูติบัตรได้ ก็คงไม่มีอะไรถูกแจ้งขึ้นมาใช่ไหม

โดยทางทนายความ ได้กล่าวว่า เครื่องหมายการค้าในซีรีส์ Game of Thrones นั้นครอบคลุมเฉพาะสินค้า และบริการประเภทต่างๆ แต่ไม่รวมชื่อบุคคลในตัวละครแต่อย่างใด

จากนั้นคุณแม่ได้ส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักงานหนังสือเดินทาง ซึ่งอีกฝ่ายได้ขออภัยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรีบดำเนินการเรื่องพาสปอร์ตของลูกสาวเธอโดยเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม นางลูซี คิดว่าที่เรื่องดังกล่าวสามารถได้รับการแก้ไข และคลี่คลายได้นั้น ก็เพราะเธอโพสต์เรื่องนี้ลงโซเชียลมีเดียเสียมากกว่า เธอยังเสริมอีกว่า ไม่ใช่มีแค่กรณีเธอคนเดียว ยังมีอีกหลายคนติดต่อมาว่าพวกเขาก็เคยเจอปัญหาเดียวกับเธอเช่นกัน

ทั้งนี้ เธอหวังว่า กรณีของเธอจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นที่เจอในลักษณะคล้ายกันได้ พวกเขาจะได้รู้แล้วว่าปัญหาของพวกเขานั้นสามารถที่จะแก้ไขได้ ซึ่งตอนนี้เธอแค่รอพาสปอร์ตของลูกสาวเธอมาก่อน เธอจะได้จองทริปไปเที่ยวดิสนีย์ที่ฝรั่งเศสอีกรอบ

เพื่อนไรเดอร์ติดใจ ปมหนุ่มมาสด้า หยิบไม้กอล์ฟลงรถ กลัวไฟไหม้ หลังชนยับ5คัน

จากกรณี นายภูษณ อายุประมาณ 30 ปี ขับรถยนต์มาสด้าสีแดง แซงไม่พ้นแล้วเผลอเหยียบคันเร่งเป็นเบรก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรวด 5 คัน และนายวันดี อาชีพไรเดอร์ บาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าฉีกขาด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดได้เยียวยาแล้ว 4 คัน

ต่อมาวันที่ 5 ส.ค. 67 นายบุญเกิน เสน่หา อายุ 41 ปี เพื่อนรุ่นน้องของนายวันดี ไรเดอร์ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเป็นคนช่วยพาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แล้วพาครอบครัวของผู้บาดเจ็บไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ

จากคำให้การของผู้ก่อเหตุที่ตนได้พูดคุยด้วยนั้นอ้างว่า พยายามแซงขวาแต่มีรถสวนมา เลยพยายามเบี่ยงกลับและเหยียบเบรกแต่ดันเผลอไปเหยียบคันเร่งเลยเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

อีกทั้งประเด็นเรื่องไม้กอล์ฟนั้น ตนได้ความว่าผู้ก่อเหตุกังวลว่ารถจะระเบิด จึงคว้าไม้กอล์ฟและของบางอย่างซึ่งอ้างว่าเป็นทรัพย์สินของมีค่าออกมาจากรถ แล้วถือเอาไว้ในลักษณะปกติ ไม่ได้ถือเพื่อหาเรื่องคนบริเวณนั้นแต่อย่างไร

ส่วนตัวเชื่อคำให้การของผู้ก่อเหตุเพียงแค่ครึ่ง ๆ เพราะมองว่าโดยวิสัยของคนทั่วไปซอยดังกล่าวนั้น ไม่ควรจะใช้ความเร็วสูงในการขับรถ เพราะซอยนี้รถค่อนข้างติด ต่อให้รถโล่งแค่ไหนก็ตามก็ไม่ควรจะขับออกไปด้วยความเร็ว

ตนขับรถในซอยนี้มาหลายปี ก็รู้ดีว่าไม่ควรใช้ความเร็วกับซอยนี้เลย อีกทั้งประเด็นเรื่องของไม้กอล์ฟนั้น ตนมองว่าไม่เหมาะสม ในสถานการณ์ดังกล่าวควรจะเอาตัวรอดมากกว่ามาห่วงทรัพย์สิน

ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ขวัญกำลังใจของเพื่อนไรเดอร์นั้นเสีย โดยเฉพาะลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการพุ่งชนข้างหลัง เลยไม่รู้จะป้องกันยังไง หากเป็นรถพุ่งชนข้างหน้ายังพอสามารถป้องกันได้บ้าง แล้วยิ่งได้รับบาดเจ็บด้วยนั้น ครอบครัวจะอยู่อย่างไร

