Home Blog Page 237

อาลัย สิ้นศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว ปราชญ์เมืองเพชร

วันที่ 29 กรกฎาคม มีรายงานว่า ศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา วรรณคดี ประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาไทยหลายแขนง หรือ ปราชญ์เมืองเพชร สิ้นใจอย่างสงบในวันนี้ 4 ธันวาคม 2479-29 กรกฎาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันภาษาไทยแห่งชาติ โดยครอบครัวจะจัดพิธีรดน้ำศพที่วัดยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรี วันพรุ่งนี้ 30 ก.ค

ศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว เป็นอนุกรรมการวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง, เป็นผู้เชี่ยวชาญจัดทำพจนานุกรม บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), ได้รับการแต่งตั้งเป็น เกตุทัต ศาสตราภิชาน จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พ.ศ.2548 และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย เมื่อ พ.ศ.2550

ชัดเจนแล้ว เรื่องเงินดิจิทัลแลกเป็นเงินสด

จากกรณี สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ พูดคุยกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงประเด็นเกี่ยวกับ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยช่วงหนึ่งสอบถามเรื่องข้อกังวลว่า อาจจะเกิดช่องโหว่ที่ทำให้บางกลุ่มได้ผลประโยชน์ รวมทั้งเมื่อแจกเงินดิจิทัลแล้ว ก็อาจจะถูกนำไปแลกเป็นเงินสด ดังนั้นจะมีวิธีดูแลจัดการอย่างไร

ทั้งนี้ นายสรยุทธถามว่า เราจะสามารถป้องกันคนเอาเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไปแลกเป็นเงินสดอย่างไร ในกรณีที่คนที่ต้องการที่จะแลก อยากได้เงินสดไปซื้อเหล้า เอาไปจ่ายค่าไฟ โดยยอมที่จะเสียส่วนต่าง เช่น มีเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่ขอแลกเป็นเงินสด 7,000 บาท ให้ร้านกินกำไรไปเลย 3,000 บาท

ซึ่งนายจุลพันธ์ยอมรับว่า เรื่องนี้มันยากที่จะป้องกันได้ 100% แต่ตนจะบอกว่า เงินดิจิทัล 10,000 บาท มีค่าเท่ากับเงินสด 10,000 บาท การจะเอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินสดในราคาที่ลดลง มันไม่ฉลาด และเงินดิจิทัลใช้ได้กว้าง ใช้ได้ทุกที่ อีกอย่างคือ หากต้องการซื้อสินค้าที่อยู่ในลิสต์ต้องห้าม คุณสามารถเอาเงินสดไปซื้อได้ แล้วค่อยใช้เงินดิจิทัลไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคแทน การจะเอาเงินดิจิทัลไปแลกเงินสดในมูลค่าที่ลดลง ถือเป็นเรื่องไม่ฉลาด

อีกประเด็นคือ เรามีระบบการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ข้อมูลในระบบไม่หาย เช่น ร้านค้าร้านหนึ่ง ปกติขายได้เฉลี่ย 4,000 แต่อีกวันขายได้กระโดดไป 80,000 ระบบจะต้องแจ้งเลย แล้วหน่วยงานก็จะต้องไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ได้มีการซื้อขายสินค้าจริงก็จะดำเนินการ ซึ่งในอดีต เคสที่รัฐดำเนินคดีและเรียกเงินคืนรวมทั้งตัดสิทธิ

