ชื่นชม อดีตคู่รัก เลิกกันแล้ว ไม่โกรธไม่เกลียด ยังเป็นเพื่อนกันได้
เคยเป็นอดีตคู่รักที่หลายคนชื่นชอบมาก สำหรับ แพรว คณิตกุล เนตรบุตร กับ ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์ แต่สุดท้ายมีเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเลิกกัน แต่ถึงแม้จะเลิกกันไปก็ยังมีความรัก ความหวังดีแบบเพื่อนให้กันเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุที่ต้องจบความสัมพันธ์หลังจาก คบหาดูใจกันมานานกว่า 5 ปี แพรว คณิตกุล ก็ได้เคยออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเธอยอมรับว่า สาเหตุหลักเป็นเพราะทั้งคู่มีเส้นทางที่ไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอและอดีตแฟนหนุ่มอย่าง ฟรอยด์ ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ แม้สถานะจะไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ล่าสุด ฟรอยด์ ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ 7030 PODCAST EP.2 และได้เล่าเรื่องความรักว่า “ผม กับ แพรว เป็นความสัมพันธ์ที่ดี เราจบกันได้ดีมาก หลังเลิกกับ แพรว ก็มีหลายคนที่เข้ามาในชีวิตผม แพรว ก็ยังให้คำปรึกษา นี่คือสิ่งที่ได้มากกว่าการแค่เป็นแฟนกัน มันมากกว่าครอบครัว มันคือความสัมพันธ์ ที่เป็นเพื่อน แพรว ก็มีแฟนแล้ว แต่เราก็ไม่เคยลืมช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยมี สิ่งดี ๆ ในชีวิตเรามีเยอะมาก เราเลือกจำแต่สิ่งดี ๆ เขาทำให้ผมโตขึ้น มาเป็น ฟรอยด์ ในทุกวันนี้ได้ ต้องขอบคุณ แพรว”
“กินเจลหล่อลื่น” แล้วจะส่งผลอะไรกับร่างกาย หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
"กินเจลหล่อลื่น" ได้หรือไม่ หลังมีคลิป "แบงค์ เลสเตอร์ กินเจลหล่อลื่น" โดยล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า กันจอมพลังถามในไลฟ์ ตอนไปร่วมงานศพแบงค์เลสเตอร์ว่าเจลหล่อลื่นมันกินได้เหรอ ทำไมถึงไปให้แบงค์กิน ตามหลักอธิบาย เจลหล่อลื่นหลักๆที่ใช้กันในท้องตลาดจะมีสามชนิด คือแบบที่เป็นน้ำมัน น้ำ และซิลิโคน ซึ่งโดยปกติแล้วพวกนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้อย่าง ปลอดภัย หากมีการกลืนลงปากเล็กน้อยโดยไม่ได้เจตนาก็มักจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีการกลืนเจลบางชนิดเข้าไปในจำนวนเยอะเยอะเช่นเจลที่ทำจากน้ำมัน ก็จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ และในปัจจุบันเจลหล่อลื่นพวกนี้บางชนิดจะมีการใส่ยาชาลงไป เช่น lidocaine เพื่อให้เวลามีเพศสัมพันธ์แล้ว กระปู๋รู้สึกชาจะได้แตกช้าลง ซึ่งยาชาตัวนี้ หากมีการเอาเจลที่ผสมยาตัวนี้ไปใช้ผิดวิธี เช่นเอาไปกินทีละเยอะเยอะ ก็จะมีอาการชาตั้งแต่ปากไปจนถึงหลอดอาหาร และหากกินเข้าไปเยอะเยอะก็อาจดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่นปวดหัวมึนหัว คลื่นไส้อาเจียน ชัก หมดสติ และหัวใจหยุดเต้นครับ
ไบรท์ เผยคำพูด โต๋ ที่ชนะใจตลอดกาล ตัดสินใจเซย์เยสใช้ชีวิตคู่
ครบ 4 ปีแล้วกับโมเมนต์ที่นักร้องหนุ่ม โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ทำเซอร์ไพรส์ขอผู้ประกาศข่าวสาว ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ แต่งงานกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เมื่อ 25 ธ.ค. 2563 ล่าสุด ไบรท์ พิชญทัฬห์ ได้ย้อนเล่าความทรงจำดี ๆ และคำพูด ของ โต๋ ที่ชนะใจมาตลอดเลย โดยระบุข้อความว่า “25 Dec. 2020 “พิงมาที่เราได้เสมอนะ” ประโยคนี้ชนะใจตลอดกาล ขอบคุณที่มั่นคง และเป็นเซฟโซนให้กันและกันเสมอมานะคะ วันคริสต์มาสที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป” ด้าน หนุ่มโต๋ ยังเข้ามาคอมเมนต์อีกด้วยว่า “Until we’re grey & old ka” ท่ามกลางคนในวงการและแฟน ๆ เข้ามาชื่นชมในความน่ารักของทั้งคู่กันมากมาย เช่น – เป็นคู่ในดวงใจเลยค่ะ – รักคู่นี้ที่สุด – ยังจำวันนั้นได้เลยนะ ซึ้งน้ำตาไหล – น่ารักที่สุด รักกันตลอดไปนะคะ – คริสต์มาสทีไรนึกถึงวันนี้ตลอดเลยค่ะ พี่โต๋ พี่ไบรท์ คู่รักตัวอย่าง – ยิ้มตามเลยค่ะ น่ารักมาก ๆ –...
