กลายเป็นกระแสร้อนแรงเลยทีเดียวสำหรับลูกรักใหม่ของทางช่อง3 สำหรับ หลิงหลิง คอง หลังเธอโพสต์ภาพในร้าน และผลิตภัณฑ์จากกาแฟแบรนด์ดัง ซึ่งเจอวิจารณ์สนั่นโยงประเด็นความรุนเเรงระหว่าง อิสราเอล – ปาเลสไตน์ ที่กำลังจับตามองจากสายตาคนทั่วโลก โดยมีการบอยคอตต์ แบรนด์ดังของสหรัฐที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกองทัพอิสราเอล

โพสต์ดังกล่าวนำไปสู่การวิจารณ์ เรื่องความละเอียดอ่อน จากประเด็นความขัดแย้ง โยงแบรนด์ที่สนับสนุน จนมีเเฟนๆหลายคนเข้าไปคอมเมนต์เตือน จนรอบแรกหลิงๆได้ลบภาพดังกล่าวทิ้งไปแต่โพสต์ใหม่ โดยใช้สติกเกอร์รูปน้องหมาแปะทับแก้วกาแฟแทน แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ เพราะชาวเน็ตมองว่าเป็นการการล้อเลียน ไม่ใส่ใจประเด็นเรื่องความอ่อนไหวที่ทั่วโลกกำลังเรียกร้องกัน ก่อนที่ภาพประเด็นร้อนจะหายไปจากหน้าอินสตาแกรมของ หลิงหลิง อีกครั้ง

ซึ่งประเด็นดราม่าดังกล่าวนั้นนอกจาก หลิงหลิงแล้ว ยังมีคนดังระดับอินเตอร์อีก2รายที่โดนดราม่าประเด็นนี้ด้วย คือ ไบร์ท วชิรวิชญ์ ที่ก่อนหน้าโพสต์ภาพกับรถถึง ที่เป็นรุ่นเดียวกับเหล่าทหารใช้รับมือความขัดแย้ง ลิซ่า ลลิษา ก็ไม่รอดเหมือนกัน ถูกขุดภาพเก่ากับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังกล่าว ถึงทั้งที่ปีที่ศิลปินสาวโพสต์นั้นไม่ใช่ยุคปัจจุบันเลย

เรียบเรียง news in thailand

อีกไม่กี่เดือน น้องมายู ลูกสาวสุดที่รักของ หนุ่ม กรรชัย และเมย์ ปทิดา ก็จะอายุครบ 10 ขวบแล้ว นับวันเริ่มโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เริ่มมีโลกส่วนตัวมากยิ่งขึ้น พ่อหนุ่มแม่เมย์ก็ฟูมฟักช่วยกันเลี้ยงดูอย่างดี ล่าสุดแม่เมย์ ได้พาลูกสาวไปพบทันตแพทย์เพื่อดูแลเรื่องของฟัน พร้อมระบุว่า …มายูวางแผนจัดฟันแล้วนะคะ นัดแรกคือถอนฟัน2ซี่ ซี่บนซี่ล่างข้างขวา ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ครั้งหน้าจะต้องถอนอีก2ซี่ เก่งมากมายู ขอบคุณ @tdhdental @beer.vpwd ที่ดูแลด้วยนะคะ … ขนาดยังไม่ได้ใส่เหล็กยังสวยวันสวยคืนขนาดนี้ เชื่อว่าจัดฟันแล้วจะยิ่งสวยจึ้งพ่อหนุ่มต้องมีกุมขมับแน่นอน

กลายเป็นกระแสหลัง ผู้พันเบิร์ด หรือ พลตรีวันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์คลิปแต่งชุดเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมแคปชั่น “เสือคาบดาบ” จากนั้นมีคนเข้าไปคอมเมนต์ตั้งคำถามว่า “เคยได้ไปรบไหมครับ?”