ด้านนายสรยุทธถามต่อว่า ในมุมของร้านค้าร้านเล็ก เนื่องจากกว่าจะได้เงินสดก็นาน ร้านจะไม่มีเงินสดไปซื้อกับร้านรายย่อยอื่น ๆ ได้ แบบนี้สุดท้าย เงินก็จะหมุนเข้าสู่ร้านใหญ่ นายจุลพันธ์ก็ตอบว่า ร้านรายย่อยสามารถขึ้นทะเบียนกับเราได้ เพื่อให้มีตัวเลือกที่กว้างขึ้น และเราจะดึงซัพพลายเชนเข้ามาถึงผู้บริโภคดีขึ้น ทำให้เกิดความคล่องตัว อีกอย่างคือ เงินสดในระบบมีอยู่ 10 ล้านล้าน ส่วนเงินดิจิทัลนั้นเพียง 5 แสนล้าน ดังนั้นเงินในระบบไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น การที่ร้านไปซื้อข้าวของมาขาย ไม่จำเป็นต้องใช้ดิจิทัลวอลเล็ตทุกเคสอยู่แล้ว

สุดท้าย นายจุลพันธ์ยืนยันว่า เชื่อว่าหลังจากรัฐบาลแถลงครั้งล่าสุด จะเกิดผลในทางบวกต่อเศรษฐกิจ เมื่อทุกคนรู้ว่าช่วงปลายปีเงินจะลงมา จีดีพีปีนี้ขยับแน่นอน ร้านค้าและโรงงานต้องเริ่มผลิตสินค้า ขยับจ้างงาน และหลังจากนั้นจะเกิดผลเต็มรูปแบบ และคาดว่าประชาชนจะได้ทันใช้เงินดิจิทัลก่อนสงกรานต์และปีใหม่

ระวัง อดได้10,000 วันปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัล เช็กเลยเดี๋ยวไม่ทัน

เงินดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด กระทรวงการคลัง อัปเดตไทม์ไลน์การลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของแต่ละกลุ่มไว้ดังนี้ ประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน

ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ วันที่ 1 ส.ค.- 15 ก.ย. 67

ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน วันที่ 16 ก.ย.– 15 ต.ค. 67 ยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (จะมีการแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง)

ร้านค้า

ลงทะเบียนร้านค้า วันที่ 1 ต.ค. 67 (จะแถลงข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติร้านค้า ช่องทาง วิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่นๆ อีกครั้ง)

สร้างประวัติศาสตร์ นักยูโดไทยคนแรก คว้าชัยใน โอลิมปิก

วันที่ 29 กรกฎาคม 2567 การแข่งขัน โอลิมปิก 2024 ชนิดกีฬายูโด รุ่น 73 กิโลกรัมชาย รอบ 32 คนสุดท้าย มาซายูกิ เทราดะ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผู้เป็นตัวแทนจากประเทศไทย พบกับ ฟิลิปป์ เมเตลลุส นักสู้จากเฮติ

มาซายูกิ เทราดะ อาศัยเอาทักษะที่เหนือกว่า เก็บไปทั้ง ชิโด วาซาอาริ และ อิปปง ก่อนจะเอาชนะ ฟิลิปป์ เมเตลลุส จาก เฮติ ไปได้ด้วยคะแนน 11-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้สำเร็จ

ชัยชนะในครั้งนี้ ส่งผลให้ เทราดะ กลายเป็นนักยูโดตัวแทนจากประเทศไทยคนแรก ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้ โดยเจ้าตัวจะเข้าไปพบกับ มานูเอล ลอมบาร์โด ตัวแทนจากอิตาลี ในรอบถัดไป

เผย 5 อันดับ มหาวิทยาลัยเรียนจบไม่ต้องกลัวตกงาน เพราะนายจ้างพร้อมรับทำงาน

เผยออกมาแล้ว สำหรับ 5 อันดับ มหาวิทยาลัยที่ได้คะแนนความยอมรับจากผู้จ้าง มากที่สุดในประเทศไทย หรือง่ายๆ คือ เรียนจบจากที่นี่ ไม่ต้องกลัวตกงาน เพราะอัตราจ้างงานสูง นายจ้างพร้อมรับเข้าทำงานเสมอ

