หนุ่มใหญ่แค่เจ็บคอ ช็อกกลายเป็น มะเร็ง ระยะสุดท้าย โกรธจัดโยน 2 ต้นเหตุ ในครัวทิ้ง (ตปท.)
ชายชื่อ จาง อายุ 63 ปี จากไต้หวัน มีอาการเจ็บคอ เจ้าตัวคาดว่าน่าจะมาจากการพูดเยอะตามอาชีพของเขา หรือจากอากาศที่เย็นลง แต่เมื่ออาการเริ่มรุนแรงขึ้นจนทำให้เขากินอาหารลำบากและน้ำหนักลดมาก เขาจึงตัดสินใจไปหาหมอ ในตอนแรกเขาไปพบแพทย์ที่แผนกหูคอจมูก แต่แพทย์สงสัยและส่งต่อเขาไปที่แผนกทางเดินอาหาร หลังจากตรวจสอบจึงพบว่าอาการปวดคอที่เขาคิดว่าเป็นผลจากการพูดเยอะ แท้จริงกลายเป็นอาการของมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย ที่มีการแพร่กระจายไปหลายส่วนแล้ว เมื่อได้รับข่าวร้าย เขาตกใจมากจนไม่อยากเชื่อว่าการวินิจฉัยของแพทย์จะถูกต้อง จนกระทั่งได้ฟังคำอธิบายอย่างละเอียดเขาถึงได้ยอมรับ และกลับบ้านโยน “เกลือและผักดอง ทิ้งจากห้องครัวทันที เนื่องจากอาหารเหล่านี้เป็นสาเหตุของโรคร้ายที่กำลังเผชิญ แพทย์อธิบายว่า การกินเกลือและผักดองมากเกินไป เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยการรับประทานเกลือในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและอาจกลายเป็นมะเร็งได้นอกจากนี้ การรับประทานผักดองที่ยังไม่หมักอย่างเหมาะสม ก็ทำให้เกิดสารเคมีที่ก่อมะเร็งที่เรียกว่า ไนโตรซามีน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรระวังอาการต่างๆ เช่น เจ็บท้องส่วนบน คลื่นไส้ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องอืด การถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ มีกลิ่นปากผิดปกติ หากพบอาการเหล่านี้ ควรไปพบหมอเพื่อการตรวจสอบทันที
รู้จัก สารวัตรบีบี ตำรวจสาวสวยมากฝีมือ ดีกรีไม่ธรรมดา จับตารักใหม่ ว่าน ธนกฤต
แฟน ๆ แห่จับตาความสัมพันธ์ของนักร้องเสียงดี ‘ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์’ เมื่อเจ้าตัวโพสต์หวานต้อนรับเทศกาลแห่งความรักช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ทั้งภาพช่อดอกไม้ช่อโตและกล่องของขวัญพร้อมแคปชั่น ‘สารพัดของกุ๊กกิ๊ก :)’ ป่านอินสตาแกรมส่วนตัว wan_soloist แต่ที่ทำเอาฮือฮา คือ การแท็กอินสตาแกรมของหญิงสาวคนหนึ่ง หลายคนต่างคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่า เธอคนนี้คือหวานใจคนใหม่หรือไม่ งานนี้เลยขอพาไปทำความรู้จักกับสาวคนดังกล่าว เพราะเธอนั้นทั้งสวย เก่ง แถมยังโปรไฟล์ดีแบบสุด ๆ ซึ่งเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘สารวัตรบีบี’ ตำรวจสาวคนดังที่เคยเป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง สำหรับ พ.ต.ต. หญิง ศรัญญา วิริยะ หรือ สารวัตรบีบี ตำรวจสาวโปรไฟล์เริ่ด จบการศึกษาจากโรงเรียนราชินี จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความเพียรพยายาม เธอเป็นถึงนักศึกษาดีกรีปริญญาโทสาขา Master of Science Management & Marketing จาก Birmingham City University ประเทศอังกฤษ จากนั้น บีบีเข้ารับราชการเป็นนักเรียนอบรมกอส. รุ่น 38 โดยเป็นคณะกรรมการของรุ่น และสำเร็จการอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 99 นอกจากรับมอบหมายงานในอาชีพตำรวจ แล้วเธอยังมีความสามารถมากมาย ด้านครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ค้าขายที่ดิน...