ทางด้านผู้พันเบิร์ดได้เข้าไปตอบกลับว่า “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรครับ ไปดูเลยเคยออกรบอยู่ครับ” ชาวเน็ตพากันกดไลก์กับคำตอบของผู้พันเบิร์ด และยังบอกด้วยว่า “ออกรบหลายภาคเลย”

สำหรับ ผู้พันเบิร์ด เคยรับบทนำมีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยรับบทนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จากนั้นก็มีผลงานการแสดงตามมาอีกหลายเรื่องจำนวนมาก

โดย ผู้พันเบิร์ด เริ่มรับราชการในตำแหน่งนายทหารยุทธการและการฝึก กองพันทหารม้าที่ 19 ค่ายสุรสีห์ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาเข้ารับราชการที่กองกิจการพลเรือนทหารบก กองบัญชาการทหารบก ในตำแหน่งหัวหน้าปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.) และทำหน้าที่รองโฆษกกองทัพบกไปพร้อมกัน

ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับกองพัน กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ย้ายมาดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตามลำดับ และดำรงตำแหน่ง หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย

ได้รับพระราชทานยศ พันเอก ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ได้รับพระราชทานยศ พลตรี ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566 ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร​

เป็นสาวโสดอีกคนแล้ว สำหรับ นักแสดงสาว ลีน่า ลลินา ชูเอ็ทท์ อดีตหวานใจของ ไฮโซเช้า ประคุณ พรประภา น้องชายของ ไฮโซพก-ไฮโซณัย น้องคนเล็กของบ้านพรประภา ล่าสุด ลีน่า ได้ออกมาเปิดใจหลังโสดว่า

เราไม่ได้ตั้งใจจะประกาศโสดกลางรายการ เลิกกันมาประมาณ 4 เดือนเเล้ว มันมีความทรงจำดี ๆ เราจากกันได้ดี ณ เวลานี้เราโฟกัสที่ปัจจุบันมีความสุขดี ด้วยอายุเราที่เป็นเหตุผล ความสัมพันธ์เราที่ผ่านมามันดีมาตลอด มือที่ 3 ไม่มีเลยกลับมาเป็นพี่น้องกันเราคุยกันได้ตามปกติเลย

ตอนนี้เราอยากโฟกัสการทำงาน เรียนจบมาเราอยากทำงานให้เต็มที่ เราคบกับเขาสองปีครึ่งต่างคนต่างโฟกัสที่งาน รักครั้งนี้ให้ความสุข การมีความรักเป็นสิ่งที่ดีสวยงามให้ข้อคิดกับเราเสมอ ช่วงที่ไม่มีพี่เขาแรก ๆ ก็ปรับตัว แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกมากแล้วเพราะตื่นมาก็ทำงาน

หลังโสดก็มีคนเข้ามาบ้าง มีไดเรกไอจี มีกดไลก์สตอรี่ มีทั้งในและนอกวงการ แต่ไม่มีใครมาวิน เพราะเรายังไม่พร้อมมีใคร อยากอยู่กับตัวเอง เราเป็นพี่เป็นน้องกันได้

เป็นศิลปินซึ่งเป็นที่รักของแฟนชาวไทยมากมาย สำหรับ ปาล์มมี่ ปานเจริญ ซึ่งกำลังจะมี คอนเสิร์ต “PALMY มิตร Universe Concert” ซึ่งล่าสุด บัตรขายหมดภายใน 5 นาที

ล่าสุด เดินทางไปโปรโมตคอนเสิร์ต ในรายการ สรยุทธ กรรมกรข่าว เรียกว่า ระดับปาล์มมี่ ก็ต้องสร้างมีมได้เสมอ นอกจาก จะบอกว่าตัวเองเป็นศิลปินแนวตั้ง ยังโชว์พระเครื่อง ที่เจ้าตัวชอบสะสมอีกด้วย เรียกว่าฮือฮา ไปได้ทุกประเด็น
แต่ที่ต้องเคลียร์กันยาวน่าจะเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์เพลง ที่ทางรายการไม่สามารถเปิดได้เพราะว่าติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ทำเอาปาล์มมี่ ถึงกับ งง ถามว่า ก็มี่นั่งอยู่นี่ไงคะ มี่เป็นคนร้องก็โดนลิขสิทธิ์หรอ จนสรยุทธ ต้องพยายามอธิบายว่า เป็นเรื่องจริง เพราะหากจะเปิดในรายการต้องขอลิขสิทธิ์ ทำเอาปาล์มมี่บอกว่า ไม่มีเสียงเพลง ไม่อยากจะร้องเพลงเลยทีเดียว