โดยการจัดอันดับในครั้งนี้เป็นการจัดอันดับโดย QS World University Rankings โดยประเมินจาก คุณภาพการสอน (Academic Reputation), งานวิจัย (Employer Reputation), อัตราการจ้างงาน (Faculty/Student Ratio), จำนวนการอ้างอิงงานวิจัย (Citations per Faculty) และ จำนวนนักศึกษาต่างชาติ (International Faculty and Students) และนี่คือ 5 อันดับมหาวิทยาลัยที่ได้คะแนนความยอมรับจากผู้จ้าง ที่มากที่สุดในประเทศไทย

istock 869247700

1721890173888

อุตส่าห์ซึ้ง ลูกค้าจ่ายทิปพนักงานเสิร์ฟ 1 แสน ช็อก กลายเป็นจุดเริ่มต้นความซวยของร้าน

ลูกค้าจ่ายทิปพนักงานเสิร์ฟ 1 แสน ยืนยันตั้งใจให้ อุตส่าห์ซาบซึ้งนึกว่าจะจบสวย ผ่านไปไม่ถึงเดือนร้านซวยหนักมาก

เว็บไซต์ Unilad รายงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เปิดเผยเรื่องราวของ ร้านอาหารเล็ก ๆ ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ที่มีลูกค้ารายหนึ่งมอบทิปก้อนโตแก่เด็กเสิร์ฟในร้าน เป็นจำนวนเงินถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 110,000 บาท) แต่เรื่องนี้กลับไม่ได้จบสวยแบบที่คิด และกลายเป็นฝันร้ายของทางร้าน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 เอริค สมิธ เข้ามาใช้บริการที่ร้านอาหาร Alfredo’s Cafe ในเมืองสแครนตัน เขาสั่งกาแฟและสตรอมโบลี่ ซึ่งค่าอาหารมื้อนั้นเพียง 13.25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 480 บาท) แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อเขาเขียนเงินค่าทิปให้แก่พนักงานเสิร์ฟ จำนวน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ

มาเรียน่า แลมเบิร์ต พนักงานเสิร์ฟผู้โชคดี ยอมรับว่าเธอรู้สึกตื้นตันอย่างมากเมื่อเห็นจำนวนทิปที่ลูกค้าให้ และบอกว่ามันมีความหมายกับเธอมากจริง ๆ

เพื่อให้มั่นใจว่าการให้ทิปดังกล่าวไม่ใช่ความผิดพลาดหรือการเข้าใจผิดลูกลูกค้า ผู้จัดการร้านจึงเข้าไปตรวจสอบยืนยันความถูกต้องกับลูกค้า ซึ่งเขาก็อธิบายว่าได้รับแรงบันดาลใจในการทำเรื่องดังกล่าวมาจากเทรนด์ในโซเชียลมีเดียเรื่อง “Tips for Jesus” และตัดสินใจจะมอบทิปนี้หลังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นใจจากพนักงานเสิร์ฟรายนี้

แต่แล้วไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สถานการณ์ก็พลิกผันไปในทางเลวร้าย เมื่อทางร้านได้รับจดหมายแจ้งว่าลูกค้ารายดังกล่าว ได้ยื่นโต้แย้งเรื่องการเรียกเก็บเงินค่าทิปจากบริษัทบัตรเครดิต และต้องการเงินจำนวนนั้นคืน แต่ทางร้านได้จ่ายเงินค่าทิปจำนวนนั้นให้แก่พนักงานเสิร์ฟไปแล้ว เท่ากับว่าร้านจะต้องจ่ายเงินคืนให้ลูกค้าเอง

ต่อมาทางร้านได้พยายามติดต่อกับลูกค้ารายนี้ผ่านเฟซบุ๊กของเขา แต่ลูกค้าเจ้าปัญหากลับเมินเฉย ไม่ยอมตอบกลับข้อความ จนเมื่อเวลาผ่านไปนานถึง 3 เดือน ทางร้านจึงตัดสินใจที่จะยื่นฟ้องคดีทางแพ่งกับลูกค้ารายนี้ เพื่อหวังจะได้เงินจำนวนดังกล่าวคืน มันโชคร้ายที่ทางร้านจำเป็นต้องยื่นฟ้องผ่านสำนักงานผู้พิพากษา เพราะทางร้านไม่มีเงินแล้ว และลูกค้าก็บอกให้เราไปฟ้องเอา