แฟนๆสุดห่วง หลังเห็นภาพล่าสุดของ ซุปตาร์สาว
กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง สำหรับ เรื่องรูปร่างของนักร้อง-นักแสดงสาวมากความสามารถทางฝั่งฮอลลีวูด อย่าง “อารีอานา กรานเด” (Ariana Grande) ที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย หลัง ปรากฏตัวในงาน BAFTA Film Awards พร้อมลายเซ็นให้แฟนๆ เพราะสิ่งที่สะดุดตาแฟนๆกลับเป็นรูปร่างที่ดูผอมลงกว่าเดิม จนเกิดการแสดงความคิดเห็นทางฝั่งอินเตอร์รัวๆเลยว่า “ฉันแค่หวังว่าเธอจะโอเค เพราะถ้าฉันต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธอและมีคนมาพูดถึงร่างกายของฉันตลอดเวลาแบบนี้ ฉันคงไม่ไหวแน่ๆ” “ทุกครั้งที่ฉันเห็นภาพใหม่ๆ ฉันก็ตกใจซ้ำไปซ้ำมา” “มันน่าเศร้าที่ต้องเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น” ในขณะที่อีกหลายคอมเมนต์ก็มองว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล และก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เคยขอไปแล้วเรื่องการแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ และยังเคยบอกอีกว่า “มีตั้งหลายวิธีให้คุณชื่นชมผู้อื่น หรือมองผ่านสิ่งที่คุณเห็นแล้วคุณไม่ชอบได้ และฉันคิดว่าเราควรช่วยกันผลักดันสิ่งนี้” “คุณไม่รู้หรอกว่าใครผ่านอะไรมาบ้าง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณจะมีเจตนาที่ดีก็ตาม แต่คนคนนั้นอาจจะกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ ขอให้อ่อนโยนต่อผู้อื่นและต่อตัวคุณเองด้วยค่ะ” เอาเป็นว่ายังไงก็ขอส่งกำลังใจให้ อารีอานา ด้วยนะคะ และขอให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ขอบคุณข้อมูล : gettyimages , threads
ลูกเตือนไม่ฟัง “ป้า64” เจอหลอกให้รัก โอนจนเหลือ 3บาท เชื่อเค้ามีตัวตนจริง
ป้าวัย64 ร้องสายไหมต้องรอด ชายอ้างตัวเป็นชาวต่างชาติ หลอกคุณยายโอนเงินค่าประกันตัว กว่า4 แสนบาท ป้ากุ้งเล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีชายคนหนึ่งทักมาในเฟซบุ๊ก แนะนำตัวว่าชื่อมาร์ค อายุ 58 ปี เป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พูดคุยกันไปมาจนสนิทและเริ่มพัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบคนรัก ต่อมาเดือนพฤศจิกายน มาร์คบอกว่าจะส่งเงินมาให้ 25,000 ดอลลาร์ พร้อมเครื่องประดับเพชร สร้อยคอ แหวน นาฬิกา แต่เนื่องจากไม่มีบัญชีธนาคารจึงต้องส่งพัสดุผ่านไปรษณีย์ไทย เมื่อของมาถึงประเทศไทย ป้ากุ้งได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ จะต้องเสียค่าภาษีพัสดุจำนวน 3,000 บาท แต่พอจ่ายไปแล้ว กลับถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 7,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงินมาร์คจึงช่วยออกให้ 3,000 บาท และให้ป้ากุ้งจ่ายเพิ่ม 4,000 บาท แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น พัสดุกลับถูกอายัดต่อที่กรมศุลกากรอ้างว่าเป็นเครื่องประดับมีค่า ต้องเสียภาษีเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท ป้ากุ้งจ่ายไปเรื่อย ๆ รวมแล้ว 200,000 บาท โดยที่ตัวเองจ่ายไป 40,000 บาท และมาร์คช่วยจ่าย 160,000 บาท แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ของ เพราะอ้างว่ายังติดขั้นตอนเซ็นเอกสารจากตัวมาร์คเอง จากนั้นถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน มาร์คอ้างว่าจะบินมาไทยเพื่อมาจัดการเรื่องพัสดุ แต่หลังจากเดินทางมาถึง กลับบอกว่าถูกตำรวจจับ และต้องการเงินไถ่ตัว ตอนแรกเรียก...