โดยเฉพาะครอบครัวของไรเดอร์ผู้บาดเจ็บรายนี้ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ก็จะให้ความช่วยเหลือของนายวันดีอย่างเต็มที่

ด้าน นายพรเทพ ชัชวาลอมรกุล นายกสมาคมไรเดอร์ไทย เปิดเผยว่า ส่วนของการช่วยเหลือ ทางสมาคมของไรเดอร์ได้เข้ามาช่วยดูแลเยียวยาด้วย ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยตกลงกัน รวมถึงเรื่องของรถที่พังเสียหายจะมีการสอบถามพูดคุยเพิ่มเติมด้วย

‘ถา สถาพร’ อยู่แบบเรียบง่ายในวัย 57 ยังหล่อดูดีมีเค้าอดีตพระเอกดัง

เปิดชีวิตนักแสดง ผู้กำกับละคร และผู้จัดรุ่นใหญ่มากความสามารถ “ถา สถาพร นาควิไลโรจน์” ที่ออกมาเผยเรื่องราวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนกับเส้นทางความรักร่วม 30 ปี ของภรรยาสาวสวยดีกรีนางงามที่จุดเริ่มต้นหนีตามกันมา! พร้อมเล่าวิกฤติชีวิตครั้งใหญ่ถึงขั้น ต้องขายบ้าน ขายรถ ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ หนิง ปณิตา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร ตอนนี้พี่ถาทำอะไรอยู่บ้าง ?

ถา : ตอนนี้พี่ดูละครอยู่เรื่องเดียว ส่วนเบื้องหน้ากลับมารับเมื่อปีที่แล้ว

ลึก ๆ แล้วชอบเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังมากกว่ากัน ?

ถา : มันคนละอย่างกัน ถ้าเลือกได้ก็เลือกทั้งสองอย่างเลย เราเกิดจากเบื้องหน้าก็จริง แต่ด้วยช่วงวัยงานเบื้องหลังมันคลาสสิก

เบื้องหน้ากับเบื้องหลังเงินเท่ากันมั้ย ?

ถา : โอ้โห ต่างกันฟ้ากับเหว เบื้องหน้าได้เงินเยอะกว่า

มาคุยเรื่องความรักบ้าง พี่ถาแต่งงานคบกับคุณนกมา 30 ปี แล้ว ?

ถา : เกิน 31 ปีแล้ว

สมัยก่อนความรักเปิดเผยไม่ค่อยได้ ?

ถา : ช่วงนั้นก็เปิดเผยพอได้ มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เราก็ไม่ค่อยชอบเก็บอะไรอยู่แล้ว เพราะความรักเป็นเรื่องสวยงาม

แต่จะมีผลต่อความนิยมมั้ย ?

ถา : อย่างที่บอกว่าช่วงนั้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นช่วงที่เราผ่านช่วงพีคมาซักระยะนึงแล้ว แล้วตัวตนของเราไม่ใช่จะมาเหนียม

เห็นว่าไปเจอกับคุณนกในที่อโคจร ที่ผับหรอ?

ถา : ก็สถานที่กินข้าว ร้านอาหารกึ่งผับ บังเอิญเขาเป็นเพื่อนของเพื่อน แล้วก็แนะนำกันก็รู้สึกถูกตาต้องใจ

แล้วเขารู้สึกถูกใจมั้ย ให้เบอร์เลยมั้ย ?

ถา : เขาก็ถูกใจสิ เราแอบมีเบอร์เขาอยู่แล้ว จากเพื่อนของเขา แต่ไม่ได้โทร.ไป เพราะพี่เป็นคนเขินไม่กล้า แล้วพี่จีบเขายังไง ?

ถา : ใช้มองตาแล้วก็สื่อกัน พี่รวบรวมความกล้าอยู่ 2 วันถึงจะโทร.หาเขา เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออก

เกี่ยวมั้ยที่ตอนนั้นพี่เป็นพระเอกดังมากแล้วต้องไปจีบสาวนอกวงการบันเทิงมันเลยทำให้เขาอาจจะคิดว่าเราเจ้าชู้ ?

ถา : มันก็สองแง่ สามง่ามนะ เพราะเบื้องต้นเราก็เป็นคนขี้อายอยู่แล้วกับเรื่องแบบนี้

ภรรยาพี่ถามีดีกรีถึงขั้นนางงามเลย ดีกรีสูงขนาดนี้ ใช่สเปกเรามั้ย ?