จากสถานการณ์ที่ทางร้านเผชิญ สมาชิกในชุมชนรอบ ๆ ร้านจึงเริ่มตั้งเพจระดมทุนเพื่อให้การสนับสนุนธุรกิจของทางร้าน แต่ทางร้านปฏิเสธที่จะรับเงิน ทำให้การระดมทุนดังกล่าวปิดตัวไป

ขณะที่ล่าสุดผ่านไป 2 ปี คดีความดังกล่าวนั้นเงียบไป ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

1 582

ทิป0219 1

‘หญิง รฐา’ คิดตรงสามี ขอเลือกอยู่กัน 2 คน ไม่มีลูกก็สุขได้!!

หญิง รฐา นักร้อง – นักแสดงสาว วันนี้มาได้เปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เล่าเรื่องราวสุดซาบซึ้งที่ได้เป็นตัวแม่ของเหล่า LGBTQ พร้อมอัปเดตชีวิตคู่คงไม่คิดมีทายาท เพราะมีความสุขอยู่กับตรงนี้แล้ว

ด้วยการที่เป็นตัวแม่ของกลุ่ม LGBTQ มีหลายเหตุการณ์มากที่พวกเขาจะชื่นชอบในตัวคุณ เล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจให้ฟังหน่อย ?

หญิง รฐา : เราก็ทำงานเป็นนักร้องจากเพลง จินนี่จ๋า ก็เกือบ 20 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการเติบโตของน้องๆ กลุ่มนี้ที่เติบโตไปกับเรา จะเห็นเขาตั้งแต่เรียน รด. ใส่ชุดมาแล้วก็แบบพี่ขอลายเซ็นวิ่งตามรถเรา จนวันหนึ่งเขาก็เติบโตเหมือนกับทำรายการอยู่ในแกรมมี่ เห็นเขาเดินอยู่ในตึกแกรมมี่ เป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี จากแฟนคลับกลายเป็นน้องคนหนึ่งที่เราสนิทเพราะว่าเหมือนเราเติบโตมาด้วยกัน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำรายการออนไลน์ด้วยกัน ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเป็นมากกว่าแค่แฟนคลับ จนทุกวันนี้ก็จะไปเที่ยวดิสนีย์ ชอบดิสนีย์เหมือนกัน ส่วนอันนี้เรารู้สึกประทับใจส่วนใหญ่ก็จะมีเดินเข้ามาแล้วก็น้ำตาคลอ ตัวสั่นแล้วก็จับเรา พูดว่าแม่ทำให้หนูรู้จักตัวเอง เป็นโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่าอาชีพนี้มันจะทำให้คนๆ หนึ่งได้รู้จักตัวเอง คำว่ารู้จักตัวเองมันใหญ่มากนะสำหรับหญิง การที่เราได้ Come Out กับทุกๆคนรวมถึงตัวเราเอง ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นแล้วก็ให้ครอบครัวรู้ แล้ววันหนึ่งเขาก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม มีอาชีพที่ดีในสังคม เลยรู้สึกว่ามันก็เท่ดีนะ การที่เราเป็น 2002 ราตรี เป็นอะไรที่สร้าง Inspiration ให้คน

พอได้รับการสนับสนุนการครอบครัวด้วยก็จะเป็นอะไรที่ผลักดันให้เขายิ่งมีพลังมากขึ้น ?

