Home Blog Page 268

เน็ตไอดอลชื่อดัง ของจีน เสียชีวิตคาไลฟ์สด

เน็ตไอดอลชื่อดังชาวจีน พาน เสี่ยวถิง (Pan Xiaoting) วัย 24 ปี เสียชีวิตขณะกำลังไลฟ์สดต่อหน้าชาวเน็ต โดยแพทย์ระบุว่าสาเหตุการตายเกิดจากการที่เธอ กินมากเกินไป โดย พาน เสี่ยวถิง เป็นสตรีมเมอร์กินอาหารโชว์แนว ม็อกบัง ที่กำลังเป็นที่นิยมในโซเชียลจีน

ก่อนหน้าจะมาเป็นนักกินผ่านไลฟ์สดมืออาชีพพานเสี่ยวถิงเคยทำงานเป็นสาวเสิร์ฟ แต่หลังจากที่เธอได้เห็นเน็ตไอดอลนักกินเหล่านี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมีรายได้มหาศาลจากการรับ ของขวัญ ของชาวเน็ตผ่านแอประหว่างไลฟ์สด ซึ่งนำไปแปลงเป็นเงินได้ เธอก็เลยอยากลองทำบ้าง

เนื่องจากวงการม็อกบังนั้นมีการแข่งขันสูง พานจึงต้องดิ้นรนอย่างมากในช่วงแรก แต่ต่อมาเธอก็เริ่มมีกลุ่มผู้ติดตาม จากที่เธอเคยจัดไลฟ์สดกินโชว์เป็นเพียงงานพิเศษ เธอก็ตัดสินใจจะทำเป็นอาชีพหลักและลาออกจากงานเดิม เธอยังยอมจ่ายเงินเช่าบ้านดีๆ เพื่อทำเป็นสตูดิโอถ่ายทอดสดการกินโชว์ของเธอ ท่ามกลางการคัดค้านขอพ่อแม่ที่เป็นห่วงสุขภาพของเธอ

เมื่อมีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ พานก็เลิกสนใจสุขภาพของตัวเอง และเพิ่มปริมาณอาหารมากยิ่งขึ้น เธอยังทำภารกิจการกินแบบพิสดารหลายต่อหลายครั้งเพื่อดึงดูดผู้ชม แม้ว่าครอบครัวของเธอและผู้ชมหลายคนที่เป็นห่วงสุขภาพของเธอจะกล่าวเตือน พานก็เพียงแต่ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจัดการได้

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต พานเริ่มทำภารกิจการกินยาก ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดผู้ชม เช่น ไลฟ์สดกินอาหารติดต่อกันวันละ 10 ชม., ไลฟ์สดกินอาหารครั้งละ 10 กก. จนกระทั่งร่างกายของเธอรับไม่ไหว และเสียชีวิตระหว่างไลฟ์สดในวันที่ 14 ก.ค. 2567

แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของพาน แต่เว็บไซต์ของ Sohu ก็อ้างว่า ผลจากการชันสูตรศพของเธอ พบว่าช่องท้องของพานผิดรูปไปจากปกติอย่างมาก และกระเพาะอาหารของเธอเต็มไปด้วยอาหารที่ไม่ย่อย

ก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆบ้านโป่ง เปิดใจ “พ่อค้าหน้าหล่อ” เผยที่มาฉายาพ่อค้าทรงสืบ

เจอตัวแล้ว หนุ่มหน้าหล่อเร่ขายก๋วยเตี๋ยวป๊อก ๆ ขวัญใจสาว ๆ เมืองบ้านโป่ง เผยที่มาฉายาพ่อค้าทรงสืบ

จากกรณีโลกออนไลน์ ได้มีกระแสฮือฮา พ่อค้าที่เร่ขายก๋วยเตี๋ยว “สูดเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ” ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวรถเร่ตระเวนขายอยู่ภายในเขตเทศบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หลังทราบข่าวว่านอกจากก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยน้ำซุปเป็นเลิศแล้ว ตัวเจ้าของร้านยังหน้าตาดี หล่อหุ่นดี ผิวขาว ทำให้บรรดาลูกค้าซึ่งมีทั้งสาวรุ่นจนไปถึงสาวใหญ่มาอุดหนุน นอกจากนั้นยังได้ฉายา “พ่อค้าทรงสืบ” หรือ “พ่อค้าหน้าหล่อ หน้ามนต์”