พีายุทธจะให้พี่ #ปาล์มมี่ ร้องเพลงโชว์ซะหน่อย สรุปเปิดไม่ได้กลัวโดนลิขสิทธิ์ แล้วพี่มี่ไม่รู้ว่ามันมีเรื่องแบบนี้ด้วย

พี่มี่ : แต่มี่มานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว มี่ร้องไม่ได้เหรอคะ?

จบที่นั่งคุยเรื่องลิขสิทธิ์แบบจริงจังซะงั้น 😂😂

แต่สุดท้ายปาล์มมี่ก็ถึงกับบอกว่าโทรหาอากู๋ไปขออนุญาตตอนนี้เลยได้มั้ยก่อนจบลงที่ปาล์มมี่หันหลังร้องเพลงเพราะบอกว่ากดดันเนื่องจากไม่มีเสียงเพลงเล่นเอาขำไปทั้งห้องส่ง

สำหรับ “PALMY มิตร Universe Concert” คอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 12 ปีของ “ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ” ศิลปินสาวเจ้าของเพลงฮิต เจ้าแม่ไวรัลมีมเด็ด จัดขึ้น 7-8 กันยายน 2567 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ไม่ตลกด้วย! ‘ซี ศิวัฒน์’ หัวร้อน ซัดเดือดโฆษณา Apple ถ่ายในไทย ทำประเทศดูแย่ – ล้าหลัง ลั่นถ้าไม่เสียดายตังค์ เขวี้ยงทิ้งจริง

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรง หลังจากที่ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้เผยแพร่โฆษณาตัวใหม่ The Underdogs: OOO (Out Of Office) | Apple at Work รวมสินค้าสุดล้ำสมัยหลากหลายชิ้น โดยปักหมุดถ่ายทำในประเทศไทย

กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยไปในทิศทางลบว่า รู้สึกไม่ปลื้มอย่างแรง เพราะองค์ประกอบ สถานที่ คอสตูม ขัดกับสิ่งที่ Apple นำเสนอมาก ๆ

แถมมีการย้อมสีภาพให้ออกโทน “สีเหลือง” ค่อนข้างที่จะเหยียด สื่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ออกมาล้าหลัง และด้อยพัฒนา

ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการเดินทาง ที่ค่อนข้างเก่า จนเหมือนโลเคชั่นของการถ่ายทำเป็นประเทศอื่นไปเลย ทำเอาสาวกหลายๆ คน ถึงขั้นอยากเลิกใช้แบรนด์ดังกล่าวทันที

งานนี้ ล่าสุด พิธีกร-นักแสดงชื่อดัง อย่าง “ซี ศิวัฒน์” ขอไม่ทนกับประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน ออกมาโพสต์ภาพโฆษณาตัวดังกล่าว พร้อมระบุว่า “กูไมขำ! บอกเลยโคตรเฮีย ถ้าไม่เสียดายตังค์นะ แม่งเขวี้ยงทิ้งจริง”

ก่อนได้ตอบคอมเมนต์รัว ๆ เอาไว้ว่า “แอบโกรธอะ ทั้ง ๆ ที่เราก็สาวก apple มาตลอด”

“ก็เพราะ soft power นี่แหล่ะครับ เราถึงดูแย่ บ้านเราไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น ประเทศไทยเรามีสิ่งที่ดีเยอะแยะ ทำให้ขำเข้าใจได้ แต่ผมไม่ขำกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราไม่ดี”