หญิง รฐา : ใช่ สำหรับหญิงเอง รู้สึกว่าไม่ใช่แค่เขานะเราด้วย ถ้าไม่มีพวกเขาสนับสนุนเชื่อว่าจินนี่จ๋า หรือตัวหญิง ตัวพี่แคท เพื่อนๆในวง 2002 ราตรี ก็จะไม่ได้เดินทางกันมานานขนาดนี้ เพลงมันทำงานได้มาเป็น 20 ปี เพราะพวกเขานะ แล้วเราก็ได้มีคอนเสิร์ตขึ้นก็เพราะพวกเขาเหมือนกัน มันก็เป็นความภูมิใจของพวกเรา

ก็โตกันไปถึง 80 ปี ?

หญิง รฐา : ก็ยังเต้นไหวค่ะพูดถึงการเป็นตัวแม่แล้วในชีวิตจริงความเป็นตัวมัมจะเกิดขึ้นไหม ?

หญิง รฐา : ไม่ค่ะ คุยกับตูนแล้วค่ะ คุยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานเลย ช่วงเวลาที่เราคบกันจะคุยกันถึงอนาคตอยู่แล้ว เขาก็จะบอกว่ามองไม่เห็นว่าเราจะมีอนาคตในรูปแบบของการเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีลูกหญิงคิดยังไง คือจริงๆ ถ้าหญิงแต่งงานเร็วกว่านี้ ประมาณ 30 ต้นๆ คงคิดว่าหญิงอาจจะมี แต่พอหญิงแต่งเกือบ 40 แล้ว ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเราไม่เหนื่อยดีกว่า ก็คิดเหมือนกัน แล้วก็ไลฟ์สไตล์ด้วยแหล่ะที่เรายังชอบจะเดินทางใช้ชีวิต หลายๆ ครั้งที่เราเจอเพื่อนๆ ที่มีครอบครัว เขาก็จะบอกว่าไม่มีดีแล้ว เราก็เลยโอเค เลี้ยงลูกเพื่อนค่ะ ชอบสปอย์ลูกเพื่อน ในการเกิดเป็นมนุษย์บางทีเราไม่ต้องทำทุกอย่าง ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ รู้ในแบบที่เราอย่างรู้พอ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เขากำหนดมาให้เราอยากเป็นก็ได้ จริงๆการมีลูกมันคงไม่ใช่ทุกข์อย่างเดียวมันมีสุขด้วย เพียงแต่เราอาจจะสุขอยู่กับตรงนี้และเราโอเคแล้ว

1053400

1053401

767c2fa2-0ca4-4ad0-9c44-bf116359244f

Dtbezn3n-NUxytg04abon2-ZA663ezlj-Zljo4-XG21q8-MNVj-N

VSq-Dpvt8epqe6-II6-114754

”อ้น ศรีพรรณ“ ภรรยาของ ”ลุงเอ อนันต์“ ประกาศข่าวดีว่า ในที่สุดลุงเอก็ได้มี โอกาสเจอพี่สาวแท้ๆของตัวเองที่ ประเทศเยอรมัน

ทำให้คนในวงการต่างเรียกขานไปด้วยเลย ชื่อ ลุงเอ จึงเป็นที่รักของนักแสดงทุกคนในวงการ

และหากใครติดตามอินสตาแกรมของ อ้น ศรีพรรณ ล่าสุดจะได้เห็นภาพอบอุ่นของ ลุงเอ กับน้องสาวชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรก หลังจากที่ ลุงเอ ได้ตามหาคุณพ่อชาวเยอรมันผู้ให้กำเนิด แต่เป็นที่น่าเสียดายเจ้าตัวไม่ได้เจอ แต่ก็ได้พบกับครอบครัวและได้มีชื่อใหม่จากน้องสาวเป็นคนตั้งให้

โดยในอินสตาแกรม อ้น ศรีพรรณ ได้ลงข้อความไว้ว่า “I’m no longer wondering about, why do I have my bald spot? Who did I get this genes from? I’m no longer having some sleepless night thinking about my family roots. Even though, I didn’t get to meet my biological father but I finally know who he was. I have a sister here. And, this is my new name that my sister gave me, “Andreas Anan Lothar”. Thank you Gabe, Tjake and Lothar for organizing this and thank you so much for your warm welcome. We appreciate you all!