ถา : สเปกมั้ย ก็ต้องบอกว่าสเปก คนเราทุกคนมันมีนางในฝันอยู่แล้ว เราเชื่อว่าทุกคนไม่ได้ครบหรอก 100% อยู่ที่ว่าเราแฮปปี้แค่ไหน

คบกันได้ไม่นานหนีตามกันเลย ?

ถา : มันเป็นการพูดคุยกันในเมื่อเราจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน มันก็ต้องมีกระบวนการ แต่ทั้งฝ่ายผมและภรรยาไม่ได้ติดที่จะมีพิธีรีตองอะไร เรียกว่าพาหนี แต่พาหนีในความหมายของผมคือบอกกล่าวทั้งฝ่ายเขาและฝ่ายผมก็จะรู้แต่ว่าจะไม่ได้มีพิธี คือ ณ เวลานั้นต่างคนต่างคิดว่ามันมีเยอะที่แต่งแล้วก็ต้องเลิกรากันไป อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะ ไม่ได้บอกว่าความคิดนี้ คนนั้นคนนี้จะต้องมาคิดแบบนี้ เขาก็จะบอกว่าอย่าเลย เพราะถ้าเราไปไม่ถึงไหนเราก็จะอายเขา เพราะถ้ามีพิธีรีตองขึ้นมาก็จะเป็นข่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้

ในแง่สังคมช่วงนั้นมันมีประเด็นมั้ยกับการที่เราไม่ได้จัดอะไรให้เขาเห็นในภาพของสังคมที่ชัดเจน ?

ถา : ผมว่าการใช้ชีวิตคู่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพิธี ผมว่ามันขึ้นอยู่กับคนสองคน แล้ววันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผมอยู่กันมา 30 ปีเศษ มีลูก 2 คน แล้วชีวิตครอบครัวก็ราบรื่น มันอาจจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างตามประสา แต่สุดท้ายก็เคลียร์กันได้แล้วก็รักษาทุกอย่างมาได้ 30 กว่าปี

แล้วเรื่องความเข้าใจระหว่างคนที่อยู่นอกวงการกับคนที่อยู่ในวงการ เวลาเขาพระเข้านางเลิฟซีน ภรรยามีหึงหวงมั้ย ?

ถา : เขาพยายามเลี่ยงที่จะไม่ดู ถ้าดูก็พอมีบ้าง แต่เขาไม่ค่อยดูละครที่ผมเล่น

เห็นว่าคบกันได้ปีกว่าๆตัดสินใจมีลูกเลย ?

ถา : ตอนนั้นใกล้จะ 30 วันนึงก็ปรึกษากันว่ามีลูกกันมั้ย เขาก็บอกได้ซิ มันไม่มีอะไรยุ่งยากเลยในเมื่อมันมั่นใจกันแล้ว พอบอกว่ามีก็ปล่อย ก็ระยะซัก 2 ปีถึงจะติด คนแรกลูกสาวแล้วก็เว้นมาจน8 ปี มีลูกชายอีกคน เมื่อกี๊ข้ามไปนิดนึง เรื่องพิธีหลังจากนั้นซักระยะนึงเราก็มีไปวัดชนะสงครามไปทำบุญให้เป็นสิริมงคลทำกันในครอบครัว

พอมีลูกทำไมติสต์แตกเลิกทำงานเบื้องหน้าโดดมาทำงานเบื้องหลังเลย ?

ถา : คือเป็นคนอยากเรียนรู้ ใช้ว่าติสต์แตกมันอาจจะไม่ได้เป๊ะเสมอไป จริง ๆ แล้วเราเป็นคนตัวคนเดียวมาจากต่างจังหวัด ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ค่อยมีสังคม เราก็คิดต่อว่าแล้วต่อไปจะทำอะไรกิน ในเมื่อเรามาทางนี้แล้วสิ่งที่จะทำให้เราพัฒนาตัวเองมันคืออะไร งานเบื้องหน้าคงอยู่ได้ซักระยะนึง คลื่นลูกใหม่ก็มาเรื่อยๆ เราเป็นพระเอก วันนึงเราเป็นตัวประกบ เป็นตัวร้าย เป็นพ่อ เราจะเป็นพ่อจนแก่หรอ มันคงไม่ใช่ เราก็คิดว่าชีวิตควรจะพัฒนาต่อไปในเส้นทางสายนี้ บังเอิญจังหวะชีวิตมันถูกกำหนด เราก็มีโอกาสได้มาเรียนรู้ แต่มันก็ต่างกันมากฟ้ากับเหว

มันต่างกันยังไง ?

