ลูกชาย 5 ขวบ ไข้ขึ้นสูงมาก ช็อกหมอนำ “ต้นเหตุ” ออกมาจากหู ของใกล้ตัวเด็กทุกบ้าน!
ระวัง! เด็กเล็กชอบใส่ของในหู เจอกรณี ด.ช. 5 ขวบไข้สูง หมอพบ "ยางลบสีชมพู" ปิดท่อหูจนเกิดเชื้อรา การที่เด็กเล็กมักจะชอบใส่สิ่งของเข้าไปในช่องต่างๆ ของร่างกาย เช่น จมูก ปาก หรือหู อาจเป็นหนึ่งในวิธีที่พวกเขาใช้สำรวจสิ่งต่างๆ บนโลก อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่นี้เอง หากผู้ปกครองไม่ได้ให้ความสนใจมากพอผลกระทบที่ตามมาอาจร้ายแรงเกินคาดการณ์ได้ ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม เวลา 9 โมงเช้าของหนึ่ง ศูนย์การแพทย์อำเภอแคนล็อก (ฮาทิญ) ได้รับเด็กชายอายุ5 ปี เข้ารักษาด้วยอาการไข้สูง ที่นี่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาหู คอ จมูก ได้ตรวจพบว่ามี “ยางลบสีชมพู” อยู่ในหูของเด็ก และมันปิดท่อหูแทบทั้งหมด ตามที่แพทย์ระบุ ยางลบอยู่ในหูของเด็กมาเป็นเวลานาน จนเริ่มมีเชื้อราและขยายตัวจนปิดท่อหู ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก ซึ่งได้ช่วยนำสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามอาการที่ศูนย์การแพทย์ นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำให้พ่อแม่คอยดูแลและสังเกต ผ่านทางช่วงเวลาที่ทำความสะอาดร่างกายของเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร และจะรู้ได้อย่างไร? เนื่องจากเด็กมักจะไม่บอกพ่อแม่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตามคำแนะนำของ KidHealth หากเด็กมีอาการหายใจลำบาก พูดลำบาก หรือกลืนน้ำลายลำบาก ควรรีบนำเด็กไปยังห้องฉุกเฉินทันที เนื่องจากพ่อแม่มักจะพบความยากลำบากหรือแทบจะไม่สามารถนำสิ่งแปลกปลอมออกได้เอง ในขณะที่แพทย์มีวิธีการและความเชี่ยวชาญมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กใส่สิ่งของเข้าไปในจมูก สิ่งแปลกปลอมที่ยังหลงเหลือในจมูกอาจทำให้ผนังกั้นจมูกเสียหาย หรืออาจถูกดูดเข้าไปในปอดได้ สิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในจมูกนานๆ มักจะทำให้มีน้ำมูกไหลข้างเดียว และมักมีกลิ่นเหม็น ซึ่งต่างจากการเป็นหวัดหรือภูมิแพ้ ที่มักจะมีน้ำมูกไหลทั้งสองข้าง...
อาลัย สิ้นครูโยคะชื่อดัง เสียชีวิตกะทันหัน ในวัยเพียง 35 ปี
นับว่าช่วงนี้วงการบันเทิงเกาหลีมีเรื่องเศร้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยูจู สาวสวยสุดฮอต ซึ่งเป็นครูสอนโยคะชื่อดังได้จากไปแล้ว ด้วยวัย 35 ปี โดย ครูยูจู ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตามความประสงค์ของครอบครัว จึงไม่มีการจัดงานศพหรือห้องรับแขกแต่ทางสตูโยคะจะจัดพื้นที่ให้สามารถมาส่งความอาลัยได้จนถึงวันศุกร์นี้ ยูจูเป็นครูสอนโยคะที่มีชื่อเสียงจากความสามารถที่แข็งแกร่งและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยได้รับความนิยมจากการสอนโยคะ หนึ่งวันก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอียูจูโพสต์โซเชียลด้วยข้อความสั้นๆว่า “บาย” ก่อนที่ต่อมาจะมีการประกาศข่าวเศร้านี้ สำหรับอียูจูเป็นครูสอนโยคะชื่อดังและได้รับความรักจากประชาชนจากรายการ Infinite Challenge ช่อง MBC ที่เธอเคยไปสอนโยคะให้กับสมาชิกรายการ
ปัญหา “กีนูน” ของสาวๆ เมื่อ น้อง “โหนกนูน” เกินไป ทำให้ใช้ชีวิตยาก!