กัน จอมพลัง พร้อมช่วย โพสต์ความรู้สึก หลังรู้ข่าว แบงค์ เลสเตอร์
จากกรณีที่มีการรายงานการเสียชีวิตของ นายธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ แร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้มีการโพสต์แจ้งข่าวการเสียชีวิตเอาไว้ ล่าสุด กัน จอมพลัง ได้ออกมาเคลื่อนไหว หลังจากที่รู้ข่าว แบงค์ เสียชีวิต โดยได้โพสต์ภาพ แบงค์ และระบุข้อความเอาไว้ว่า “วันนี้น้องมันเอาศักดิ์ศรีมาแลกกับความเป็นอยู่ของครอบครัว แต่พอน้องมันยอมลดศักดิ์ศรี พวกเอ็งก็ยิ่งทำอะไรประหลาด ๆ กับ แบงค์ จนเลยเถิด วันนี้น้องมันตุย เพราะคอนเทนต์ขยะของพวกคุณ วันนี้ไม่ได้แค่น้องที่ตุย แต่เหมือนตุยทั้งครอบครัว เพราะ แบงค์ เป็นเรี่ยวแรงหลักของบ้าน ผมจะคอยดูว่าพวกคุณจะดูแลครอบครัวน้องหรือรับผิดชอบกับเรื่องนี้ยังไง ถ้าตอนทำคอนเทนต์แย่งกันทำสนุกสนาน แต่ตอนรับผิดชอบไม่เห็นหัวใครซักคน ฝากช่วยกันบอกไปถึง ญาติน้องด้วย ถ้าพวกนี้เงียบแล้วต้องการเอาเรื่องบอกผมได้เลย ผมพร้อมช่วย” และยังได้คอมเมนต์เพิ่มเติมด้วยว่า “ผมเจอน้องมานานมากหลายครั้งที่ผมไปตลาดเลียบด่วน ถ้าน้องมันเห็นน้องจะเข้ามาหาผม เต้นขายพวงมาลัย แล้วก็พยายามเล่าชีวิตตัวเองให้ผมฟังจริงน้องมันสู้ชีวิตมาก”
ฟังจากปาก ‘หนุ่ม กรรชัย’ เหตุผลที่ส่งเสียลูกลัลลาเบลนาน 5 ปีเงียบๆ.