แปลโดยรวมว่า (ผมเลิกสงสัยไปแล้วว่า ทำไมผมถึงมีผมร่วงเป็นหย่อม และได้รับยีนส์นี้มาจากใคร ฉันไม่ต้องอดหลับอดนอนอีกต่อไป เพื่อคิดถึงต้นกำเนิดของครอบครัว แม้จะไม่ได้พบกับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร ผมมีน้องสาวอยู่ที่นี่)

(Andreas Anan Lothar คือชื่อใหม่ที่น้องสาวมอบให้ ขอบคุณ Gabe Tjake และ Lothar ที่จัดการเรื่องนี้ให้ และขอบคุณมากสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น พวกเราซาบซึ้งใจในน้ำใจของทุกคนครับ)

เป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจเห็นแล้วยิ้มใจฟูไปด้วยเลย

สาว งง ถามโซเชียล กู้บ้าน 3 ล้าน จ่ายเดือนละ 2 หมื่น โดนหักเป็นดอกเบี้ย 100%

ที่อยู่อาศัย นับเป็นปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งปัจจุบันการซื้อที่อยู่อาศัยก็จะเป็นการกู้ยืมจากธนาคารและผ่อนชำระกันยาวๆ 20-30 ปี เป็นอย่างน้อย แต่สิ่งที่ต้องศึกษาก่อนซื้อบ้านก็คือ เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้นั่นเอง

โดยหลายครั้งบนโซเชียลมักจะมีการตั้งคำถามถึงเรื่องดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งโพสต์นี้ถูกโพสต์ลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่า “ค่าบ้านไม่ตัดเงินต้นสักบาท ดอกเบี้ย 100% ใครเป็นบ้าง”

ผู้โพสต์ได้แนบบิลการชำระเงิน ในเดือน มิยและ ก.. โดยมีรายละเอียดระบุว่า เป็นการหักชำระอัตโนมัติ ในเดือนมิ.ย.ชำระไป 18,500 บาท เป็นเงินต้น 8,057 บาท และดอกเบี้ย 10,442 บาท แต่เดือน ก.ค.ชำระ 20,500 บาท เป็นดอกเบี้ย 20,500 บาททำให้กลายเป็นสาเหตุของความข้องใจครั้งนี้

ทั้งนี้ ในการคำนวณดอกเบี้ยบ้านนั้น จะต้องทราบกำหนดระยะเวลาการจ่ายคืน และดอกเบี้ยที่ธนาคารคิด ซึ่งธนาคารมักจะให้สิทธิผู้กู้ ได้จ่ายดอกเบี้ยต่ำช่วงแรกก่อนที่พ้นระยะเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนการคำนวณดอกเบี้ยใหม่ แต่จะให้สิทธิรีไฟแนนซ์ได้ ทำให้ผู้บริโภคต้องศึกษารายละเอียดการกู้อย่างรอบคอบ

เป้ย ปานวาด ประกาศชัด ไม่มีโอกาสรีเทิร์นสามี-ลูกถูกเพื่อนถามเรื่องพ่อแม่

เป้ย ปานวาด ออกมาเปิดใจถึงสถานะครอบครัวปัจจุบัน ผ่านรายการ 3 แซ่บ โดยเธอย้ำว่า จะไม่กลับไปคืนดีกับสามีแล้ว เผยลูกถูกเพื่อนถามเรื่องพ่อแม่

Polyplus Entertainment แชร์คลิปรายการ 3แซ่บ โดยแขกรับเชิญคือ คุณแม่ลูกสองสุดสตรอง เป้ย ปานวาด ที่ออกมาเปิดใจถึงสถานะครอบครัวปัจจุบันบัน โดยมี หนุ่ม กรรชัย ชมพู่ อารยา และ แอฟ ทักษอร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โดยเธอย้ำว่า จะไม่กลับไปคืนดีกับสามีแล้ว

หนุ่ม กรรชัย: ”ชีวิตตอนนี้โอเคขึ้นไหม?“

เป้ย : ”ชีวิตตอนนี้มีความสุขดี“

หนุ่ม กรรชัย: พี่ชอบประโยคหนึ่งที่เป้ยให้สัมภาษณ์ ผู้หญิงที่มีความทุกข์จะเอาความสุขที่ไหนมาเลี้ยงลูก?