น้ำตาซึม หญิงสูญเสียลูกสาว ศพอยู่กทม.ไม่มีเงิน กู้ภัยอาสาไปรับให้ฟรี พาร่างกลับบุรีรัมย์
น้ำตาซึม หญิงสูญเสียพี่ชายได้เพียง2วัน ลูกสาวตัวเองเสียชีวิตตาม แต่ศพอยู่กรุงเทพฯไม่มีเงินค่ารถ ร่ำไห้ขอบคุณกู้ภัย อาสาไปรับโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พาศพลูกกลับบุรีรัมย์ วันที่ 19 ก.พ. 68 กรณีหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ โพสต์คลิป นางสร้อย โพดจะโป๊ะ อายุ 49 ปี ชาว ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ที่ร้องไห้ หลังจากหน่วยกู้ภัยสยามฯที่ไปให้ความช่วยเหลือนำร่างที่ไร้วิญญาณของลูกสาวที่ไปเสียชีวิตที่กรุงเทพฯกลับมาบ้านเกิด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความเสียใจ และชื่นชมหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์เป็นจำนวนมาก จากการสอบถามทราบว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. พี่ชายของนางสร้อย ได้เสียชีวิต และมีจัดงานศพที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตอนนั้นลูกสาวที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ กลับมาร่วมงานศพของลุงด้วย หลังจากจัดงานศพเสร็จเรียบร้อย ลูกสาวนางสร้อย เดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. นางสร้อย ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลตำรวจว่าลูกสาวที่เพิ่งกลับไปทำงานเสียชีวิตแล้วที่บ้านพัก นายวรบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ กล่าวว่า หลังทราบข่าวจากชาวบ้าน จึงไปพบนางสร้อย ว่าจะให้ช่วยอย่างไรบ้าง นางสร้อยบอกว่า อยากจะเอาศพกลับมาที่บุรีรัมย์ แต่ไม่มีเงินค่ารถไปรับ หน่วยกู้ภัยจึงอาสาไปรับศพที่โรงพยาบาลตำรวจ กลับมาบ้านเกิดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยหลังจากกลับมาถึงหน่วยกู้ภัยฯจึงมอบโลงศพให้จัดงานอีก ส่วนเงิน 1,000 บาทที่นางสร้อยมอบให้เป็นค่ารถ...
ขนม ศศิกานต์ โพสต์ล่าสุด ทำ ครูเต้ย โผล่คอมเมนต์ทันที
แม้ว่าจะเลิกรากันไปแต่นักร้องหนุ่ม ครูเต้ย อภิวัฒน์ และอดีตภรรยา ขนม ศศิกานต์ ก็ยังคงทำหน้าที่พ่อและพ่อให้กับลูกๆทั้งสอง น้องตั้งใจ และ น้องเติมเต็ม เรื่อยมาซึ่งถ้าใครที่ติดตามขนมก็จะเห็นได้ว่าเธอนั้นเป็นคุณแม่ที่กลับมามีหุ่นเป๊ะได้อย่างรวดเร็ว ผิวพรรณสวยใสออร่าสุดๆ จนทำเอาหลายคนต่างก็เข้ามาชมในความดูแลตัวเองของคุณแม่ พร้อมกับถามถึงเคล็ดลับความสวยกันมากมายเลยทีเดียว และถึงจะเป็นคุณแม่ลูก 2 แต่ขนมก็ยังไลฟ์สดขายของทำงานหาเงินควบคู่กันไปด้วย ทำให้แฟนคลับต่างก็เอ็นดูในความน่ารัก และความขยันของขนมกันมากมาย แถมเธอยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับหลายแบรนด์ ด้วย ทั้งสวยทั้งขยันแบบนี้ไม่แปลกใจเลยค่า ว่าทำไมแฟนๆถึงได้รักและซัพพอร์ตสาวขนมกันขนาดนี้ ล่าสุด ขนม ได้โพสต์ภาพความน่ารักลูกชาย น้องเติมเต็ม พร้อมลงแคปชั่นว่า “ออกจากท้องก็หล่อเลยงง 🤭🤣#babytermtem” ซึ่งต่อมาทางด้านอดีตสามี ครูเต้ย อภิวัฒน์ ยังเข้ามาคอมเมนต์ พร้อมแปะภาพตัวเองทาหน้าขาวในวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ระบุข้อความว่า “หล่อได่พ่อ (ใส่อิโมจิหัวใจสีแดง)” งานนี้ทำเอาชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ต่อในข้อความของครูเต้ยกันเพียบ เห็นภาพความน่ารักของลูกชายปุ๊บเข้ามาคอมเมนต์ทันทีเลยค่า ขอบคุณข้อมูล: Kanom Sasikarn
พ่อเลี้ยงขืนใจลูก 10 ขวบ ใช้ไม้แหย่ ตะโกนลั่นประโยคเด็ดถึงเมีย หลังถูกจับ ทำเอาหลายคนถึงกับสงสัย