หนุ่ม กรรชัย มีความตั้งใจมาตลอดที่จะช่วยเหลือกส่งเสียจ่ายค่าเทอมให้กับ ลูกสาวของ ลัลลาเบล พริตตี้สาวที่เสียชีวิตเป็นข่าวดังเมื่อหลายปีก่อน แถมยังเคยพูดเอาไว้ด้วยว่า ถ้ามีปัญหาอะไรเรื่องการเรียนของลูกลัลลาเบลก็ขอให้บอก ล่าสุดในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์มีการนำเสนอข่าว แบงค์ เลสเตอร์ ซึ่งเทียบเคียงกับคดี ลัลลาเบล ด้าน หมวย อริสรา ได้เอ่ยขึ้นมาว่า พูดถึงคดีนี้มีนักเรียนส่งมาถาม พี่หนุ่มยังดูแลส่งเสียลูกของน้องลัลลาเบลอยู่หรือเปล่า? หนุ่ม กรรชัย ตอบชัดว่า ยังส่งเสียอยู่ครับ ก็ 5 ปีแล้วมั้ง น้องก็จะส่งข้อความมาหาตลอดวันเกิด วันปีใหม่ คุณพ่อคุณแม่ลัลลาเบลก็ยังมาหา และติดต่ออยู่ จริงๆ บอกก่อนว่าผมกับลัลลาเบลไม่ได้เป็นอะไรกันนะ เพียงแค่ตอนนั้นนำเสนอข่าวลัลลาเบลเยอะ ในภาพก็เห็นลัลลาเบลถูกอุ้มไปอุ้มมา สุดท้ายเอาตรงๆ เราได้เรทติ้งจากการนำเสนอ แต่ครอบครัวเขาคงไม่อยากมาเห็นภาพเหล่านี้ ผมก็รู้สึกว่าเราต้องคืนอะไรให้เขาบ้าง แล้วเป็นสิ่งเดียวที่ลัลลาเบลต้องการ คืออยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนนี้ ผมก็เลยบอกพ่อกับแม่เขาว่าผมดูแลลูกของลัลลาเบลให้เอง
โดนใจทั้งโซเชียล ก้อง ห้วยไร่ เคลื่อนไหวประโยคเดียว
จากกรณีการเสียชีวิตของ นายธนาคาร คันธี หรือ แบงค์ เลสเตอร์ แร็พเปอร์ขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย ซึ่งในระยะหลัง ๆ มานี้ มักจะมีคนจ้างให้แบงค์กินอะไรแปลก ๆ กระทั่งมาเสียชีวิตลงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เนื่องจากถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน แลกเงิน 30,000 บาท โดย แบงค์ เลสเตอร์ ได้โพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อ 10 ชั่วโมงที่แล้ว พร้อมว่า “เราไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหากันครับ การวางตัวสำคัญที่ครับ อ่อนน้อมถ่อมตน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราปฏิบัติมาตลอดครับ” ซึ่งหลังจากที่แฟนคลับหรือผู้ติดตามทราบข่าวการจากไปอย่างกะทันหันของ แบงค์ เลสเตอร์ ก็ต่างเข้าไปแสดงความอาลัยใต้โพสต์ดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ก้อง ห้วยไร่ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงเรื่องราวดังกล่าวเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าประโยคเดียวทำเอาจุกอกเลยทีเดียว โดยได้โพสต์ระบุข้อความว่า ผมยอมถูกแกล้ง เพื่อแลกกับเศษเงินคนรวย เอาไปจุนเจือครอบครัว เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างกว้างขวางในสังคม พร้อมกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับการว่าจ้างทำกิจกรรมเสี่ยงชีวิตเพื่อเงิน และผลกระทบที่อาจตามมาในระยะยาว
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เที่ยวนิวซีแลนด์ สะดุดตาหนุ่มหล่อในเฟรม
