Home Blog Page 2

โจ๋นัดเคลียร์ปมชกต่อยในงานบุญ สุดท้ายคุยไม่ลงตัว ยิงถล่ม ดับ 1 เจ็บ 2 ราย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดในพื้น ม.15 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของชาวบ้านในบริเวณจุดเกิดเหตุ สภาพนอนตะแคงข้าง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีนต์ขาสั้น ข้างตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ หน้าอกพบร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 2 นัด ทะลุหลัง

ห่างออกมา 200 เมตร ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบร่องรอยบนรถกระบะดีแม็ก ทะเบียน นครปฐม พบว่าถูกอาวุธปืนลูกซองยิงที่บริเวณประตูด้านคนขับและแคปเป็นรูพรุนหลายนัด และปลอกกระสุนตามจุดต่าง ๆ

จากการสอบถามนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับพวกได้ไปงานประจำในหมู่บ้านที่จัดขึ้น โดยกลุ่มตนเองได้มีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวงาน ต่อมา ได้มีชายคนหนึ่งทักแชทมาในเฟซบุ๊กส่วนตัวบอกว่า เป็นพี่ชายของคนที่ถูกกลุ่มตนทำร้ายที่งานประจำปี โดยชายคนดังกล่าวบอกว่า ให้เข้ามาเคลียร์กันที่หน้าบ้านของชายคนดังกล่าว

จากนั้น กลุ่มของตนได้เดินทางมาด้วยกัน 6 คน พร้อมกับรถกระบะ 3 คัน เมื่อมาถึงก็ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันเพื่อตกลงค่าเสียหายที่เคยไปทำร้ายน้องชายของผู้ก่อเหตุ แต่ระหว่างที่พูดคุยกันก็เหมือนจะตกลงกันไม่ได้ ตนจึงเดินออกมายืนบนถนนที่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินเข้าไปในบ้าน พร้อมกับหยิบอาวุธปืนลูกซองยาวออกมาไล่ยิงกลุ่มของตน จนทำให้แตกกระเจิงไปหลบที่หลังรถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้าน

ระหว่างนั้นก็มีกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่อยู่ดักซุ่มอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามประมาณ 3 คน ได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่พวกตน โดยพี่ชายตนคนที่เสียชีวิตถูกยิงได้รับบาดเจ็บแล้ววิ่งไปสิ้นใจที่บ้านของชาวบ้าน และมีพี่ ๆ ที่มาด้วยโดนยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คนแรกถูกยิงเข้าที่สะโพกขวา คนที่สองถูกยิงที่ต้นแขนขวา

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยคือนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวได้ที่บ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ นำตัวขึ้นรถไปสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือตอนนี้ ทางตำรวจทราบตัวแล้วกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี รายงาน

เรียบเรียง siamnews

2

2 พี่น้องดับคารถเก๋ง จอดกลางวัดโคราช พระเห็นผิดปกติตั้งแต่ช่วงบ่าย แฟนสาวเล่าปมสลด

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 26 ก.ค.67 พ.ต.ท.อัครเดช เพ็งวงษ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในวัดหนองไผ่ หมู่ 2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ขม 9020 นครราชสีมา จอดติดเครื่องอยู่ในศาลาโรงครัว ซึ่งล็อคประตูทั้ง 4 ด้าน มองภายนอกพบร่างชายนั่งอยู่เบาะคนขับ และร่างหญิงอยู่เบาะผู้โดยสาร โดยมีอุปกรณ์รมควันวางอยู่ จึงประสานช่างกุญแจมาปลดล็อก ก่อนที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช จะนำร่างผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบ รายแรกเป็นชาย อายุ 40 ปี เป็นพนักงานการไฟฟ้า อีกรายเป็นหญิง อายุ 42 ปี ทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน

จากการสอบถาม พระสมพงษ์ อติสโย อายุ 41 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกและแจ้งเหตุร้าย เปิดเผยว่า อาตมาทำหน้าที่เปิดปิดประตูในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. เห็นรถเก๋งติดเครื่องยนต์ เมื่อมองไปด้านในต้องตกใจเห็นร่างชายหญิงเสียชีวิต ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับวนเวียนมาช่วงบ่ายและผู้ชายได้ออกมาซื้อเครื่องดื่ม

ส่วน นางอาร์ม แฟนสาวของฝ่ายชาย ระบุว่า หลังแฟนขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิต มีอาการเครียดกลายเป็นคนคิดมาก และต้องรับยาจิตเวช แต่ไม่ได้กินต่อเนื่อง ตนและครอบครัวได้พยายามหาทางช่วยเหลือ แต่กลับแสดงอาการปกติไม่ได้ป่วย สันนิษฐานว่ามีความเครียดจึงได้ปรับทุกข์กับพี่สาวแล้วชวนกันมาก่อเหตุดังกล่าว

2

จับหนุ่มขายไอซ์ ไวอากร้า ให้กลุ่มเกย์ อึ้งฉีดเข้าเส้นก่อนมีเซ็กซ์ อ้างหมอ-พยาบาลเป็นลูกค้า

วันที่ 25 ก.ค. 2567 ร.ต.อ.พิชเยศ ชูเมือง หัวหน้าชุดตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือชุดตะวัน นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก 305 ของหอพักแห่งหนึ่งในซอยฉัยยากุล ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าทั้งขายและมั่วสุมเล่นยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มเกย์

ขณะเข้าตรวจค้น พบนายวรศักดิ์ ลูกชายเจ้าของหอพักดังกล่าว ภายในห้องยังพบยาไอซ์ 5 ถุง น้ำหนักรวม 7.69 กรัม, อุปกรณ์การเสพไอซ์ 1 ชุด ,เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง, ถุงใช้แบ่งบรรจุยาไอซ์ จำนวนมาก, เข็มฉีดยา ใช้เป็นอุปกรณ์เสพไอซ์แบบเข้าเส้น 15 อัน และไวอากร้า อีกจำนวนหนึ่ง สำหรับยาไอซ์พบว่ามีการแพ็กใส่ซองกระดาษให้ดูดี แตกต่างจากการขายทั่วไปที่บรรจุใส่ในซองพลาสติกใส

สอบถามนายวรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ไอซ์ที่พบมีไว้เสพและแบ่งขายด้วย โดยขายถุงละ 500 บาท ลูกค้าจะทั้งคนทั่วไป กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย นอกจากนี้ยังอ้างว่ามีลูกค้าที่เป็นกลุ่มหมอและพยาบาลด้วย

นายวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนเพิ่งหันมาค้ายาไอซ์ไม่กี่เดือน หลังจากเริ่มมีปัญหาในครอบครัว เงินใช้จ่ายไม่พอ แม้จะเป็นลูกเจ้าของหอพัก แต่ต้องจ่ายค่าห้องค่าน้ำค่าไฟเองด้วย โดยสั่งซื้อยาไอซ์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นของกลุ่มเกย์

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจโทรศัพท์มือถือของนายวรศักดิ์ พบว่ามีคลิปวิดีโอขณะกำลังใช้เข็มฉีดยา ซึ่งผสมไอซ์ในน้ำเกลือฉีดเข้าเส้นเลือด โดยนายวรศักดิ์ให้การอีกว่า ในการขายยาไอซ์บางครั้งจะมีคนขอซื้อเข็มฉีดยาด้วย

นายวรศักดิ์ ให้การต่อว่า กลุ่มลูกค้าที่เล่นไอซ์ด้วยวิธีฉีดเข้าเส้นเลือด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเกย์ เพราะจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการสูบไอซ์ทั่วไป โดยเฉพาะเวลาจะมีเซ็กซ์ จะฉีดไอซ์เข้าเส้นเลือดก่อน เพราะจะทำให้ยาออกฤทธิ์มึนเมาเร็วขึ้นและเร้าอารมณ์มากขึ้นด้วย”