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางตามหา “พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆบ้านโป่ง” ภายหลังก็ได้พบกับพ่อค้าคนดังกล่าว ซึ่งมาขายก๋วยเตี๋ยวภายในสำนักงานป่าไม้ เขตเทศบาลบ้านโป่ง เมื่อไปถึงพบ นายบัญชา หรือ เจมส์ คล่องแคล่ว อายุ 29 ปี กำลังจะเคลื่อนย้ายรถ จยย. ที่ดัดแปลงเป็นรถพ่วงข้าง ออกจากสำนักงานป่าไม้ เพื่อจะเร่ไปขายในตลาดหอนาฬิกา

ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปพูดคุยและขอติดตามพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆบ้านโป่ง เพื่อขอเสนอการทำข่าว ซึ่งระหว่างทางบรรดาลูกค้าก็ออกมาดักรอเพื่อจะซื้อก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเขาได้ลงมือทำ ปรุง ด้วยความตั้งใจให้กับลูกค้าที่ยืนสั่งซื้อกันโดยมีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และสามารถขอเพิ่มเกี้ยวกรอบได้อีก ซึ่งก๋วยเตี๋ยวราคาเพียง 30 บาท พิเศษ 35 บาท

นายบัญชา หรือ เจมส์ เปิดเผยว่า ตนมาขายก๋วยเตี๋ยวได้ 6 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แผนกช่างคุมเครื่องจักร ส่วนที่ลาออกมาขายก๋วยเตี๋ยวก็คือเวลาทำงานไปจะเบื่อ เราอยากทำธุรกิจของตัวเอง พอดีอยู่ ๆ ก็นึกถึงก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาเพราะสมัยเด็ก ๆ เคยช่วยแม่ขาย แต่จริง ๆ ตนอยากจะลาออกจากงานสักอายุ 40 แต่คิดไปคิดมาถ้าเราเริ่มช้ากลัวจะไม่ทัน ตอนนี้เรามีทุนอยู่ก้อนหนึ่งและมีแรงเราก็ขายเลย

ตนจะออกขายตั้งแต่ 9 โมงเช้า จะออกขายแถว ๆ บ้านในตำบลปากแรต จากนั้นจะไปซอยมายเฮ้าส์ ร.9 ช่วงเที่ยงก็จะจอดตามโรงงาน ช่วงบ่ายก็จะวนอยู่ในตลาดบ้านโป่งและไปตลาดหุบกระทิง และกลับเข้าบ้าน สูตรน้ำซุป เราคิดเองเพราะด้วยเคยขายกับแม่ เราก็พอจะรู้วิธีการทำว่ามีอะไรบ้าง วัตถุดิบใส่อะไรบ้าง เริ่มขายก็ลองผิดลองถูกกัน อาศัยปรับปรุงตามลูกค้าบอกบ้าง ตอนนี้ลูกค้าโอเคกับรสชาติแล้ว

ตนเองก็จะรักษามาตรฐานให้อยู่คงที่ไว้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเราจะต้องเน้นเรื่องความสะอาดและวัตถุดิบจะต้องสดทุกวัน เราจะไม่ใช้ของค้าง พยายามขายให้หมด วันต่อวัน กลุ่มลูกค้าจะเป็นลูกค้าตามหมู่บ้านในช่วงเช้า ช่วงเที่ยงก็คนทำงาน คนโรงงาน และตามสถานที่ราชการ

ส่วนฉายาทรงสืบนั้น ช่วงขายใหม่ ๆ นั้น รถเรามันใหม่อุปกรณ์ใหม่ก็จะมีลูกค้าพวกเด็กวัยรุ่นแซว ประกอบกับตอนขายใหม่ ๆ ไว้ผมสั้นเหมือนตำรวจด้วยทำให้เด็กวัยรุ่นทักถามว่าพี่เป็นตำรวจปลอมตัวมาหรือเปล่า ซึ่งอุปกรณ์ทุกอย่างมันใหม่ มองไม่เหมือนรถก๋วยเตี๋ยวทั่วไป แต่บางคนก็เชื่อว่าตนเป็นตำรวจสืบราชการลับ