เรียกได้ว่านางเอกสาวสวยมากฝีมืออีกหนึ่งคน สำหรับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ด้วยความที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานหลายปี ทำให้มีผลงานให้ติดตามเป็นจำนวนมาก และในช่วงสิ้นปีแบบนี้เจ้าตัวเลือกที่จะไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ ล่าสุด สาวใบเฟิร์น โผล่ไปเช็กอินที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งทริปนี้ใบเฟิร์นทำเอาแฟนๆ ฟินไปด้วย เมื่อได้เห็นภาพวิวสวยๆ รวมถึงคนสวยๆ อยู่ในเฟรมเดียวกัน และ ใบเฟิร์น ก็ลงรูปแต่ละเซ็ตแบบกระหน่ำไปเลย รวมถึงภาพเซ็ตนี้ที่ใบเฟิร์น มาแจกความสดใสท่ามกลางวิวธรรมชาติ ทุ่งหญ้า ภูเขาและสายน้ำ และท้องฟ้าสดใส แต่มาสะดุดก็ตรงภาพที่ 11 ที่มีหนุ่มหล่อ ใส่เสื้อขาว แว่นตาดำ เข้ามาร่วมเฟรมด้วย อุ๊ย! อะไรยังไงใครกันนะ ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับเข้ามากดไลค์กันอย่างรัวๆ พร้อมกับคอมเมนต์ชมกันอย่างไม่ขาดปาก! อู้วววววว😍 , วิวที่ว่าสวยยังแพ้คนสวยอย่างพี่เลย 🤭 , วิวก็สวย คนก็น่ารักมากๆเลยค่ะ ✨ , สวยมากกก สวยจนไม่อยากจะละสายตา 🥹🤍 , รูปที่ 11😮❤️ , สิ่งที่อยากบอก…น่ารักจังค่ะ❤️ , อ่ยยยน่ารักน่าเลิฟม๊าก🫠🤏🪻 อุ๊ย! สะดุดตาหนุ่มหล่อในรูปที่ 11 ขอบคุณข้อมูล: baifernbah
หนุ่มขนเงินสดมาฝาก ธนาคาร ต้องเปิดห้อง VIP ช่วยกันนับ ก่อนเผยยอดเงินล่าสุด
หนุ่มเวียดนามทุบกระปุกออมสิน ที่สะสมมา 3 ปี ขนเงินใส่กระสอบมาฝากธนาคาร เจ้าหน้าที่แบงก์ใช้เวลาทั้งบ่ายกว่าจะนับเงินจนเสร็จ จำนวนเงินทั้งหมดที่ได้รับคือ 109,270,000 เวียดนามดอง (ประมาณ 159,800 บาท)เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เมื่อบัญชี TikTok VL97 ระบุว่า ประสบการณ์เลี้ยงหมูมา 3 ปี ก่อนทุบหมูกลายเป็นกระสอบแบบนี้ อาจเป็นยากหน่อยสำหรับนายธนาคาร แต่จำไว้ว่าถ้าคุณมีเงินไม่ว่ามากหรือน้อย คุณแค่หยอดมันลงไปในหมูซะ เชื่อสิจากลมจะกลายเป็นพายุสักวัน ซึ่งงานนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารถึงกับต้องเปิดห้องวีไอพี เพื่อนำเงินจากกระสอบดังกล่าวออกมานับกันตลอดช่วงบ่ายเลยทีเดียว เรื่องราวดังกล่าวหลังจากถูกแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กและได้รับความคิดเห็นจากชาวเน็ตมากมาย หลายคนเห็นด้วยกับมุมมองการออมเงินด้วยวิธี น้อยไปหามาก ของผู้ชายคนนี้ นอกจากนี้บางคนก็แสดงความเห็นอกเห็นใจพนักงานธนาคารที่ต้องนับเงินจำนวนมาก ดูแล้วมีแรงใจจะหยอดกระปุกออมสิน พนักงานธนาคารคงตกใจเหมือนกัน พรุ่งนี้ฉันต้องไปซื้อหมูตัวใหม่ คิดว่ามีเครื่องนับเงินนะ บางทีพนักงานก็แค่จัดเรียงเงิน นับเองหมดคนแย่ เป็นความจริงที่ลมกลายเป็นพายุ แต่จำนวนเงินทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านด่อง ภายในเวลา 3 ปี แปลว่าคุณต้องเป็นคนที่มีเงินเหลือเก็บเยอะมากๆ อยู่แล้ว
ครูอนุบาลถักผมให้เด็ก ทำแม่ปรี๊ดแตก ลากลูกสาวไปห้อง ผอ. ร้องไล่ครูออก
พ่อแม่ที่มีลูกในวัยเรียน มักอยากให้ครูให้ความสนใจและดูแลลูกของตนอย่างดี แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า ความชำนาญในการสื่อสารและการปฏิบัติตัวของผู้ปกครองและครู เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน คุณแม่คนหนึ่งจากประเทศจีน ได้แชร์เรื่องราวของลูกสาววัย 5 ขวบ ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนอนุบาลท้องถิ่น เนื่องจากเป็นเด็กที่หน้าตาน่ารัก จึงได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกทีมเต้นแสดงในงานโรงเรียน ในวันงานแสดงคุณแม่ไปถึงตั้งแต่เช้า และไปที่ด้านหลังเวทีที่เด็กๆ กำลังได้รับการเตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้าและทรงผมจากครูทันทีที่เห็นแม่เข้ามา