เจ้าหน้าที่คุมตัวนายวรศักดิ์ส่ง สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีในข้อหาทั้งเสพและค้ายาเสพติดฯ ด้านตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน เผยว่า ระยะหลังจากการเข้าตรวจค้นและจับกุมเอเย่นต์ขายยาไอซ์ จะพบเข็มฉีดยา สำหรับใช้เสพด้วยวิธีฉีดไอซ์เข้าเส้นมากขึ้น และส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มเกย์หรือชายรักชาย

2

สามีสงสัยเมียที่เป็นอัยการ เข้าห้องน้ำนานผิดสังเกต ได้ยินแต่เสียงกึกกัก ตัดสินใจใช้กุญแจไขเข้าไปดู เข่าทรุดทันที

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 พ.ต.ท.สมชาย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลชัยภูมิเกิดเหตุมีคนไข้ผูกคอฆ่าตัวตายที่บ้านพักในหมู่บ้านอโนทัย ถนนศูนย์ราชการสาย1 ชุมชนสนามบิน ในเขตเทศบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และได้มาเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินไอซียู โรงพยาบาลชัยภูมิ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจรุดไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลฯพบร่างนางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ อายุ 55 ปี อัยการจังหวัดฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯ สำนักงานอัยการจังหวัดชัยภูมิ นอนเสียชีวิตอยู่บนเปลคนไข้ ในสภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงสีนำตาล ตรวจสอบพบที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวซ้ำ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลชัยภูมิ สอบถามญาติให้การว่านางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ อายุ 55 ปี อัยการจังวัดฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯ ได้ใช้สายไฟฟ้าผูกคอตัวเองกับช่องระบายอากาศในห้องน้ำ ภายในบ้านพัก ในหมู่บ้านอโนทัย ดังกล่าว หลังจากนั้นพ.ต.ท.สมชาย รัตนวิชัย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดชัยภูมิ รุดเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุเพร้อมกับพ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ที่หมู่บ้านอโนทัย ถนนศูนย์ราชการสาย1 เลขที่265/41 ชุมชนสนามบิน ในเขตเทศบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

พบนายฉัตรชัย หนองยี่สุน อายุ 53 ปี สามีผู้เสียชีวิต ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้านพักดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ขณะที่นางสาววงเพชรศ์ น้อยคุณ ภรรยาเข้าไปอาบน้ำจะแต่งตัวเพื่อเดินทางไปทำงานที่สำนักงานอัยกสารจังหวัดชัยภูมิ สามีเห็นเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ จึงเดินเข้าไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงเอะใจได้พยามพังประตูแต่ประตูถูกล๊อกจากภายใน จึงได้วิ่งไปเรียกเจ้าหน้าที่โครงการให้นำกุญแจสำรองมาช่วยเปิดห้องน้ำ ออกดูถึงกับผงะเมื่อพบว่าภรรยา ได้ใช้สายไฟฟ้าสีขาวผูกคอตายติดอยู่กับลูกกรงเหล็กช่องระบายอากาศ ในห้องน้ำ หายใจรวยริน จึงได้แก้สายไฟฟ้าออกแล้วนำร่างขึ้นรถเก๋งรีบขับนำร่างไปส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ หลังแพทย์ได้ให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจอยู่นาน นางสาววงเพชรศ์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ นายฉัตรชัย สามีจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รุดมาสอบสวนดังกล่าว