เป้ย: “จริงๆมันก็เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิต ถ้าเกิดเรามีสุขภาพจิตที่ดีเราเลี้ยงลูก ลูกเราก็จะมีสุขภาพจิตที่ดีตาม ถ้าเกิดเรามัวแต่อยู่ในความทุกข์ความเศร้า แน่นอนว่าลูกก็จะได้รับผลกระทบ ลูกก็จะเป็นสิ่งเดียวที่เรานึกถึง แม้ว่าเราจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในที่สุดเราก็ต้องมองให้ตัวเราด้วยว่า เราโอเคแค่ไหนพร้อมแค่ไหน องค์ประกอบหลายๆอย่างรวมกันอยู่ตรงนี้”

แอฟ ทักษอร: มันจะต้องเป็นข่าวมัน มีข่าวอะไรที่ไปกระทบลูกบ้างไหม?

เป้ย: “คือมีเพื่อนมาถามเขาด้วยนะคะ ก็คือเราก็บอกตามความเป็นจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดลึกๆ ว่ามันมี detail ยังไง มันคือปัญหาของผู้ใหญ่มันคือปัญหาของคนสองคน มันไม่เกี่ยวกับเด็ก เพราะฉะนั้นเป้ยมองว่าถ้ามันไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับลูก มันก็จะไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับลูก มันก็จะจบที่ผู้ใหญ่

เพราะฉะนั้นเขาทั้ง2จะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่เบื้องต้นเราก็ต้องมีข้อมูลให้กับเขา เพราะว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะต้องเข้ามาถามหรือจะต้องเข้ามาแซว แต่ที่สุดแล้ว เขาก็ต้องมารับรู้จากเราว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในครอบครัว

คือว่ายุคสมัยนี้มันค่อนข้างจะเปลี่ยน เด็กค่อนข้างจะโตขึ้น ปัจจัยหลายๆอย่างมันทำให้เขาเข้าใจว่า บางทีคำว่าครอบครัวมันไม่มีคำว่าเสมอไป คือเขาค่อนข้างเหมือนจะเป็นเพื่อนกันคือเรามีอะไรก็ค่อนข้างจะแลกเปลี่ยนกันทุกอย่างเลย

เป้ยเจอปัญหาอะไร ทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม เป้ยก็จะเล่าให้น้องโปรดฟัง ฉะนั้นเขาก็จะรับรู้ในส่วนนั้นด้วย คือโปรดรับรู้ทุกอย่างแต่อาจจะมี detail เล็กๆน้อยๆที่อาจจะไม่ได้เล่าให้เขาฟัง เขาก็อาจจะรับรู้ว่า ณ ตอนนี้สถานะครอบครัวภาพรวมมันเป็นแบบนี้

คือในวันที่เขารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าน เขาอยู่กับเป้ยจนสว่างเลย ไม่ไปไหนกอดจนรอให้เป้ยตื่นไม่ไปไหนเลย มันก็ทำให้เป้ยรับรู้ได้ว่า คือเขาไม่ทิ้งเราและเขาอ่ะก็อยากให้เรารู้สึกอุ่นใจว่ามีเขาอยู่ตรงนี้”

หนุ่ม กรรชัย: “แล้วเขาได้พูดอะไรกับคุณพ่อไหม ไม่เลย คือตอนนี้คือทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดีสำหรับลูก ยังเล่นเฮฮากันอยู่ ก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นปัญหาเฉพาะแค่คนสองคนถ้าเราไม่ได้ทำมันเป็นปัญหาครอบครัว สำหรับลูกมันก็จะไม่เป็น ก็ร่วมมือกันเล่นด้วยกัน ชวนไปกันไปกินข้าวก็ยังมีอยู่ ก็ยังเจอกันยังเล่นกับลูกปกติ ลูกก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าจะมีผลกระทบอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงมากมาย”

ชมพู่ อารยา: แล้วมันยากไหมสำหรับเรา?