ส่วนที่มีลูกค้าแซวและตั้งฉายาตนอีก 1 ฉายาคือพ่อค้าหน้าหล่อ ก็คือลูกค้าจะแซวเล่นกัน แต่ตนก็รู้สึกดีนะเพราะเราจะได้เป็นกันเองกับลูกค้า เป็นการผูกมิตรกับลูกค้าด้วย สำหรับท่านใดที่อยากจะมาชิมก๋วยเตี๋ยวร้านตน ตนจะไม่จอดตลอด จะไปจอดตามจุดต่าง ๆ

380499

380497 0

380496 0

380495 0

380494 0

380492 0

380490 0

380489 0

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

เป็นความสัมพันธ์เพื่อนที่ถูกจับตามองว่าคืนดีกันหรือเปล่าระหว่าง เป้ย ปานวาด และ หนิง ปณิตา หลังมีเรื่องราวแคลงใจกันเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเป้ยเคยตอบว่า ยังรักและหวังดีกับหนิงเสมอ ขออยู่ห่างๆอย่างห่วงๆแบบนี้ดีที่สุดแล้ว

จนกระทั่งล่าสุด สาวหนิงได้เปิดใจผ่านสื่อ หลังเมย์ พิชญ์นาฏ กำลังทำหน้าที่กาวใจเพื่อนทั้ง 2 คน เผย ทุกอย่างแบบที่เป้ยตอบ เพื่อนยังไงก็เพื่อน ได้เจอหรือไม่เจอก็มีความห่วงใยกันตลอด ตอนเป้ยมีเรื่องตนก็ส่งความห่วงใยผ่านเมย์ไปให้ตลอด ส่วนตัวตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ยังไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา จะมีโมเมนต์ร่วมกันไหม ให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ ตนเป็นห่วงเขา เมื่อก่อนยังไงวันนี้ตนก็ยังคงเป็นแบบนั้นเสมอ ตนอยู่เดิมตลอด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

หนิง ปณิตา ตอบแบบนี้? หลังทุกคนลุ้นกลับมาคืนดี เป้ย ปานวาด

กลับบ้านเกิดตายายที่อังกฤษ ‘น้องเอลิเซีย’ วิ่งเก่งแล้ว

บินลัดฟ้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่ประเทศอังกฤษ สำหรับนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ล่าสุดได้พา น้องเอลิเซีย ไปสูดอากาศเย็นๆ ข้ามทวีปอีกครั้ง
โดย แพทริเซีย ได้อัปคลิปวิดีโอผ่านทางสตอรี่ไอจี ขณะที่ น้องเอลิเซีย วิ่งเล่นอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวขจี ท่ามกลางธรรมชาติที่อยู่รายล้อม มองตามแล้วสดชื่นสุดๆ
จากนั้น แพทริเซีย ยังได้เผยโมเมนต์สุดอบอุ่น เมื่อ น้องเอลิเซีย เดินจับมือกับคุณตาคุณยายเดินเล่นแถวบริเวณบ้านอย่างมีความสุข
เห็นแล้วแฟนๆ ต่างยิ้มให้กับความน่ารักของครอบครัวนี้ อีกทั้งยังขอชม น้องเอลิเซีย อีกด้วยว่า เผลอแป๊บเดียว หนูน้อยก็วิ่งได้เก่งและคล่อง จน แม่แพท แทบจะจับตัวไม่ทันแล้วจ้า