จากการสอบถามเบื้องต้นนางสาววงเพชรศ์ เป็นคนทำงานดีตำรวจหลายนายยังออกปากชมว่าเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีให้คำแนะนำในคดีต่างๆอย่างดีมาโดยตลอด แต่เมื่อทำงานมาใกล้เกษียณอายุราชการเหลืออีก 5 ปี แต่ชีวิตราชการยังถูกปรับย้ายไปมาหลายพื้นที่ก็ยังไม่ดีขึ้นและก็ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัยการจังหวัดเลย จนจะใกล้เกษียณแล้ว ต่อมานางสาววงเพชรศ์ ได้มีอาการเครียดและซึ่มเศร้า จนเพื่อนร่วมงานต่างทราบดี ต่อมาผู้ใหญ่ได้ปรับย้ายให้นางสาววงเพชรศ์ มาเป็นอัยการประจำฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ฯอีก จึงอาจเป็นสาเหตุให้นางสาววงเพชรศ์ เกิดอาการเครียดและป่วยซึมเศร้า จนคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว หลังสอบสวนได้มอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลที่ อำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น ต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ชัยภูมิ รายงาน

2

เตรียมตัวรวยอีกคน พระเอกดัง อัพเดทสวนทุเรียน ความสำเร็จอยู่ตรงหน้า

เรียกได้ว่า “เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” คือพระเอกที่มีความขยันขันแข็งในการทำงาน หาธุรกิจใหม่ๆ มาสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ภาพที่ดินอันกว้างขวางกว่า 200 ไร่ ที่ตั้งอยู่ในหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งแวดล้อมไปด้วยภูเขา เพื่อเตรียมลงทุนทำสวนทุเรียนเป็นของตัวเอง

โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเผยภาพที่ดินอีกครั้งพร้อมระบุว่า วัดพื้นที่สร้างบ้านและที่เก็บของ สวนทุเรียนแปลงA ใกล้จะได้ลงต้นแล้ว เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคับ 😁 สุดท้ายเป็นคลิปวิดีโอคับ

2

นางเอกในตำนาน “นัยนา ชีวานันท์” อายุ 66 ยังสวยอมตะ มีลูกเขยเป็นนักการเมืองดัง

ภาพล่าสุดนางเอกในตำนาน “นัยนา ชีวานันท์” อายุ 66 ยังสวยอมตะตลอดกาล มีลูกเขยเป็นนักการเมืองดัง

เป็นนักแสดงที่โด่งดังมีผลงานได้รับความนิยมสูงสุดช่วง พ.ศ. 2514 – 2521 สำหรับ นัยนา ชีวานันท์ สาวงามจากเมืองนครสวรรค์ สู่นางเอกหน้าหวานแห่งยุค 70

นัยนา มีชื่อเล่นว่า เอ๋ เกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ จบจากโรงเรียนวัดเทพสถาพร ก็มาช่วยพ่อแม่ทำนา ต่อมาถูกชักชวนให้ประกวดเทพีงานวัดที่อำเภอบรรพตพิสัย ได้ตำแหน่งขวัญใจนางงามชาวไร่-ชาวนา เมื่ออายุได้ 15 ปี จากนั้น ประวิทย์ ลีลาไว ก็ส่งเข้าประกวดนางงามยาสระผมแฟซ่าที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้เปลี่ยนชื่อจาก มะลิ มาเป็น นัยนา ชีวานันท์ ได้ตำแหน่งนางงามแฟซ่าประจำจังหวัดนครสวรรค์ จึงถูกส่งตัวมาประกวดต่อยังเวทีใหญ่ที่สนามมวยลุมพินีในกรุงเทพมหานคร นัยนาได้ตำแหน่งรองนางงามและขวัญใจช่างภาพ จึงได้ถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสารบางกอกและสกุลไทย

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง ต่อมา ม.จ.ชาตรีเฉลิมยุคล ต้องการหานางเอกใหม่ในภาพยนตร์ที่จะสร้าง หม่อมอุบลยุคล ซึ่งเคยเป็นกรรมการตัดสินนางงามแฟซ่า จึงติดต่อไปยังนัยนาให้มาฝึกการแสดงในวังละโว้จนเป็นที่พอใจและให้นัยนาแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกคือ มันมากับความมืด คู่กับ สรพงศ์ ชาตรี เข้าฉายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2514 ตามด้วย แหวนทองเหลือง, เพชรตาแมว, ไผ่ลอดกอ, ไอ้แกละเพื่อนรัก, เขาชื่อกานต์ และกลายเป็นนางเอกชั้นแนวหน้าตั้งแต่นั้นโดยมักจะรับบทเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแบบเศร้า ๆ ส่วนมาก เธอแสดงภาพยนตร์ทั้งสิ้นประมาณ 100 เรื่อง และเคยได้รับรางวัลนักแสดงดีเด่นจากการประกวดภาพยนตร์เอเชีย-แปซิฟิคที่เมืองปูซาน เมื่อปี 2519 จากเรื่อง ขุนศึก กำกับโดย สักกะ จารุจินดา

นัยนา กลับมาแสดงละครโทรทัศน์อีกในปี 2540 เรื่อง สวรรค์บ้านทุ่ง ทางช่อง 9 อสมท. ส่วนภาพยนตร์นั้น เมื่อปี 2543 นัยนากลับมารับบทแม่ของ สเตลล่า มาลูกี้ นางเอกในเรื่อง ฟ้าทะลายโจร ของ วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง

ปัจจุบัน นัยนา ชีวิตนันท์ ในวัย 66 ย่าง 67 ยังคงความสวยหวานไม่ทิ้งช่วงสาวๆ เรียกว่างดงามสมวัย สมฉายาดาวค้างฟ้า นางเอกตลอดกาลของเมืองไทย

ชีวิตครอบครัว

นัยนา ชีวานันท์ กับสามี พันตำรวจโท บุญยิ่ง จันทรคณา นายตำรวจตงฉิน ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนที่สามีจะเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก จากไปแบบกะทันหัน จนเธอคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ความรู้สึกที่ฆ่าตัวตายหายไปเพราะนึกถึงลูก นึกได้ว่าตายไปแล้วลูกจะอยู่กับใคร

บุตรสาวของนัยนา ชีวิตนันท์ คือ ภคอร จันทรคณา (ชีวานันท์) วัย 38 ปี ชื่อเล่น อุ๊ เกิดที่ อำเภอ ตาคลี จ.นครสวรรค์ เคยมีผลงานด้านการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ นางเอกละครพื้นบ้านเสาร์-อาทิตย์ พระสุธนมโนราห์, ยอพระกลิ่น ทางช่อง 7 และ หลงไฟ ทาง ITV

นอกจากนี้ยังเดินสายประกวดเวทีนางงามต่างๆ เข้ารอบ 10 คน สุดท้าย ประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และ ประกวดนางสาวไทย เข้ารอบ 20 คน สุดท้าย รุ่นเดียวกับ หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์

อุ๊ ภคอร ชีวานันท์ เป็นภรรยาของ เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ นักการเมืองชื่อดัง

2

เฟม ว่าที่สามี แมท ภีรนีย์ ตอบเอง ปมข่าวลือซุกลูกเมีย มาหลอกคบนางเอก

จะแต่งแล้วยังไม่รอด ถูกเอี่ยวข่าวแฟนนางเอกซุกลูกเมีย เฟม ภีมเดช ว่าที่สามี แมท ภีรนีย์ ตอบเอง เคลียร์สยบทุกข้อสงสัย

หลังจากที่วงการบันเทิงมีข่าวเมาธ์ออกมาให้ตามสืบ ว่าแฟนหนุ่มของนางเอกสาวหน้าสวยรายหนึ่ง แท้จริงๆ แล้วฝ่ายชายนั้นมีลูกมีเมียแล้ว