ถา : เป็นนักแสดงงานสบายรับผิดชอบแค่ตัวเอง คนอื่นไม่เกี่ยว เช้าท่องบทมาทำการบ้าน เลิกเสร็จกลับ แต่งานเบื้องหลังถึงแม้ว่ายังไม่ใช่ผู้จัดเป็นผู้ช่วย ทำสคริปต์ ตัดต่อ โปรดิวซ์ ขอบข่ายการดูแลมันเยอะ

รายได้น้อยกว่าเยอะมาก เงินน้อยสุดติดตัวเท่าไหร่ ?

ถา : ประมาณ 500-600

ช่วงนั้นมีครอบครัวแล้วด้วย ?

ถา : ช่วงก้ำกึ่งกำลังจีบ ๆ กัน ตอนนั้นชีวิตก็ไม่ได้สบาย ออกมาทำเบื้องหลังได้ซักระยะนึง แต่มันก็ค่อยๆพัฒนาขึ้น เรามีความมุ่งมั่น

ก่อนหน้าที่จะกระโดดไปเบื้องหลัง ช่วงที่เป็นพระเอกรายรับก็เยอะแล้วเงินหายไปไหนหมด ?

ถา : ส่วนนึงส่งที่บ้าน

ตอนจีบคุณนกอยู่ด้วย ตอนที่พี่ทำเบื้องหลัง เงินมันพอมั้ยเวลาพาเขาไปเที่ยว ไปออกเดท ?

ถา : เราอยู่อย่างเจียมตัวมาก เขาก็มีฐานะอยู่ มันก็ไม่ได้จะเป็นลักษณะที่ใครจะเปย์ฝ่ายเดียว เขาก็เปย์เราก็เปย์ก็แล้วแต่

สิ่งที่ทำให้พี่ประสบความสำเร็จในฐานะคนทำงานเบื้องหลัง ตอนนั้นพี่ทำรายการวัยรุ่น 4+1 ?

ถา : 4+1 ถึงจะเท่ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ เต๋า สมชาย ใส่กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาที่ไฟว์สตาร์ ตอนนั้นยังไม่ได้ออกอัลบั้ม มีพี่เอ็ม สุรศักดิ์ เป็นพี่ใหญ่ มีเต๋า มีปราโมทย์ แสงศร เป็นรายการวัยรุ่นช่วงแรกๆของประเทศ เป็นรายการของบริษัทไฟว์สตาร์ เราเป็นทีมงาน เป็นโปรดิวซ์ ทำสคริปต์ กำกับละครสั้น

แต่สำเร็จอยู่ได้พักนึง มาถึงช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ?

ถา : ใช่ ปี 40 ก็สาหัสอยู่พอสมควร เราไม่คิด มันเป็นสถานการณ์ที่ฉุกเฉินมาก ก็ต้องเอาตัวรอด วาดฝันไว้ผ่อนดาวน์บ้านสร้างอนาคตด้วยกัน ลงไปสมัยนั้นเงินล้านนึงก็เยอะนะ จำต้องปล่อยไป ก็บอกเซลล์ว่าช่วยขายหน่อย 50% ก็ได้

แสดงว่าเราดาวน์ไว้ เตรียมจะซื้อ แล้วจำเป็นต้องทิ้งไป ?

ถา : ใช่ ก็ผ่อนดาวน์ไปเดือนละแสน สิบเดือนก็ล้านนึงแล้ว แต่ไม่มีปัญญาไปโอนด้วยสถานการณ์แบบนั้น เราไม่รู้ชีวิตจะเดินยังไงได้ วันนึงเราก็ต้อง บ้านปล่อยไป ขายไม่ได้ รถปล่อยไป

ตอนที่ถึงจุดลำบากสุดของชีวิตพี่วิ่งไปหาใคร ?

ถา : พี่เปี๊ยก (พิศาล อัครเศรณี) คืออย่างที่บอกว่าเราเป็นคนไม่มีสังคม เราทำงานเสร็จกลับบ้าน เรามีความรู้สึกว่าเราอาย เราเขิน ที่จะไปของานทำในชั่วโมงที่เราไม่มี แต่พอถึงตาจนก็นึกถึงผู้จัดผู้ชาย ก็โทร.หาพี่เปี๊ยก เพราะพี่เปี๊ยกเคยกำกับเราตอนเล่นป่ากามเทพ ก็โทรไปบอกว่าแย่จริง ๆ พอจะช่วยอะไรได้บ้าง เขาก็บอกว่ามาเล่นละครพี่ซิ กำลังจะเปิดใหม่เลย ก็เป็นจุดเปลี่ยนอีกอันหลังจากวิกฤติฟองสบู่เหมือนชีวิตก็พลิกมาด้วยพี่เปี๊ยก ช่วงนั้นก็อยู่กับแกมา 4-6 ปี ก็ทำละคร เล่นด้วย บางอย่างไม่ได้ตังค์ก็เอา เราชอบเรียนรู้ ครูพักลักจำ

ตอนพี่เปี๊ยกบอกว่าจะเปิดละครเรื่องใหม่ ตอนนนั้นพี่เข้ามาทำเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ?