450267587 7669396149846208 4626895593892436876 n

452006831 18446186176030391 6973649970666377293 n

451721357 18446186167030391 5338208433376641883 n

451986639 18446186155030391 1230119703129753576 n

452018363 18446186143030391 6110288444774786073 n

1721450614303

1721450601706

449844087 1711443843005728 3251186353727614509 n

LINE ALBUM 1972024 240719 10

LINE ALBUM 1972024 240719 9

LINE ALBUM 1972024 240719 8

LINE ALBUM 1972024 240719 7

LINE ALBUM 1972024 240719 6

LINE ALBUM 1972024 240719 5

LINE ALBUM 1972024 240719 4

LINE ALBUM 1972024 240719 3

LINE ALBUM 1972024 240719 2

LINE ALBUM 1972024 240719 1

เตือนด่วน เงินดิจิทัล แลกเป็นเงินสด 10,000

โครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินดิจิตอล 1 ส.ค. 67 พร้อมออกโรงเตือนร้านค้าหรือประชาชน ที่ รับแลกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด เตรียมโดนสิทธิโครงการรัฐในอนาคตและถูกดำเนินคดีอาญา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้พัฒนาระบบชำระเงินกลางรองรับโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ซึ่งธนาคารพาณิชย์อยู่ระหว่างพัฒนาระบบทางเทคนิค เพื่อเชื่อมต่อกับระบบชำระเงินกลางของรัฐบาล

รมว.คลัง เตือนร้านค้าและประชาชนหาก รับแลกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเงินสด แทนการใช้จ่ายซื้อสินค้าที่กำหนด ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีความผิดและถูกดำเนินคดีทางอาญา รวมถึงตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการรัฐในอนาคต

โดยก่อนหน้านี้ พบพฤติกรรมการทุจริต โครงการคนละครึ่ง ด้วยการสแกนจ่ายคิวอาร์โค้ดร้านค้าในโครงการฯ เสมือนการซื้อขายสินค้าจริง แต่ผู้ประชาชนแลกรับเป็น “เงินสด” แทน โดยร้านค้า จะหัก % เอากำไร ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างดำเนินคดีและเรียกเงินคืนจากประชาชนและร้านค้ากลุ่มนี้มากกว่า 2,000 ราย

วิธีลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปฯ ทางรัฐ เริ่ม 1 ส.ค.67

1. ดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกสมัครสมาชิก

ทางรัฐ App Store(คลิก)

ทางรัฐ Google Play(คลิก)

2. สแกนบัตรประชาชน และใบหน้าของผู้ใช้งาน

3. ระบุบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเริ่มใช้งาน

4. ใช้งานบริการจากภาครัฐได้ทันที

คดีพลิก รู้แล้วสาเหตุ เด็กป.1 เสียชีวิต ที่แท้ไม่ได้ถูกทำโทษจนดับ เปิดยอดเงินที่โรงเรียน ช่วยเหลือ

จากกรณีที่เด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกครูลงโทษเพราะติดเครื่องหมายชุดลูกเสือมาโรงเรียนไม่ครบ สั่งวิ่งรอบสนาม 5 รอบ ซึ่งเด็กป่วยหืดหอบอยู่แล้ว ทำให้หายใจไม่ทัน ครูโทรตามผู้ปกครองมาที่โรงเรียน นำลูกส่งคลินิก ก่อนส่งต่อ รพ.อำเภอ แต่เด็กเสียชีวิตในที่สุด ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้า

ซึ่งต่อมา ครูประจำชั้น เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเด็กแต่งตัวติดเครื่องหมายชุดลูกเสือไม่ครบ จึงได้ทำโทษให้วิ่งหน้าแถว 3 รอบ ระหว่างทำโทษเด็กจึงรู้ว่าเด็กมีอาการผิดปกติ น้องบอกว่าหนูไม่ไหว ก็เลยถามว่าหนูไม่สบายใช่ไหม น้องบอกว่าครับ ไม่สบายก็เลยให้นั่งพักก่อน ส่วนตนเองก็มาสอนเด็กคนอื่นตามปกติ

สักพักหนึ่งหันไปเห็นน้องกำลังจะอาเจียน น้องบอกคุณครูโทรตามพ่อให้หน่อย ครูก็โทรหาพ่อให้บอกว่าน้องไม่สบายมารับน้องหน่อย แล้วให้น้องนอนพักรอพ่อ ไม่เกิน 5 นาที ครูไม่รู้ว่าน้องมีโรคประจำตัว รู้แต่ว่าไม่สบาย หยุดไปหลายวัน ช่วงเย็นตนจะนำพวงหรีดไปร่วมแสดงความเสียใจ และเป็นเจ้าภาพสวดศพ ทั้งนี้ คณะครู รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค. 67 หลังงานสวดอภิธรรมศพคืนแรก ผู้จัดการโรงเรียน ได้พูดคุยกับทางญาติถึงสาเหตุการเสียชีวิตโดยญาติให้ข้อมูลว่า น้องปอดติดเชื้อและสามารถเป็นได้ตลอดเวลา ซึ่งไม่เกี่ยวกับการถูกลงโทษ โดยทางโรงเรียนยินดีช่วยเหลือเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งทางญาติยอมรับและไม่ติดใจแต่อย่างใด