"ปัญหาของสาว 'โหนกนูน' เมื่ออวัยวะตรงนั้นโหนกนูนเด่นเกินไป ทำให้ใช้ชีวิตยาก" การมีลักษณะโหนกนูนในบริเวณอวัยวะเพศของผู้หญิงถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่พบได้ทั่วไป แต่สำหรับบางคน การที่โหนกนูนเด่นเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นความไม่สบายกาย ความไม่มั่นใจ หรือแม้แต่ความลำบากในการเลือกเสื้อผ้าและทำกิจกรรมบางอย่าง เรื่องเหล่านี้อาจกลายเป็นปัญหาที่สร้างความอึดอัดให้กับชีวิตได้ 1. ความไม่สบายในการใส่เสื้อผ้ารัดรูป สาวๆ ที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัดมักจะเจอปัญหาเวลาต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป เช่น กางเกงยีนส์ ชุดออกกำลังกาย หรือแม้แต่ชุดว่ายน้ำ ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีหรือกดทับบริเวณดังกล่าว บางคนรู้สึกไม่สบายตัว แถมอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือรอยแดงขึ้นได้ ปัญหานี้อาจทำให้ต้องคิดหนักเวลาจะเลือกเสื้อผ้า หรือทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาต้องออกจากบ้าน ผลการศึกษา: มีการศึกษาจาก Journal of Sexual Medicine ในปี 2018 ที่พบว่า ผู้หญิงประมาณ 18% มีปัญหาจากการเสียดสีและอับชื้นในบริเวณโหนกนูนเมื่อใส่เสื้อผ้ารัดรูป โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีลักษณะโหนกนูนเด่นชัด 2. การออกกำลังกายและการทำกิจกรรมที่ลำบากขึ้น เวลาที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน หรือเล่นโยคะ ผู้หญิงที่มีโหนกนูนชัดเจนมักจะรู้สึกไม่สบาย เพราะเกิดการเสียดสีและอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นระคายเคือง จนบางคนถึงขั้นหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมเหล่านี้ไปเลย ทั้งที่ปกติก็อยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แต่พอเจอปัญหาแบบนี้ก็รู้สึกไม่อยากทำกิจกรรมเท่าเดิม ผลการสำรวจ: การสำรวจจาก International Journal of Sports Medicine ในปี 2019 พบว่า 12% ของผู้หญิงที่ออกกำลังกายประเภทวิ่งและปั่นจักรยานมีปัญหาจากการเสียดสีบริเวณโหนกนูน โดยเฉพาะผู้ที่มีลักษณะเด่นชัด 3. รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อถูกคนอื่นจ้องมอง หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่เน้นรูปร่าง หรือเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงจะถูกคนอื่นจ้องมองบริเวณนั้น เช่น การใส่บิกินี่หรือกางเกงรัดรูป...