เป้ย: ”ไม่ยากเลยชม เป้ยชิวมาก คือมันอาจจะเป็นด้วยระยะเวลาด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ คือครั้งเนี่ยเป้ยไม่มีน้ำตาอะไรเลย เป้ยตัดปิดจบเร็วมาก คือเหมือนเมื่อก่อนเราอาจจะไปโฟกัสเรื่องนี้มากเกินไป เข้าใจตัวเองและมองตัวเองมากๆเห็นคุณค่าของตัวเองมากๆ ทุกอย่างมันเกี่ยวข้อง เป้ยรู้สึกโล่งมากๆที่ออกมาในรูปแบบนี้“

หนุ่ม กรรชัย: มันมีโอกาสกลับมาไหม?

เป้ย: “ไม่มีแล้วค่ะ คือเป้ยอ่ะรู้สึกว่ามันดีจังที่ออกมาในเวย์นี้”

Popular Posts

My Favorites

สุดเศร้า “จุ๊บแจง วิมลพันธ์” แจงข่าวสูญเสียน้องชายสุดที่รักอย่างไม่มีวันหวนกลับ

0
หลังอดทนต่อสู้กับอาการป่วยรุนแรงมานานจุ๊บแจง วิมลพันธ์ นักแสดงรุ่นใหญ่สาวสวย ที่มากความสามรถ แลแสดงละครดังมาอย่างมากมาย ที่เมื่าอช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเธอได้เผยเรื่องสุดช็อก น้องชายแท้ๆ ต้องเข้าแอดมิด ICU หลังเกิดอาการน้ำท่วมปอด และหยุดหายใจนานถึง 14 นาที ค่ะ และด้านคุณหมอก็บอกเธอแค่ว่าให้รอปาฎิหารย์ล่าสุดไร้ปาฎิหารย์ดั่งที่หวังค่ะ จุ๊บแจง วิมลพันธ์ ได้แจ้งข่าวเศร้าสูญเสียน้องชายอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว โดยเธอได้เขียนข้อความสุดซึ้งถึงน้องชายเธอว่า “🤍🤍พี่ไม่รู้หรอกนะว่า…ตอนนี้บนท้องฟ้าเป็นอย่างงัย…รู้แต่ว่า…น้องชายที่พี่รักและเลี้ยงมากับมือ…ได้ไปที่ๆๆมันสวยงาม..ไปในที่ๆๆๆไม่ต้องเจ็บต้องทนทรมาน…ทุกครั้งที่น้องไปล้างไต..เกล็ดเลือดต่ำ…ติดเชื้อ..วิกฤตเข้าICUเดือนละ4-5ครั้ง..ใจทุกคนในบ้านตก…เป็นห่วง…รัก 🤍อาทเป็นนักสู้สำหรับพี่…ไม่เคยบ่นไม่เคยท้อ…ทุกครั้งที่มึอะไรเข้ามาในชีวิต…ไม่ว่าเรื่องงานหรือชีวิตส่วนตัว…วันนี้น้องพี่เหนื่อยมาก…พักนะน้องรักหลับให้สบาย…ไปเป็น“เชฟเทวดา”บนสวรรค์นะ…แล้วเราจะได้เป็นพี่น้องที่รักกันอีก…ตลอดไป🤍🤍รักน้องสุดหัวใจ #RIP🤍อาท #อนุชา #ชาลีจังหาญ #🤍18/8/67 #เวลา01:04น“หลังจากที่จุ๊บแจงได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยน้องชายไปแล้วนั้น เหล่าเพื่อนๆ...