ลูก 4 ขวบแอบหยิบขนมในซุปเปอร์มาร์เก็ต พนง.ขอปรับเงิน 10 เท่า แต่แม่ ไม่ยอมจ่าย เหตุผลโดนใจทั้งโซเชียล

เรียกได้ว่าเป็นภาพที่ใครหลายคนเห็นชินตา ตามร้านสะดวกซื้อหรือว่าซุปเปอร์มาร์เก็ต เมื่อเวลาที่ครอบครัวพาลูกเล็ก ๆ มาซื้อสินค้าด้วย เด็กอาจคิดว่าสามารถเลือกสิ่งที่พวกเขาชอบได้อย่างอิสระ ไม่ได้มีแนวคิดเรื่องการใช้เงิน โดยคิดว่าพวกเขาสามารถหยิบอะไรก็ได้โดยไม่ต้องจ่าย นี่เป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับผู้ปกครอง ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้

โดยเรื่องนี้มีที่มาจาก สำนักข่าวต่างประเทศ tintuconline ได้มีการเผยเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่ง ที่พาลูกชายวัย 4 ขวบ ไปร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วงสุดสัปดาห์ เธอให้ลูกนั่งบนรถเข็นในระหว่างที่จับจ่ายซื้อของหลายอย่าง จนกระทั่งถึงเวลาชำระเงินที่แคชเชียร์เรียบร้อยแล้ว ในจังหวะที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก ก็มีเสียงสัญญาณที่ร้องแจ้งเตือนว่ามีของ ค้างชำระ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ตตรงเข้ามาตรวจสอบทันที โดยใช้วิธีเปรียบเทียบสิ่งของและใบเสร็จรับเงิน และพบว่าสินค้าทุกชิ้นถูกชำระเงินครบถ้วน จึงปล่อยให้เธอเดินผ่านเครื่องตรวจสอบอีกครั้ง คราวนี้เครื่องไม่ร้องแจ้งเตือนแล้ว ทุกคนคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของระบบที่ทำงานผิดพลาด แต่ในตอนที่ลูกชายเดินตามแม่ไปนั่นเอง เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เมื่อตรวจสอบ ปรากฎว่าลูกชายวัย 4 ขวบ หยิบช็อกโกแลตแท่งมาใส่ไว้ในกระเป๋าของตนเอง ผู้เป็นแม่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงไม่ได้นำออกมาชำระเงิน เธอจึงรีบขอโทษเจ้าหน้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ พร้อมกับบอกว่า เธอจะจ่ายค่าขนมแท่งที่ลูกชายของเธอหยิบมา อีกทั้งยังสอนให้ลูกชายขอโทษทุกคนด้วย แต่ผลที่ตามมาก็คือ ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตตัดสินใจจะปรับเงินเธอและลูกเป็นจำนวน 10 เท่าของมูลค่าช็อกโกแลตแท่งนั้น

เมื่อเห็นทัศนคติของเจ้าหน้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นเช่นนั้น คุณแม่จึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ลูกไม่มีความรู้เรื่องเงิน ถือเป็นความผิดพลาดทางการสอนของฉัน ฉันสามารถชดเชยตามราคาของผลิตภัณฑ์ได้ แต่ยอมรับไม่ได้กับการปรับ 10 เท่า ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่มีสิทธิ์กำหนดมาตรการเช่นนี้ หากคุณไม่ว่าอะไรก็สามารถแจ้งตำรวจเพื่อจัดการเรื่องนี้ได้