มีเรื่องให้ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องกับกรณีของ ด.ญ. 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่แม่ของเด็กได้ออกมาร้องเรียนว่า ลูกสาวถูกชาย 3 คน ลวงไปกระทำชำเรา จนได้รับบาดเจ็บบริเวณทวารหนัก ลำไส้ทะลุ ต้องเข้ารับการรักษาและผ่าตัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ทว่าจากหลักฐานและให้คำการของคนรอบข้าง ยังมีความขัดแย้งกันในบางส่วน และจากตรวจสอบวงจรปิดไม่พบว่ามีชาย 3 คน มาที่บริเวณโรงเรียนแต่อย่างใด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ พ่อเลี้ยงของเด็ก เนื่องจากตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ แล้วเชื่อได้ว่า เหตุไม่ได้เกิดบริเวณโรงเรียน แต่เกิดหลังจากนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เด็กอยู่กับพ่อเลี้ยงตามลำพัง ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณ์ มีสุข ผกก.สภ.หนองใหญ่ ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่ รพ. พร้อมเก็บดีเอ็นเอและตรวจสารต่างๆ ก่อนจะนำตัวกลับมาควบคุมยังห้องขังของโรงพัก เพื่อรอการฝากขังที่ศาลจังหวัดชลบุรีในเวลา 13:00 น. ทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวต่อศาล โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ก่อเหตุจะมายุ่งเหยิงกับรูปคดี และกลัวว่าจะหลบหนี ด้าน ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ที่ได้เข้าช่วยเหลือในเคสนี้ได้โพสต์เกี่ยวกับคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี 1 โพสต์ที่น่าสนใจคือ พ่อพยายามบอกนักข่าวว่า...
อ.ปานเทพ ตัดสินใจ โพสต์ถึงคนใกล้ชิด แตงโม นิดา
เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีของ แตงโม นิดา เลยค่ะ สำหรับ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ซึ่งคดีของ แตงโม นั้นก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่ายังมีอีกหลายคนที่ให้ความสนใจ และติดตามข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมานั้น อาจารย์ปานเทพ ก็มักจะออกมาเปิดเผยหลักฐานต่างๆ อย่างก่อนหน้านี้ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความแผนผัง คดีแตงโม พร้อมระบุ “แจ้งปรับปรุงแผนภูมิครั้งที่ 1 ปรับปรุงแผนภูมิเส้นเวลาคดีแตงโม มีการปรับปรุงเรื่องสถานะภาพความน่าเชื่อถือของการโทรเข้ามือถือของฮิปโปด้วย Line ส่งหลักฐานแล้ว และปรับปรุงเวลาเครื่องโทรศัพท์แตงโมตอบ IG แอนนาเปลี่ยนจาก 21.56 น. เป็น 22.21 น. จึงเรียนมาเพื่อทราบ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 19 กุมภาพันธ์ 2568″ ซึ่งต่อมาทาง อาจารย์ปานเทพ ได้โพสต์ภาพการ์ตูนเพื่อประโยชน์ในทางวิชาการใช้สำหรับนำเสนอต่อสื่อมวลชนและความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนมาโพสต์ล่าสุดของวันนี้ (19ก.พ.68) ที่ อาจารย์ปานเทพ ได้ตัดสินใจโพสต์ถามตรงๆถึงคนใกล้ชิด แตงโม โดยระบุว่า “ไหนว่ารักแตงโม ทำไมหลายคนที่ใกล้ชิดกลับเงียบสนิท?” ชาวเน็ตคอมเมนต์กันรัวๆเลยว่า สงสารแตงโม คนสนิทแต่ละคนช่วยอะไรไม่ได้ น่ากลัวทั้งนั้น , อาจารย์คือกระบอกเสียงของประชาชน สู้ๆนะครับอาจารย์ , จริงค่ะ หลายคนเงียบ หายเลยค่ะ โพสต์นี้ทำเอาสะเทือนไปทั้งบางเลยทีเดียวค่ะ ชาวเน็ตก็แห่กดไลค์กดแชร์กันสนั่นเลย ขอบคุณข้อมูล : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
อย่ามาขัดขวางความรัก ป้ากุ้ง เล่นเฟสบุ๊ค พบรักกับน้องมาร์ค ลูกหลานเตือนไม่ฟัง ตัดสินใจโอนเงินให้หมดตัว ตอนนี้เหลือ 3 บ.