ถา : เบื้องหน้า สั่นเลย เพราะทิ้งไป 5 ปี กลับมาเล่นอีกที ด้วยความเป็นพิศาลด้วย ความน่ายำเกรงยังมี ซีนแรกเริ่มพูดคำแรกปากสั่น เรื่องนั้นกลับไปแสดง หลังจากเรื่องนั้นพี่เปี๊ยกก็ชวนไปทำเบื้องหลัง

พี่ถาอยากจะบอกอะไรกับคุณอามั้ย ถ้าวันนี้อามองเราอยู่ ?

ถา : ไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะว่าพี่เปี๊ยกรู้ว่าพี่รู้สึกยังไง มันต้องเป็นคำนี้ “มีวันนี้เพราะพี่ให้”

พี่ถาบอกว่านางเอกที่ประทับใจคือ แต้ว ณฐพร คือบอกว่าเป็นนางเอกที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ?

ถา : ในช่วงเวลานั้น เราไม่เคยเห็นใครที่เดินมาหน้าเซ็ตแล้วไม่ได้ถือบทมา แต่ในเรื่องนั้นในเวียงร้อยดาวตั้งแต่ซีนแรกจนซีนสุดท้ายเราไม่เคยเห็นแต้วถือบท ในห้วงเวลานั้นที่เราทำงานมานั่นคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น

นอกจากแต้วแล้วยังมี พิ้งค์กี้แล้วก็นุ่น 2 คนนี้พิเศษยังไง ?

ถา : เขาเหมือนไม่มีอะไร จะชิล ๆ พอถึงเวลาเป็นตัวละครได้ในบัดดล หน้าเซ็ตคุย ๆ พอพร้อมก็มาเลย ทั้ง 2 คนเลย

ถ้าเราจะต้องทำงานกับคนที่ไม่มีวินัย ไม่มืออาชีพ เราจะมีวิธีที่จะพูดคุยกับน้องเหล่านี้ให้เขากลับมาทำงานได้ ?

ถา : เราไม่ใช่เจ้าชีวิตใคร เราพูดครั้งแรก ครั้งสอง เราพอแล้วถ้ามันไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรากลับมาที่ตัวเราดีกว่ายอมรับในสิ่งที่เขาเป็น

เฉียดตายกลางกองถ่ายบ่อยครั้งด้วย เกิดอะไรขึ้น ?

ถา : พี่เป็นคนว่ายน้ำไม่เป็น เพราะสมัยเด็ก ๆ แม่ไม่ให้ลงน้ำเกินตาตุ่ม พอโตขึ้นก็ไม่มีความพยายามหรือเปล่า พอมาละครพี่เปี๊ยกป่ากามเทพ เป็นฉากที่พระเอกต้องพานางเอกพี่ตั๊กป่วยแล้วต้องไปตามหมอข้ามแม่น้ำ ถ่ายที่อยุธยาตอนกลางคืน แล้วเราทำงานเรื่องแรกเราก็กลัวพี่เปี๊ยก เกร็ง ด้วยความที่พี่เปี๊ยกเป็นผู้กำกับที่มีชื่อว่าดุ

เราก็ไม่กล้าบอก กลางคืนก็มือมากอยู่ในเรือจับไปปล่อยอยู่กลางแม่น้ำป่าสัก เราก็ฝึกพายเรือเย็นนั้นกลางคืนถ่าย คิดว่าทำไมชีวิตต้องมาแขวนอยู่บนเส้นด้ายขนาดนี้ คือใจไปถึงฝั่งแล้วแต่กายอยู่กลางแม่น้ำ แต่ก็ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไร

ส่องชีวิตล่าสุด อดีตนางร้ายช่อง 7 ลาวงการ ย้ายไปอยู่อเมริกากับสามี

ขอแสดงความยินดีกับ อดีตนางเอกชื่อดัง กี้ ภคมน ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นคุณแม่ลูก 4 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีชาวต่างชาติที่ประเทศอเมริกามานานหลายปี

ล่าสุด กี้ ภคมน ก็ได้อัปเดตเรื่องราวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเธอเพิ่งจะคลอดลูกโดยมีสามีอยู่ดูแลเคียงข้างไม่ห่าง “New family addition. Gave @antbaum6 his little mini me. Riley Sierra Baumgart 8 lbs 5 oz.”