ลูกสาวก็วิ่งมาหาและไม่หยุดบ่นเกี่ยวกับความรู้สึกไม่สบายจากทรงผมที่ครูทำให้ เนื่องจากการถักเปียและใช้ยางรัดที่แน่นเกินไป ทำให้รู้สึกตึงที่หนังศีรษะอย่างมาก จึงร้องขอให้แม่ช่วย ในขณะนั้น คุณแม่จึงได้พูดคุยกับครูเพื่อแจ้งให้ทราบถึงปัญหานี้ โดยเธอหวังว่าครูจะช่วยถอดเปียที่รัดแน่นออก และทำทรงผมใหม่ให้ลูกสาว แต่ครูกลับเห็นว่าเวลาไม่พอและไม่เหมาะสมที่จะทำทรงผมใหม่ให้กับเด็กๆ นอกจากนี้เด็กทุกคนก็ถูกทำทรงผมเหมือนกันหมด แต่ไม่มีใครบ่น มีเพียงลูกสาวของเธอเท่านั้นที่ร้องโวยวายออกมา เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอรู้สึกไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป จึงตะโกนใส่หน้าครูว่า คุณอยากให้ลูกสาวฉันหัวล้านหรือไง หลังจากนั้น เธอจึงลากลูกสาวไปที่ห้องของผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อร้องเรียนและขอให้ไล่ครูคนนี้ออก เพราะครูไม่มีความรู้สึกถึงความไม่สบายตัวและความเจ็บปวดของนักเรียน หลังจากนั้นครูคนดังกล่าวจึงได้รับการตำหนิและตักเตือน แต่คุณแม่ก็ตัดสินใจย้ายโรงเรียนให้ลูกสาวทันที เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ลงโลกออนไลน์ นอกจากคำชมที่หลายคนมอบให้กับการกระทำที่เด็ดขาดของคุณแม่คนนี้ ในการปกป้องลูกสาวของตนเองแล้ว ก็ยังมีไม่น้อยที่วิพากษ์วิจารณ์วิธีการปฏิบัติของคุณแม่ต่อครูของลูก เนื่องจากดู “รุนแรงเกินไป” โดยบางคนมองว่าเธอควรจะมีความใจเย็นมากกว่านี้ แทนที่จะโกรธจัดและตะโกนใส่ครู บางคนแนะนำด้วยว่า แทนที่จะรีบไปบอกผู้อำนวยการโรงเรียน คุณแม่ควรจะคุยกับครูอย่างสุภาพและใจเย็นมากกว่า เพราะจริงๆ แล้วครูคนนี้ต้องดูแลเด็กๆ หลายคนในห้องเรียน จึงอาจเกิดข้อผิดพลาดได้บ้าง ในสถานการณ์นี้ ถ้าใจเย็นลงและพยายามเจรจากับครูอย่างรอบคอบ เธอก็อาจจะเป็นคนช่วยจัดการทำทรงผมให้ลูกสาวเอง เนื่องจากครูไม่สามารถทำได้ทันเวลา
มาแล้ว นางเอกแห่งปี 2567 จากอีสานโพล
เปิดเผยออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ อีสานโพล (E-Saan Poll) ผลสำรวจ “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ปี 2567” ซึ่งจะสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานใน 13 สาขารางวัล โดยการสำรวจจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม และ 21-23 ธันวาคม 2567 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,251 ราย ใน 20 จังหวัดของภาคอีสาน และนางเอกแห่งปี อันดับ 1. ตกเป็นของ ญาญ่า อุรัสยา ร้อยละ 15.4 อันดับ 2. เบลล่า ราณี ร้อยละ 11.4 อันดับ 3. ใหม่ ดาวิกา ร้อยละ 8.1 รายชื่ออื่นๆร้อยละ 27.0 และร้อยละ 38.1 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม อันดับ 1 ก็ต้องยกให้ ญาญ่า จริงๆเพราะนอกจากจะมีผลงานปังๆออกมาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นว่าที่สะใภ้ภาคอีสานด้วย หลังหวานใจหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ ทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้ก็รอเพียงให้งานต่างๆเข้าที่เข้าทาง ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องได้เห็นงานวิวาห์แห่งปีแน่นอน ขอบคุณข้อมูล : อีสานโพล , @ urassayas...