จากกรณีทนายความของ เสี่ยโป้ หรือ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียน ถึง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้ตรวจสอบเรือนจําบางขวาง เนื่องจาก เสี่ยโป้ ถูกนักโทษเด็ดขาด ลอบฆ่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายครั้ง ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำบางขวาง
โดย เสี่ยโป้ ถูกเหล็กเส้นยาว ไล่แทง โดยเหล็กเส้นนี้อยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์ จึงไม่ทราบว่านักโทษนำออกมาได้อย่างไร มีการตั้งข้อสันนิฐานว่า ไม่รู้ว่ามีใบสั่งจากผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ครอบครัวเกรงว่าจะตายคาคุก จึงเดินทางมาร้องเรียน

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 30 ก.ค.67 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ เสี่ยโป้ เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ก.ค.67 ตนและครอบครัวของ เสี่ยโป้ จะไปร้องกระทรวงยุติธรรม หลังทนายคุยกับเสี่ยโป้ว่า ในช่วงต้นปี เสี่ยโป้ บอกทนายว่า ถูกลอบฆ่า จากนักโทษเด็ดขาด จากแดน 2 (เรือนจำขังรวมระหว่างนักโทษที่ตัดสินแล้วและนักโทษอยู่ระหว่างการตัดสิน) ได้ใช้เหล็กยาว 4-6 ฟุต จะเข้ามาแทงเสี่ยโป้ในช่วงเวลาพักของเรือนจำ แต่ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนผู้ต้องขังเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เสี่ยโป้ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ทนายความ เล่าอีกว่า นักโทษจากแดน 2 เป็นคนที่ถือกุญแจห้องเก็บอุปกรณ์ของห้องกองงาน ความจริงแล้วคนที่ถือกุญแจควรจะเป็นเจ้าหน้าที่ แต่ทำไมถึงให้นักโทษเป็นคนถือ จากการสอบถามหลังก่อเหตุมีการสอบสวนภายในเรือนจำ ซึ่งการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกรายละเอียดให้เสี่ยโป้รับทราบ แต่ได้ยินกันมาในเรือนจำว่า คนก่อเหตุต้องการความยอมรับภายในเรือนจำ เพราะอ้างว่าเสี่ยโป้เป็นขาใหญ่ในเรือนจำ แต่ทนายมองว่าไม่เมคเซนต์ เพราะจะทำไปทำไม แต่มองว่าน่าจะเป็นใบสั่งจากภายนอกเรือนจำที่ให้ฆ่าเสี่ยโป้หรือไม่
ทนายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องลอบฆ่าแล้ว เสี่ยโป้ยังถูกเลือกปฏิบัติภายในเรือนจำอีกด้วย อย่างเช่นสิทธิการเยี่ยมญาติ ที่ควรจะได้เยี่ยมทุกวัน วันละ 1 ครั้ง เพราะเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณา แต่ถูกให้เยี่ยมแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เท่ากับนักโทษเด็ดขาด รวมถึงมีช่วงหนึ่งที่เสี่ยโป้ มีอาการไอเป็นเลือด เนื่องจากเป็นคนสูบบุหรี่จัด แต่เมื่อเสี่ยโป้ไอเป็นเลือด กลับไม่ได้รับการรักษาตามหลักการแพทย์ และให้น้ำเกลือในห้องธรรมดาที่ไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย รวมถึงทางผู้คุมยังมีอาการไม่เชื่อว่า เสี่ยโป้ไอเป็นเลือด แต่มองว่าเสี่ยโป้กินแตงโมแล้วไอออกมา

เมื่อถามว่าพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทางทนายความได้เข้าไปดำเนินการอย่างไร ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ในช่วงแรกทีมทนายความเข้าไปคุยกับผบ.เรือนจำ ซึ่งผบ.เรือนจำบอกว่า ไม่ได้เชื่อว่า เสี่ยโป้ไอเป็นเลือด แต่เพราะกินแตงโม จึงไอออกมาเป็นสีแดง ซึ่งทีมทนายความก็ติดตามความคืบหน้า แต่พอเสี่ยโป้อาการดีขึ้นก็ไม่ได้ตามต่อ เพราะกังวลว่าเสี่ยโป้จะเป็นอันตราย เพราะยังอยู่ในเรือนจำ