ควรระวัง! ร่างกายมีอาการคัน 2 ส่วนนี้ อาจเป็นสัญญาณของ “มะเร็งตับ” ไม่ใช่อาการแพ้
ระวังไว้ดีกว่า เมื่อร่างกายมีอาการคันที่ 2 ส่วนนี้ อาจเป็นสัญญาณของ “มะเร็งตับ” ไม่ใช่อาการแพ้อย่างที่เข้าใจ! เมื่อรู้สึกคันหลายคนมักนึกถึงอาการแพ้ แต่บางครั้งอาการคันก็อาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีอาการคันที่ 2 ส่วนนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนของ “มะเร็งตับ” ตับเป็นอวัยวะที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เปลี่ยนแปลงยา ประมวลผลสารอาหาร และผลิตโปรตีนและสารเคมีที่สำคัญต่อสุขภาพ ดังนั้นตับจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย ซึ่งหากความเสียหายที่เกิดขึ้นในตับไม่ได้รับการตรวจพบและรักษา ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับได้ มะเร็งตับ เป็นหนึ่งในมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก ผู้ป่วยหลายรายจะไม่มีอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น และมักไม่ได้รับการตรวจพบจนกระทั่งเป็นระยะที่ล่าช้า ซึ่งจะทำให้การรักษายากขึ้น ดังนั้น การตรวจพบสัญญาณของมะเร็งตับในระยะเริ่มต้นและการดูแลตับเมื่อมีปัญหา จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันมะเร็งตับ อาการคันที่ 2 ส่วนนี้อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับ อาการคันที่ผิวหนัง อาการคันที่ผิวหนังเป็นอาการทั่วไปของการแพ้หรือปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น ผื่นผิวหนัง หรือภูมิแพ้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาการคันที่ผิวหนังอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งตับ ซึ่งมักเกิดจากกระบวนการการเปลี่ยนแปลงของน้ำดีที่ถูกรบกวนเมื่อเกิดปัญหากับตับ ทำให้สารน้ำดีสะสมในร่างกายมากเกินไป และเมื่อสารน้ำดีเข้าไปในเลือดจะทำให้เกิดการระคายเคืองและคันที่ผิวหนัง นอกจากอาการคันแล้ว มะเร็งตับอาจทำให้เกิดผื่นและความเสียหายที่ผิวหนังหลายรูปแบบ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับสารพิษออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สารพิษสะสมและทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ผู้ป่วยอาจพบผื่นแดง คัน หรือมีแผลที่ต้องการการดูแลทางการแพทย์ อาการคันที่ดวงตา หากรู้สึกคันที่ดวงตาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ได้ลองทุกวิธีเพื่อบรรเทาอาการแล้ว ควรระวังเรื่องมะเร็งตับด้วยเช่นเดียวกัน บางคนเชื่อว่าเมื่อเป็นมะเร็งตับ ดวงตามักจะขาดเลือดส่งผลให้ตาแห้งและคัน แต่โดยทั่วไปแล้วในกรณีของมะเร็งตับ อาการคันที่ผิวหนังจะพบได้บ่อยกว่าคันที่ดวงตา **คำเตือน: แม้ว่าทั้งสองอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะอาการคันที่ผิวหนังและดวงตายังเป็นอาการของปัญหาสุขภาพอื่นๆ ด้วย สิ่งสำคัญคือการสังเกตสัญญาณผิดปกติในร่างกาย และควรไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคร้ายต่างๆ อาการอื่นๆ ของมะเร็งตับ นอกเหนือจากอาการคัน มะเร็งตับอาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ ที่สำคัญ...
มีกันทุกคน! “รูเล็กๆ” ปริศนาบริเวณเปลือกตามันคืออะไร?