งานนี้เพื่อนพ้องในวงการบันเทิง รวมไปถึงแฟนคลับ ต่างเข้ามาร่วมคอมเมนต์แสดงความยินดีกับ กี้ ภคมน กันยกใหญ่ อีกทั้งยังชมเป็นเสียงเดียวกันด้วยว่า หนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ช่างน่ารักน่าฟัดสุด ๆ เลยจ้า

ลูกแซวพ่อ นั่งดูโอลิมปิกทั้งวัน เคยไปแข่งไหม? ที่แท้คือตำนานเหรียญเงินแรกของไทย

ลูกสาวแซวพ่อ นั่งดูโอลิมปิกทั้งวัน เคยไปแข่งกับเขาบ้างไหม พีกที่แท้คือตำนานเหรียญเงินแรกของไทย เจ้าตัวเฉลยเอง ตอนนั้นได้เงินรางวัลเท่าไหร่?

กลายเป็นคลิปไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้ TikTok บัญชี namwancutie ได้ลงคลิปบรรยากาศน่ารัก ๆ ในบ้าน เมื่อคุณพ่อนอนโซฟาสุดชิล เฝ้าหน้าจอดูการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนต้องเข้าไปแซวว่า “ดูจัง โอลิมปิก เคยไปกับเขาบ้างหรือเปล่าเนี่ย”

ปรากฏว่า คุณพ่อตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า “เคย” โดยเธอนั้นระบุแคปชั่นว่า “ใครทันไม่เด็ก ส่วนหนูยังไม่เกิด” พร้อมติดแฮชแท็กว่า #ขาวผ่องสิทธิชูชัย #น้ำหวานลูกพ่อผ่อง

ซึ่งชาวเน็ตบางคนก็เซอร์ไพรส์ เนื่องจากคุณพ่อของสาวในคลิป ที่แท้คือ ทวี อัมพรมหา หรือ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นของไทย ตำนานคว้าเหรียญเงินแรกในโอลิมปิก 1984 ที่สหรัฐฯ หรือเมื่อ 40 ปีก่อน ซึ่งหลังจากเลิกชกไป ก็ยังเคยมาโลดแล่นในวงการบันเทิง

ขณะที่คลิปที่ลูกสาวรีวิวเหรียญเงินโอลิมปิกของคุณพ่อ ทาง ขาวผ่อง สิทธิชูชัย ยังเข้ามาตอบคอมเมนต์ชาวเน็ตที่ถามว่า “เงินรางวัลตอนนั้นได้ประมาณเท่าไหร่” โดยระบุว่า จากภาครัฐไม่ได้สักบาท แต่ได้จากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เดือนละ 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 20 ปี

เบลล่า เล่านาทีแรกพบหน้า วิล ชวิณ เผยประโยคเด็ดที่นักธุรกิจหมื่นล้านพูดด้วย

ไลฟ์สดแบบหมดเปลือก สำหรับนางเอกดัง “เบลล่า ราณี” กับหวานใจ “วิล ชวิณ” ในหัวข้อ “ล้วงความลับน้องเบล”ซึ่งเจ้าตัวเผยแบบไม่มีกั๊ก กลางโต๊ะอาหาร เปิดนาทีแรกพบ ดั่งพรหมลิขิต

“เบลล่า” เผยเรื่องเจอ “วิล ชวิณ” ที่นั่งเฟิร์สคลาส ไม่จริง แค่ ชั้นธุรกิจ ตอนแรกหมอดูทักจะเจอความรักปีนี้ ขำๆ ไม่น่าจะมีความหวังแต่ทริปนั้นได้นั่งข้างกัน ได้คุยกันเพราะเครื่องดีเลย์ แล้วเราก็พรางตัว เพราะเขินไม่ได้แต่งหน้า แต่งตัว

ประโยคแรกที่ “วิล ชวิณ” คุยกับเรา เครื่องดีเลย์ หรือเปล่า? เราก็ตอบรูทจากไทยมาที่นี่ ก็ไม่ได้เรทมากนะ เขาก็ตกใจอ้าวคนไทยหรอ ผมก็คนไทยเหมือนกันครับ เผยเขาเป็นคนชวนคุยเก่ง ถามว่ามาประเทศนี้ (เกาหลี) มีที่ไหนให้เที่ยว เราเป็นผู้หญิง ก็คาเฟ่-ช้อปปิ้ง