อย่างไรก็ตาม คำตอบของคุณแม่ทำให้คนรอบข้างชื่นชม ส่วนใหญ่มองว่าคำพูดของเธอนั้นสมเหตุสมผล วิธีการนี้สมควรได้รับการยกย่อง เพราะมันมีคุณค่าทั้งในการให้ความรู้แก่เด็กๆ และให้เกียรติ เพื่อปกป้องความภาคภูมิใจในตนเองของเด็กด้วย ท้ายที่สุด พนักงานซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ต้องคิดเงินตามมูลค่าของช็อกโกแลตแท่งนั้น แล้วปล่อยให้แม่และเด็กกลับบ้านไปตามระเบียบ

ทั้งนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นเรื่องราวข้างต้น สิ่งแรกที่พ่อแม่ควรทำคือปกป้องลูก ยอมรับความผิดพลาด ช่วยเด็ก ๆ ขจัดแนวคิดเรื่องการขโมย และพูดคุยทำความเข้าใจกับคู่กรณีว่า เด็กไม่อยากขโมย เขาแค่ไม่ได้รับการสอนเรื่องเงินจากฉัน พร้อมสัญญาว่าจะให้ความรู้แก่ลูกให้ดีขึ้นในอนาคต จากนั้นต้องให้เด็กขอโทษด้วย

‘เอก สายเต๊าะ’ คอตกนอนคุก ตร.หิ้วฝากขังพรุ่งนี้ เร่งหาหลักฐาน แจ้งข้อหาเพิ่ม

ตำรวจหิ้ว ‘เอก สายเต๊าะ’ นอนคุก ฝากขังพรุ่งนี้ เผยตำรวจทุกนายอยากจะลุย แต่บางครั้งติดเรื่องข้อกฎหมาย ทำให้ไม่ทันใจชาวบ้าน ขอให้อดใจรอ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2567 ที่สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รองผกก.สืบสวน.สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายเอกรัฐ หรือ “เอก สายเต๊าะ” อายุ 41 ปี ให้การปฏิเสธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาจะให้การ โดยตำรวจเองจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติก่อนหน้านี้ที่ถูกดำเนินคดี และข้อมูลจากชาวบ้าน

โดยยืนยันว่าจะดำเนินการทุกมิติและรอบคอบอย่างถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้จากการตรวจค้นบ้านของนายเอก พบสิ่งเทียมอาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ นอกจากนี้บริเวณรั้วบ้านยังพบกระเป๋าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ที่นายเอกใช้อาวุธมีดยาวไปชิงทรัพย์เมื่อล่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด ซึ่งตำรวจก็ได้ตรวจยึดอาวุธมีดใช้ก่อเหตุเอาไว้แล้วด้วย เบื้องต้นการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ส่วนการตรวจจิตเวชแพทย์วินิจฉัยว่าไม่ว่ามีอาการทางจิต

พ.ต.ท.อำนาจ กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวนายเอกไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ โดยในสำนวนตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องบรรยายพฤติการณ์ และประวัติการกระทำความผิดของนายเอกที่พบว่ามีการกระทำความก่อนหน้านี้

โดยจะบรรยายในเรื่องของพฤติกรรมเพื่อให้ศาลพิจารณาเรื่องของความรุนแรงและมีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง เชื่อว่าจะมีผลในการพิจารณาของศาลอย่างแน่นอน เพราะอัตราโทษของผู้ที่เคยกระทำความผิด

หากพบว่ามีการประทำความผิดซ้ำ ศาลจะหยิบยกมาให้ความสำคัญในการพิจารณา ส่วนการดำเนินการตามกฏหมายอาญาตามมาตรา39 ห้ามเข้าเขตกำหนดหรือควบคุมตัวในกรณีจำเลยกระทำตัวเป็นอันตรายต่อสังคม และมาตรา45 ศาลสั่งห้ามจำเลยเข้าเขตที่กำหนดไม่เกิน5ปี ทางตำรวจก็จะมีการบรรยายไปในสำนวน แต่จะมีการบังคับใช้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

พ.ต.ท.อำนาจ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อหาอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่น ๆ มาประกอบให้รอบด้านเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยตำรวจเข้าใจความรู้สึกและความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างดี แต่การดำเนินคดีจะต้องขึ้นอยู่กับกรอบของกฎหมาย