น้อยคนที่จะเคยสังเกตเห็นรูขนาดเล็กที่เปลือกตาด้านใน ทราบกันหรือไม่ว่ามันมีหน้าที่อะไร? มนุษย์ทุกคนมีรูปริศนานี้ และมีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละคน มันจะอยู่ห่างจากหัวตาประมาณ 2 มิลลิเมตร มันก็คือ "ท่อน้ำตา" (Lacrimal punctum) นั่นเอง มาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งสับสนกับต่อมน้ำตา (Lacrimal gland) เพราะรูนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับผลิตน้ำตา แต่มันมีหน้าที่ระบายน้ำตาช่วยเราต่างหาก เจ้ารูท่อน้ำตานี้ที่จริงมีทั้งที่บริเวณเปลือกตาบนและล่าง โดยจะมาเชื่อมต่อกันและระบายน้ำตาเชื่อมต่อกับถุงน้ำตา (Lacrimal sac) ทอดยาวลงมาที่ด้านหน้าของช่องจมูก การเชื่อมต่อระหว่างทางระบายน้ำตาและจมูกเช่นนี้เอง ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไมเวลาเราน้ำตาไหลบางครั้งเราจึงมีน้ำมูกไหลด้วย หรือบางครั้งเราจะแอบได้รสชาติของน้ำตาเวลาที่เรากำลังร้องไห้นั่นเอง ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการโรคตาแห้ง (Dry Eye Syndrome) จักษุแพทย์จะใช้วิธีรักษาด้วยการฝังรูนี้ด้วยปลั๊กเครื่องมือที่ทำจากซิลิโคนหรือคอลลาเจน ทำให้การไหลออกของน้ำตาลดลงและทำให้ตามีความชุ่มชื้นมากขึ้นและป้องกันการติดเชื้อ แต่กลับกัน ท่อน้ำตานี้ในบางครั้งก็สามารถไหลย้อนกลับมาได้เช่นกัน สิ่งที่ไหลย้อนมีได้ตั้งแต่น้ำตา, อากาศ, น้ำมูก และเลือดที่ออกทางช่องจมูก หากมีอาการที่น่าสงสัยเกี่ยวกับดวงตา อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ถ้าหากพบความผิดปกติจะได้รีบรักษาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากดวงตาเป็นส่วนที่มีความบอบบางมาก เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหรือการรักษา จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของจักษุแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
อาลัย “บรรเจิดศรี ยมาภัย” นักแสดงอาวุโส อายุ 100 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ
วงการบันเทิงสุดเศร้า สูญเสีย “คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย” นักแสดงอาวุโส สิริอายุ 100 ปี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรม และ พิธีฌาปนกิจศพ ณ ศาลา 10 วัดมกุฎกษัตริยารามราชวรวิหาร โดยสวดอภิธรรม เวลา 18.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 7 – วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 และพิธีฌาปนกิจ เวลา 17.00 น. วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 วงการบันเทิง สูญเสียบุคคลสำคัญอีกครั้ง หลังทราบข่าวเศร้า คุณยาย “บรรเจิดศรี ยมาภัย” นักแสดงอาวุโส เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวัย 100 ปี โดยมีกำหนดการสวดอภิธรรม ที่ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ณ ศาลา 10 ระหว่างวันที่ 7 – 11 พ.ย. 67...
อาลัย ดาราสาวอดีตนางงามเวทีดัง เสียชีวิตกะทันหัน ขณะตั้งครรภ์
แฟนนางงามต้องใจหาย หลังจากมีรายงานว่า แองจี้ โมราด (Angy Morad) นักแสดงและอดีตนางงามชาวซีเรียวัย 33 ปี เสียชีวิตอย่างสุดช็อก จากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ซึ่งทำให้เธอต้องเข้าไอซียูตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา การจากไปของเธอไม่เพียงแต่ทำให้แฟนๆ ช็อก แต่ยังสร้างความสะเทือนใจจากข้อความสุดเศร้าที่เธอโพสต์ทิ้งไว้ไม่นานก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ตามรายงานระบุว่า แองจี้ โมราด เคยสร้างชื่อเสียงระดับโลกจากการคว้ามงกุฎ Miss Asia World 2017 และยังเป็นนักแสดงที่มีผลงานได้รับการยอมรับในประเทศจากบทบาทในละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ในระหว่างตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 แองจี้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ปอด ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะปอดบวมและต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม แฟน ๆ เริ่มเป็นห่วงสุขภาพของเธอมากขึ้นหลังจากที่แองจี้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในวันที่ 25 มกราคมว่า “ฉันกำลังจะตาย ยกโทษให้ฉันด้วย” หลังจากนั้นสามีของแองจี้ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวของเขา ระบุว่า “แองจี้กำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากระหว่างความเป็นและความตาย โปรดอธิษฐานเพื่อเธอด้วย” ข่าวร้ายมาถึงเมื่อแองจี้เสียชีวิตในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 จากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้เธอเสียชีวิตพร้อมกับลูกในครรภ์ โดยทิ้งสามีและลูกสาวตัวน้อยไว้เบื้องหลัง ซึ่งแม่ของแองจี้ได้ยืนยันการเสียชีวิตของเธอผ่านโซเชียลมีเดีย โดยโพสต์ข้อความว่า “ขอพระเจ้าโปรดเมตตาลูกสาวของฉันด้วย” สำหรับ แองจี้ โมราด เกิดในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย เมื่อปี 2535 หลังจากจบการศึกษาจากสถาบันศิลปะการละครชั้นสูง เธอเริ่มอาชีพการแสดงในปี 2550 และได้รับความรู้จักจากบทบาทในซีรีส์หลายเรื่อง เช่น Baqaa Daw 13 และ Al-Gharib ก่อนที่เธอจะตัดสินใจตามความฝันในการชิงตำแหน่งนางงามระดับโลก จนกระทั่งคว้ามงกุฎ Miss...