คุยสักพัก เขาก็ถาม เราทำอาชีพอะไรหรอ ย้ำว่าเขาไม่รู้จักเราจริงๆ เราก็ไม่อยากบอก คือ ไม่รู้ก็ดีแล้ว พอเครื่องแลนด์ เราก็ต้องเดินไปที่สายพานพร้อมกัน ซึ่งตอนนั้นเราไปคนเดียว ซึ่งเบลไม่เคยบินคนเดียวพร้อมพูดกับ “วิล” เธอสังเกตอะไรไหม แล้วเราก็ชี้ไปที่ป้ายโฆษณาเรา แล้วเขาก็อุ้ย

ดีเจนุ้ยถามดาราคนสุดท้ายที่เขารู้จักคือใคร?

เบลล่าบอก เขาก็บอกพี่ลี “นาตาลี เจียรวนนท์” เพราะเป็นญาติกัน

ซี ศิวัฒน์ เนรมิตสวนหลังบ้านหรู ปลูกผักสวนครัวไว้เก็บกินเอง

กว่าจะเข้าไปอยู่บ้านหรูหลังใหญ่ได้ 2 สามีภรรยา ซี ศิวัฒน์ และ เอมี่ กลิ่นประทุม ก็ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเนรมิตบ้านให้สวยถูกใจคนอยู่ได้ และล่าสุด ทั้งคู่ก็ขออวดแปลงปลูกผักสวนครัว ที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านหรูของตัวเองให้แฟนๆ ได้ดูกัน

โดยหนุ่มซีและสาวเอมี่ได้พาชมความงามของพืชผักอนามัยที่ทั้งคู่ตั้งใจปลูกเอาไว้เก็บทานที่สวนหลังบ้านของตัวเอง ซึ่งผักสวนครัวที่ทั้งคู่ปลูกมีทั้ง พริก โหระพา ใบมะกรูด มะนาว ตะไคร้ มะเขือ และอีกหลายๆ อย่าง และหนุ่มซียังวางแผนว่าจะปลูกพักเผิ่มโดยใช้พื้นที่บนกำแพงที่ยังว่างปลูกผักอีกด้วย

'วิว กุลวุฒิ' ชวนคนไทยเชียร์นัดชิงเหรียญทอง ลั่นวันนี้ขอสู้สุดใจ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มือวางอันดับที่ 8 ของโลก ประเภทชายเดี่ยว ก่อนชิงเหรียญทอง แบดมินตันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีสคืนนี้ เวลา 20.40 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

โดยจะพบกับ วิกเตอร์ แอ็กเซลเซน มือ 2 ของโลกชาวเดนมาร์ก และเป็นแชมป์เก่าในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา

ล่าสุด วิว โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ฝากข้อความถึงชาวไทยก่อนลงแข่งขันนัดสำคัญดังนี้

“วันนี้! 20.40 น. ไม่ดูแมตซ์นี้ รออีกที 4 ปี นะครับ”

“ถ้าคนเชียร์ เชียร์มาถึงรอบชิงฯแล้วยังไม่ท้อ แล้วคนตีจะทิ้งได้ยังไง วันนี้สู้สุดใจครับ”

“Bonjour! Finale”

กำลังใจจากทุกคนไม่ต้องขึ้นเครื่อง แต่คอมเมนต์ตรงนี้ถีงปารีสแน่นอนครับ”

งัดคลิปโต้ ผอ.เขื่อนขุนด่านปราการชล แจ้งประตูระบายน้ำพัง เผยไม่กี่นาทีน้ำท่วมถึงอก

จากสถานการณ์เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1-5 ส.ค. ในระดับคงที่ แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมาท้ายเขื่อน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ต่อมา นายจักราวุธ สุทธรวิภาต ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาขุนด่านปราการชล ยืนยันประตูน้ำและเขื่อนไม่พัง ส่วนสาเหตุน้ำท่วมมาจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหล 220 ล้านลูกบาศ์กเมตร ลงแม่น้ำนครนายก ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 5 ส.ค.67 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นผู้ประกอบการในพื้นที่ โพสต์คลิปช่วงกลางดึกระบุว่า รับแจ้งจาก ผอ.เขื่อนขุนด่านปราการชล ว่าประตูระบายน้ำพัง ปิดน้ำไม่ได้ ทำให้น้ำออกมาเยอะ และไปท่วมพื้นที่ด้านล่าง ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาเพราะอะไร เพราะอะไรถึงปิดประตูเขื่อนไม่ได้ หากชาวบ้านตาย ใครจะรับผิดชอบ ขอฝาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดูแลด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนและข้าราชการไม่ดูแลเลย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนลุงเล็ก หนึ่งในสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ได้รับความเสียหาย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหลับนอนตอนกลางคืนต้องรีบเก็บของหนีน้ำ