ทั้งนี้ตำรวจทุกนายอยากจะลุย แต่บางครั้งติดเรื่องข้อกฎหมายทำให้ไม่ทันใจชาวบ้าน ขอให้อดใจรอ ส่วนการไลฟ์สดโชว์อาวุธปืนและก่อความเดือดร้อนรำคาญเดินไปมาในหมู่บ้านนั้น ขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้วและจะต้องมีการถอดถ้อยคำจากคลิปวิดีโอไลฟ์สด เพื่อดูว่าเข้าข่ายว่าการกระทำผิดกฎหมายข้อใดบ้าง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด โดยนายเอกขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ถูกนำตัวส่งห้องขัง โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เตรียมนำตัวส่งศาลอาญารัชดาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แอฟ ทักษอร เปิดใจ หลัง ลูกสาว เขียนข้อความยาวถึง นนกุล

เป็นอีกหนึ่งคู่ที่แฟน ๆ ต่างลุ้นเชียร์ให้ใช้สถานะคำว่า แฟน สักที สำหรับนางเอกสาว แอฟ ทักษอร และนักแสดงหนุ่มรุ่นน้อง นนกุล ชานน ที่มักจะมีโมเมนต์หวาน ๆ อวดแฟน ๆ อยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง แอฟ-น้องปีใหม่ และครอบครัว ได้ไปเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขาไปมี นนกุล เดินทางไปส่งที่สนามบินอีกด้วย ล่าสุด แอฟ ได้ออกมาเล่าโมเมนต์ของลูกสาว น้องปีใหม่ หลังส่งข้อความยาวเหยียดถึง นนกุล ขณะไปเที่ยวทริปต่าประเทศเอาไว้ว่า

X

น้องปีใหม่ เขาทั้งโทรทั้งไลน์ บอกว่าวันนี้ไปทำอะไรมา เขาใช้แชทของ แอฟ นี่แหละ เพราะ แอฟ ไม่ได้ให้เขามีมือถือ นน เขาก็รู้ว่าไม่ใช่ข้อความจากเรา เพราะปกติ แอฟ จะเขียนสั้นมาก แค่ประโยคเดียว แต่ ปี เขามาเป็นเรียงความเลย ว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง ไปเที่ยวไหนบ้าง เล่าเหมือนเขียนเป็นไดอารี่

ข่าวลือเป็นจริง ดาราสาวยื่นฟ้องหย่าสามีปิดฉากชีวิตคู่ 7 ปี แม้มีลูกด้วยกัน 2คน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่โลกออนไลน์เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก หลังสื่อต่างประเทศได้เผยแพร่เรื่องราวของา เชลซี ลาซคานี่ (Chelsea Lazkani) ดาราสาวจากซีรีส์ Selling Sunset

ได้ยุติชีวิตคู่กับสามีเป็นที่เรียบร้อยเเล้วหลังจากใช้ชีวิตด้วยกันมานานถึง 7 ปี ตามรายงานเผยว่า เชลซี ได้ยื่นฟ้องหย่าสามีเเละอ้างถึงความเเตกต่างของชีวิตคู่ที่เป็นเหตุที่ทำให้ต้องเเยกทางกัน

เชลซี เเละสามีของเธอมีลูกด้วยกันสองคนคือ เมเลีย วัย 3 ขวบ และแมดด็อกซ์ วัย 5 ขวบ โดยในเอกสารการหย่าร้างทั้งคู่ตกลงกันว่าจะยังช่วยกันดูเเลลูกต่อไป เเม้ว่าจะเปลี่ยนสถานะเเต่ยังคงทำหน้าที่พ่อเเม่ที่ดีให้เด็กๆ

Popular Posts

My Favorites

พ่อร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า สูญเงิน 8.7 ล้าน

0
พ่อจาก จ.แพร่ ร้องสายไหมต้องรอด โมเดลลิ่งเก๊ อ้างพาลูกถ่ายโฆษณา คู่ ลิซ่า หลงเชื่อโอนเงินไป 42 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8.7 ล้านบาท วันที่ 30 ก.ค.2567 นายที (นามสมมุติ) เดินทางมาจากจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด หลังถูกโมเดลลิ่งเก๊หลอกโอนเงินหลักล้านบาท ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ภรรยาของตนรู้จักกับน.ส.น้ำผึ้ง ผ่านทาง facebook...