โดยหลังจากข่าวนี้สะพัดออกไป แน่นอนว่าชื่อของนางเอกสาว แมท ภีรนีย์ ก็ถูกเอี่ยวทันที แม้ว่าจะเป็นเจ้าสาวอยู่เร็ววัน ก็ไม่รอดถูกจับโยง

แถมในไอจีของ เฟม ภีมเดช ว่าที่เจ้าบ่าวของ แมท ภีรนีย์ ก็ถูกแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ถามถึงเรื่องราวดังกล่าวด้วย

โดยข้อความถามว่า “เพจเฟซบุ๊กเพจไทยรัฐลงข่าวนางเอกหน้าสวยถูกหลอก เพราะแฟนหนุ่มมีลูกมีเมียอยู่แล้ว แล้วคนไปคอมเมนต์ว่าเป็นคุณแมทแทบทั้งนั้นเลยค่ะ รบกวนไปดูหน่อยนะคะ”

ซึ่ง หนุ่มเฟม ก็ไม่ปล่อยผ่าน เข้าไปตอบกลับทันทีว่า “เมียกำลังจะมีครับ” พร้อมอีโมจิรูปยิ้ม ก็เป็นอันว่าเคลียร์ทุกอย่างชัดเจน สยบทุกข้อสงสัย

2

ล่าหนุ่มหัวร้อน ฉุนสาวเบรกรถกะทันหัน ขี่จยย.ตามด่า บังคับจอด ปาหินใส่กระจกแตก

ล่าหนุ่มหัวร้อน ฉุนสาวเบรกรถกะทันหัน ขี่จยย.ตามด่า บังคับจอด ปาหินใส่กระจกแตก ผู้เสียหายเผยกลัวมาก ไปกับพี่สาวอีกคน สภ.นาจอมเทียน คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

วันที่ 26 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี รายงานว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง แล้วใช้ก้อนหินปาเข้าที่กระจกด้านหลังรถเก๋งจนแตกเป็นรูขนาดใหญ่

พร้อมระบุข้อความว่า “นี่แหละค่ะนิสัยต่ำที่จริงใจ เราคุยด้วยดีๆ เรามาทางตรง แต่เค้ามาทางแยกด้วยความเร็วมาก และตัดหน้าเรา เราเห็นเราก็เบรคให้ แต่กลับขี่ตามมาด่าแต่คำต่ำๆ พอเราด่ากลับแค่คำเดียว หยิบก้อนหินและขี่ตาม แล้วเราไปกันกับพี่สาว 2 คน จริงๆ รู้สึกตกใจมากเพราะก้อนหินเฉียดหัวไปนิดเดียวและก้อนใหญ่พอสมควร”

“มีปัญญาปาก็มีปัญญาชดใช้ด้วยนะคะ เราไม่ได้บอกว่าเราไม่ผิด เราผิดที่ขับรถเร็วไปหน่อย ตอนแรกเราก็ยอมรับและขอโทษแล้ว แต่เค้ามาด่าเราแรงมาก จนเราต้องตอบโต้ แต่คำไม่ได้รุนแรงอะไรแต่สิ่งที่ได้ตามภาพค่ะ….(ปาเสร็จแล้วรีบขี่รถหนี)”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.มิน อายุ 21 ปี เจ้าของโพสต์ เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่าน ขณะกำลังขับรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา มากับพี่สาว อายุ 27 ปี เพื่อกลับโรงแรมที่พักย่านชายหาดจอมเทียน พอมาถึงบริเวณสี่แยก ถนนจอมเทียนสาย 2 ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ขี่พุ่งออกมาตรงกลางสี่แยก ทำให้ตนต้องเบรกกะทันหัน

น.ส.มิน กล่าวต่อว่า ฝ่ายรถจักรยานยนต์ก็เบรกชะงักอยู่กลางสี่แยก มีผู้ชายอายุประมาณ 35-40 ปี เป็นคนขี่ หันหน้ามามองรถของตนด้วยสายตาเคียดแค้น ตอนนั้นตนคิดว่าไม่มีอะไร เพราะไม่ได้มีการบีบแตร หรือแสดงกิริยาไม่ดีใส่ ตนกับพี่สาวก็ขับรถออกมาตามปกติ