แม่ดับปริศนาในบ้าน! ลูกสาววัย 4 ขวบ วาดภาพเผยความจริงสุดช็อก ฆาตกรคือ?
สาวอินเดียวัย 27 ปี ดับสลดในบ้าน ลูกสาววัย 4 ขวบ วาดภาพและเผยความจริงสุดช็อก พ่อคือฆาตกร รู้คำพูดกับลูกยิ่งสลด เกิดเหตุสลดในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งถูกพบเป็นศพในบ้านเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เบื้องต้น ครอบครัวสามีอ้างว่าเธอผูกคอตาย แต่ลูกสาววัย 4 ขวบกลับบอกว่า “พ่อฆ่าแม่แล้วแขวนร่างไว้” แถมยังวาดภาพบอกเล่าเหตุการณ์อีกด้วย สำนักข่าว NDTV รายงานว่า โซนาลี บูโดเลีย วัย 27 ปี เสียชีวิตอย่างน่าสลด แต่ภาพวาดและคำพูดของลูกสาวตัวน้อยทำให้ตำรวจสงสัยว่าเรื่องราวอาจไม่ใช่แค่การฆ่าตัวตาย หลังสืบสวนพบว่าเธออาจถูกสามี ซานดีป บูโดเลีย ทำร้ายร่างกายมานาน ก่อนจะถูกทุบตีจนเสียชีวิต ลูกสาววัย 4 ขวบ เผยว่า พ่อเคยขู่จะฆ่าแม่มานานแล้ว “เขาทำร้ายแม่เป็นประจำ บอกว่าแม่ควรตาย รวมถึงฉันก็ต้องเจอชะตากรรมเดียวกัน” เธอเล่าว่า “พ่อทำร้ายและฆ่าแม่ ก่อนพูดว่า "ถ้าอยากตายก็ไปตายซะ" จากนั้นเขาแขวนร่างแม่ไว้ แล้วใช้ก้อนหินทุบหัวเธอ” มีรายงานว่า ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2019 แต่ชีวิตคู่เต็มไปด้วยปัญหา และยิ่งเลวร้ายลงหลังโซนาลีให้กำเนิดลูกสาวแทนที่จะเป็นลูกชาย พ่อของผู้ตาย เผยว่า ครอบครัวลูกเขยไม่พอใจสินสอดเงินสด 2 ล้านรูปี (ประมาณ 775,000...
ไอเทมสำคัญ รด. ชายแท้ ไขข้อสงสัยพกผ้าอนามัยมาเข้าค่ายกันทำไม?
ดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เรียนรักษาดินแดน หรือ รด. นั้นจะเป็นผู้ชายกันซะมากกว่า ซึ่งการเรียนร. นั้นก็จะมีการฝึกแบบภาคสนามที่ให้เหล่านักศึกษาวิชาทหารมาเข้าค่าย รด. เพื่อเก็บประสบการณ์ และการมาเข้าค่ายนั้นทุกคนก็ต้องเตรียมของมาเพื่อการเข้าค่าย แต่มันจะมีอย่างนึงที่เรียกว่า ถึงจะเป็นผู้ชายแต่มันก็ต้องพกมา ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี fb_ninekanhaphisut คุณครูรักษาดินแดน ได้มีการแชร์คลิปสุดฮา ที่ทำการรีวิวของที่เหล่านักศึกษาทหารชายต้องพกมาเข้าค่ายกันเกือบทุกคน โดยในคลิปคุณครูได้บรรยายเพิ่มเติมว่า "มีอีกไหม" ซึ่งจะเห็นได้ว่าเหล่านักศึกษาวิชาทหารชายเกือบทุกคน นั้นได้พกผ้าอนามัยมาเข้าค่ายกันอย่างเต็มที่ ทุกยี่ห้อ ทุกชนิดเลยทีเดียว หลังจากที่คลิปของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไปก็เรียกได้ว่ากลายเป็นไวรัลที่มียอดเข้าชมมากกว่า 388,000 ครั้ง ยอดไลก์มากกว่า 9,730 ครั้ง และมีคอมเมนต์กันอย่างมากมายที่อยากรู้ว่าผู้ชายจะพกผ้าอนามัยมาทำอะไร ซึ่งก็จะได้คำตอบว่า ผ้าอนามัยใส่ในรองเท้าคอมแบทจะช่วยกันกลิ่นเวลาใส่นานๆ อีกทั้ง รองพื้นรองเท้าจะช่วยทำให้ไม่เจ็บเท้ามาก เวลาเดินทางไกลด้วยนั่นเอง
“หมอสุรัตน์” เปิดชื่อผัก 3 ชนิด คนไทยรู้จักดี มีลูทีโอลินสูง ช่วยป้องกันผมหงอกได้
ใครมีผมหงอกฟังทางนี้! “หมอสุรัตน์” เปิดชื่อผักที่คนไทยรู้จักดีทั้งนั้น ทั้งหาง่าย และราคาถูก มีสารลูทีโอลินสูงช่วยป้องกันอาการผมหงอกได้ "ผมหงอก" เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งตามธรรมชาติ กรรมพันธุ์ โรค และการขาดสารอาหาร ซึ่งการมีหงอกอาจทำให้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจ บางรายอาจต้องใช้วิธีย้อมผมเพื่อปกปิดผมหงอก ส่งผลเสียต่อสุขภาพหนังศีรษะ ล่าสุด ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กเพจ "สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์" ระบุ มีงานวิจัยชี้ชัด ลูทีโอลิน (luteolin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักบางชนิด อาจมีศักยภาพในการป้องกันผมหงอก โดย หมอสุรัตน์ ได้ให้รายละเอียดว่า การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Antioxidants ได้ทดลองกับหนูที่ถูกออกแบบให้มีผมหงอกเมื่ออายุมากขึ้น นักวิจัยได้ทดสอบสารต้านอนุมูลอิสระสามชนิด ได้แก่ เฮสเพอเรทิน ไดออสมิติน และลูทีโอลิน พบว่าเฉพาะลูทีโอลินเท่านั้นที่สามารถลดการเกิดผมหงอกในหนูได้ หนูที่ได้รับการรักษาด้วยลูทีโอลินทั้งภายใน (รับประทาน) และภายนอก (ทาบนผิวหนัง) ทุกวันเป็นเวลา 16 สัปดาห์ แสดงให้เห็นว่ามีผมหงอกน้อยลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษา นักวิจัยสันนิษฐานว่าลูทีโอลินช่วยแก้ไขปัญหาการส่งสัญญาณระหว่างเอนโดทีลินส์ในเซลล์ต้นกำเนิดเคราติโนไซต์และตัวรับในเซลล์ต้นกำเนิดเมลาโนไซต์ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของผมหงอก พืชที่มีลูทีโอลินสูงในบ้านเรา • พริกเขียวและพริกเผ็ด – รวมถึงพริกหวานสีเขียว • ฟักทอง – เป็นแหล่งลูทีโอลินที่ดี และยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผม • ขึ้นฉ่าย (Celery) – อุดมไปด้วยลูทีโอลินและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ... อ่านหมอสุรัตน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้งานวิจัยยังไม่มีในคน แต่ก็รับประทานได้เลยเพราะมันดีต่อร่างกายด้วย อย่างไรก็ตาม...