“วันพรุ่งนี้ ทางทีมทนายความและครอบครัวเสี่ยโป้ จะไปร้องขอความเป็นธรรมกับ รมว.ยุติธรรม ให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องราวต่างๆ ว่าทางเรือนจำมีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีการถูกลอบฆ่าว่าทำไมนักโทษแดน 2 ถึงมีกุญแจห้องเก็บอุปกรณ์และมีเหล็กยาวมาทำร้ายลูกความของตนและมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร”

ตะลึงทั้งกอง “ยีน เกวลิน” ขึ้นแท่นบรรทม นอนท่า “พับเป็ด” ถวายตัว เข้าเป็นสนมวังหลังให้ “โอ อนุชิต”

ผ่านไปแล้วฉากไฮไลต์สำคัญของละคร บุหลันมันตรา ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่แฟน ๆ จะได้เห็นในอีพี 9 กับท่าพับเป็ดในตำนาน

งานนี้ ยีน เกวลิน ศรีวรรณา นั่งเสลี่ยงเข้าวัง แต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็ม พอกผิว ทาหน้าขาว คิ้วโก่งดุจนางสวรรค์ ตามแบบฉบับกฎมณเฑียรบาลสมัยอยุธยา เพื่อเตรียมถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาของวังหน้า โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์

เป็นฉากที่ ออกจันทร์(นิว) รับยี่สุ่น(ยีน) นั่งเสลี่ยงมาจากเรือนเพื่อเตรียมตัวเข้าวังถวายตัว เป็นบาทบริจาริกาของวังหน้า(โอ) ออกจันทร์กลั้นใจและพูดสั่งลา ยี่สุ่น อดีตคนรักก่อนจะส่งตัวไปเป็นสนม

ถึงเวลาฤกษ์งามยามดี ยี่สุ่นแต่งองค์ทรงเครื่อง ผลัดหน้าขาวดุจเทพธิดาตามแบบฉบับโบราณราชประเพณี ยี่สุ่นก้าวขึ้นแท่นบรรทมรอง และค่อย ๆ นั่งและทำท่าพับเป็ด มือพนมอยู่เหนือหัว โน้มตัวไปข้างหลัง และวังหน้าก็ได้เสด็จเข้ามาเชยชมกายของยี่สุ่นด้วยความคลั่งไคล้

ฉากนี้ ทีมงานยกกองกันไปถ่ายทำในโลเคชันจริง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม หรือ วังจันทรเกษม หรือ วังหน้า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิธีถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาของวังหน้า เป็นอีกหนึ่งฉากใหญ่ที่ต้องพิถีพิถันทุกอย่าง

สามารถรับชมย้อนหลังที่แรกที่เดียวที่ TrueID ผ่าน 3 ช่องทางแอพพลิเคชัน, เว็บ และกล่อง TrueID TV ดูฟรีทุกเครือข่าย

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.6 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ 31 กรกฎาคม 67 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ทนายความของ เสี่ยโป้ โป้อานนท์ และครอบครัว จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้ตรวจสอบเรือนจําบางขวาง

จากกรณีเรือนจําบางขวางเลือกปฏิบัติต่อนักโทษที่ถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีเสมือนเป็นนักโทษเด็ดขาด อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่ง เสี่ยโป้ ถูกนักโทษเด็ดขาดพยายามลอบฆ่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายครั้ง โดยไม่รู้ว่ามีใบสั่งจากผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ครอบครัวเกรงว่าจะตายคาคุก จึงเดินทางมาร้องเรียน

นพ.สมภพ สังคุตแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งกระบวนการตรวจสอบในข้อเท็จจริงต่างๆ หรือการตรวจสอบวินัยของผู้ต้องขังในกรณีที่มีการกระทำความผิดภายในเรือนจำฯ ถือเป็นอำนาจการบริหารโดยตรงของ ผบ.เรือนจำฯ ซึ่งถ้าในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ครอบครัวหรือทนายความของผู้ต้องขัง มีความประสงค์ร้องเรียนเรื่องราวกับทางกระทรวงยุติธรรม ก็สามารถดำเนินการได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการที่เล็งเห็นว่าผู้ต้องขังถูกเลือกปฏิบัติหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเรื่องจะถูกประมวลส่งไปยังเรือนจำต้นสังกัดให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง

โฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังยังเรือนจำกลางบางขวาง ถือเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มักจะไม่ค่อยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ ในแดน เนื่องจากรับทราบกฎระเบียบวินัยของผู้ต้องขังดีว่า หากก่อเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นจะถูกใช้พิจารณาเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขังได้ เช่น ไม่ได้รับการปรับ เลื่อน ลดชั้นผู้ต้องขัง หรืออาจถูกบังคับโทษทางวินัย เป็นต้น และผู้คุมเรือนจำฯ ก็มีการตรวจตราความเรียบร้อยภายในแดนสม่ำเสมอ

ด้านนายยุทธนา นาคเรืองศรี ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง กล่าวว่า เรื่องที่กล่าวถึงว่าจะมีการลอบสังหาร ลอบฆ่า ในเรือนจำกลางบางขวาง ที่คุมขัง “เสี่ยโป้ อานนท์” นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ปัจจุบัน เสี่ยโป้ ยังอยู่ในแดนควบคุมพิเศษ หรือแดน 10 ของเรือนจำกลางบางขวางอยู่มาแล้ว 1 ปี ไม่ใช่เพิ่งเข้ามาอยู่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่จู่โจมแดน 10 ก็ไม่พบสิ่งของอันตรายใดๆ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ทั้งนี้ เรือนจำกลางบางขวางมีมาตรการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกรายอย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 ก.ค.67 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพ นางชดช้อย ทวีสิน ณ ศาลากวีนิรมิต วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย หีบทองลายสลัก , ฉัตรเบญจาตั้งประดับ 4 คัน , ปี่กลองชนะประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เชิญพวงมาลาพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าที่ปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ไปวางที่หน้าหีบศพนางชดช้อย ทวีสิน

โดยภายในงาน คณะรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ พรรคการเมือง หน่วยงานราชการ ภาคธุรกิจประชาชนและ ญาติสนิท ร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

จากนั้นเวลา 17.50 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมในพิธีสวดอภิธรรมคุณแม่ชดช้อย ทวีสิน โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา แกนนำพรรคเพื่อไทย ทยอยมาร่วมงาน

สำหรับประวัติของ คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน

คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน สกุลเดิม จูตระกูล เป็นบุตร คนที่ 2 ของคุณพ่อชู จูตระกูล และ คุณแม่มีเลียน ยิบอินซอย เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2471 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 5 ท่าน ดังนี้ 1. คุณชูเชิด จักกะพาก 2. คุณชดช้อย ทวีสิน ผู้วายชนม์ 3. คุณโชติ จูตระกูล 4. คุณแช่มชื่น บุรณศิริ และ 5. คุณชัช จูตระกูล

ประวัติด้านการศึกษาและการทำงานท่านสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยม ณ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อด้าน Interior Design จาก Parson School of Design, New York ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากจบการศึกษา ได้กลับประเทศไทย และเริ่มทำงานที่บริษัท Sweet Home Furniture หลังจากนั้นได้ไปทำงานที่สถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะเกษียณมาดูแลลูกหลาน

ด้านครอบครัว คุณแม่ชดช้อย ทวีสิน ได้แต่งงานกับร้อยโทอำนวย ทวีสิน (เสียชีวิตแล้ว) และมีบุตร 1 ท่าน คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแสนสิริ เนื่องจาก ร้อยโทอำนวย ทวีสิน เสียชีวิตตั้งแต่นายเศรษฐา อายุได้เพียง 3 ขวบ คุณแม่ชดช้อย สวมบทบาท “หญิงเหล็ก” เป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียว เลี้ยงดูบุตรชายคนเดียวจนสำเร็จการศึกษาสูงสุดจากสหรัฐอเมริกา และทำธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างสูง ก่อนเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566

การเสียชีวิตคุณแม่ชดช้อย ทวีสิน ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 สิริอายุ 95 ปี 9 เดือน