เจ้าของสวนลุงเล็ก เปิดเผยว่า น้ำป่าไหลเข้าท่วมตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม สูงประมาณ 10 ซ.ม. แต่ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำก็ยุบ จากนั้นตนและพนักงานช่วยกันทำความสะอาดพื้นจนเสร็จเรียบร้อย เตรียมกลับบ้านตอนประมาณตี 2 ตอนนั้นเห็นความผิดปกติ น้ำไหลมารอบ 2 จึงเอะใจว่ามาได้อย่างไร และมาด้วยความเร็ว ไต่ระดับความสูงมาถึงระดับหน้าอก ภายในไม่กี่นาที สูงถึง 1-1.5 เมตร โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงจนหมด

เจ้าของสวน กล่าวอีกว่า คิดว่าน้ำมาจากเขื่อนขุนด่านปราการชล สาเหตุที่เชื่อ เพราะหากเป็นน้ำธรรมชาติที่มาจากแหล่งน้ำตกนางรอง คงมาและลดไปแล้วตั้งแต่รอบแรก แต่จากประสบการณ์ที่อยู่พื้นที่มาทั้งชีวิต น้ำป่าจะมาเพียงแค่รอบเดียว และจะไม่มาซ้ำในเวลาเดียวกัน

พ่อญี่ปุ่นร้อง ตร.คลองตัน ลูกชายหนีประกันชั้นศาล หายตัวปริศนา หลังโอนเงินให้ 1ล้านเยน

วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาย อายุ 66 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน หลังจากที่ลูกชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 39 ปี หายตัวไปหลังจากโอนเงินให้ 1 ล้านเยน

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้แจ้วแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชาย คือ MR.TAKAHIRO NISHI อายุ 39 ปี สัญชาติ ญี่ปุ่นเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทยหลังจากนั้นเมื่อวันที่29 มิ.ย.63 ผู้แจ้ง ได้ติดต่อกับลูกชายทางไลน์เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากจากนั้นผู้แจ้งไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้อีก

ผู้แจ้งจึงติดต่อมายังสถานทูตญี่ปุ่นโดยได้รับแจ้งจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ว่าMR.TAKAHIRO NISHI ได้ถูกจับกุมตามหมายจับตามคดีอาญาเลขที่ 797/2563 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ส่งดำเนินคดีที่ศาลแขวงพระนครใต้ ต่อมาลูกชายของผู้แจ้งได้หนีประกันในชั้นชั้นศาลและได้มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.321/2565

พ่อญี่ปุ่นร้อง ตร.คลองตัน ลูกชายหนีประกันชั้นศาล หายตัวปริศนา หลังโอนเงินให้ 1ล้านเยน

พ่อญี่ปุ่นร้อง ตร.คลองตัน ลูกชายหนีประกันชั้นศาล หายตัวปริศนา หลังโอนเงินให้ 1ล้านเยน

จากนั้นวันที่ 9 มิ.ย.2566 ผู้แจ้งได้รับข้อความทางอีเมลแจ้งว่าลูกชายมีอาการป่วยหนักต้องใช้เงิน ผู้แจ้งจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารญี่ปุ่น จำนวน 1ล้านเยน หลังจากนั้นวันที่ 21 มิ.ย.2566 ได้มีอีเมลมาหาผู้แจ้งอีกบอกว่า ต้องใช้เงินอีก 300,000 เยน แต่ผู้แจ้งไม่ได้โอนเงินให้ไป จากนั้นผู้แจ้งจึงตรวจสอบกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

พบว่าบุตรชายของผู้แจ้งเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ผ่านด่านตม.หนองคาย และมีการต่อวีซ่าล่าสุดที่ตม.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 และจะสิ้นสุดการอนุญาตเมื่อปี 2565 โดยลูกชายของผู้แจ้งยังไม่ได้มีการเดินทางออกจากประเทศไทย ผู้แจ้งเกรงว่าบุตรชายจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามหาบุตรชายของผู้แจ้งต่อไป

Popular Posts

My Favorites

หนุ่มสุดเฮง ถูกรางวัลที่ 1 รับทรัพย์ 6 ล้าน

0
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2567 รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท 407041 เลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 408 579 เลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัลๆละ 4,000 บาท 622 070 เลขท้าย 2 ตัว รางวัลๆละ 2,000...