วันนี้ 19 ก.พ.68 ป้าวัย 61 ปี เดินทางมาร้องสายไหมต้องรอด เล่าว่า เธอคบหาแฟนหนุ่มต่างชาติ รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กมานานประมาณ 4 เดือน พูดคุยกันถูกคอ แฟนหนุ่มจึงตัดสินใจเดินทางมาหาที่ประเทศไทย แต่ถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถูกปล่อยมา ยายต้องโอนเงินไปจ่ายค่าปรับทุกวันรวมๆแล้วเกือบ 4 แสนบาท ต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่าย ลูกๆเตือนยายว่าถูกหลอกยายก็ไม่เชื่อ บอกว่าไม่จริง ไม่ได้ถูกหลอก อย่ามาขัดขวางความรัก วันนี้ยายเหลือเงินติดตัว 100 กว่าบาท หมดตัว แต่ยังเชื่อว่าแฟนหนุ่มถูกจับอยู่ที่สนามบินจริงๆ นางณัฐหทัย หรือ ป้ากุ้ง อายุ 61 ปี เข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกมิจฉาชีพออนไลน์ใช้มุก หลอกให้รัก ก่อนอ้างว่าถูกตำรวจไทยจับเป็นตัวประกัน จนต้องโอนเงินช่วยเหลือไปกว่า 400,000 บาท แต่ปัจจุบันป้ากุ้ง ยังเชื่อว่าชายคนนั้นมีตัวตนจริง โดยป้ากุ้ง เล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2567 มีชายคนหนึ่งทักมาในเฟซบุ๊ก แนะนำตัวว่าชื่อมาร์ค อายุ 58 ปี เป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พูดคุยกันไปมาจนสนิทและเริ่มพัฒนาเป็นความสัมพันธ์แบบคนรัก ต่อมาเดือนพฤศจิกายน มาร์คบอกว่าจะส่งเงินมาให้ 25,000 ดอลลาร์...
เผยผลตรวจ พยาบาลถูกตบหน้า ยังเครียด นอนไม่กลับ คาดใช้เวลารักษากว่า 2 สัปดาห์
เผยผลตรวจ พยาบาลถูกตบหน้า แก้วหูอักเสบ มีปัญหาการได้ยิน ปวดคอ เครียดนอนไม่กลับ คาดใช้เวลารักษากว่า 2 สัปดาห์ เพื่อนพยาบาลเล่านาทีเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.68 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง พร้อมด้วยพยาบาลห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน (ICU) รพ.ระยอง มาให้ข้อมูลเกี่ยวญาติผู้ป่วย ตบพยาบาลระหว่างที่เข้าไปแจ้งเตือนไม่ให้นำเด็กเล็กเข้าไปในห้อง ICU เนื่องจาก เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดการติดเชื้อในเด็กเล็กอันตรายถึงกับชีวิต นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากการรับฟังเหตุการณ์ประกอบกับภาพวิดีโอกล้องวงจรปิด พบว่ากลุ่มญาติมากัน 5 คน มีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย พยาบาลเข้าไปเตือนญาติผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A อาการรุนแรง โดยเป็นการเข้าไปเตือนด้วยความหวังดี ไม่อยากให้นำเด็กอายุน้อยๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายเข้าไปในพื้นที่ห้องไอซียู ซึ่งถือเป็นพื้นที่ควบคุมไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ ต้องได้รับการอนุญาตก่อน เตือนครั้งแรกถือว่าเข้าใจกันก็ออกไป จากนั้นถึงเวลาอนุญาตให้เยี่ยมอีกครั้ง ภรรยากลับเข้ามาพร้อมเด็กเล็ก พยาบาลจึงยืนยันอีกครั้งว่าไม่อยากให้เด็กเข้ามา เพราะผู้ป่วยติดเชื้อลงปอด เด็กเสี่ยงติดเชื้อเสี่ยงเกิดการสูญเสียอีกได้ ซึ่งน้องพยาบาลพูดตามหลักวิชาการ พูดตรงไปตรงมา อาจจะสื่อสารคำพูดไม่เข้าใจกันได้ แต่สาระสำคัญของการสื่อสารคืออาการรุนแรง ดังนั้นฟังแล้วพยาบาลหวังดี...