น.ส.มิน กล่าวต่อว่า หลังออกมาจากสี่แยกได้ประมาณ 200 เมตร ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขี่ตามมาประกบข้าง และเคาะกระจกรถ แล้วขับปาดหน้า บังคับให้จอดลงข้างทาง พอตนยอมจอดรถ และลดกระจกลง เพื่อจะพูดคุยกับชายดังกล่าว ปรากฏว่าถูกพูดจาหยาบคายและด่าเสียๆ หายๆ โดยที่ตนไม่ทันได้ตอบโต้ ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหา จึงปิดกระจกรถ และขับรถหนี

น.ส.มิน กล่าวอีกว่า ชายดังกล่าวยังขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลัง และใช้ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นปา ใส่เข้าที่กระจกด้านหลังจนแตกเป็นรูขนาดใหญ่ แถมก้อนหินยังเฉี่ยวผ่านศีรษะเฉียดไปนิดเดียว ส่วนฝ่ายคู่กรณีหลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวกลับ แล้วหลบหนีไปทันที เหตุเกิดขึ้นภายในซอยนาจอมเทียน 2 หมู่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

น.ส.มิน กล่าวต่อว่า ตนกลัวและตกใจมาก ทั้งที่ฝ่ายคู่กรณีก็รู้ว่าตนทั้ง 2 คนเป็นผู้หญิง วันนั้นตนขับรถความเร็วประมาณ 60 กม./ ชม. แต่เมื่อเห็นรถคันดังกล่าวพุ่งมา ตนก็เบรกทัน และไม่ได้เกิดเหตุอะไรขึ้น แต่ชายคนดังกล่าวยังโมโหตามมาก่อเหตุ เบื้องต้นมีการเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.นาจอมเทียน แล้ว

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.นาจอมเทียน เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งนำภาพที่ผู้เสียหายสามารถบันทึกภาพได้ไปทำการตรวจสอบ เพื่อหาตำหนิรูปพรรณของคนร้าย เชื่อว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุในเร็ววันนี้

2

จนท.บุกถึงบ้าน สาวโพสต์ขายปลาหมอคางดำ 3 โล 100

จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพปลาหมอคางดำในกะลามัง พร้อมข้อความว่า ปลาหมอคางดำมาแรง หนูมิ้นเองก็มีมาขายให้กับลูกค้าที่อยากทานนะคะ จนทำให้เกิดเป็นกระแสคนเข้ามาคอมเมนต์เข้าใต้โพสต์กันจำนวนมาก เนื่องจากความวิตกกังวลและสงสัยเกี่ยวกับการนำปลาหมอคางดำมาจำหน่าย ว่าเป็นปลาหมอที่ได้มาจากในพื้นที่หรือต่างพื้นที่ อาจจะเกิดปัญหาทำให้เกิดหลุดไปในแหล่งน้ำในพื้นที่และขยายพันธุ์จนเป็นปัญหาลุกลาม

ล่าสุด นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา มอบหมายให้ทาง นายนรินทร์ อติวีไร และนายขจรศักดิ์ ญวนกระโทก ปลัดอำเภอครบุรี ตรวจสอบหาตัวบุคคลที่โพสต์ขายปลาหมอคางดำดังกล่าวจนทราบว่า คือ น.ส.มินตรา อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองสาระเสร็จ หมู่ที่ 18 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

โดยน.ส.มินตรา ผู้ที่โพสต์ขายปลาหมอคางดำ บอกว่า ตัวเองเพียงแค่ก๊อบปี้ภาพจากกลุ่มซื้อขายอาหารทะเลสด มาลองโพสต์สอบถามความเห็น เพื่อจะลองรับออเดอร์ปลาหมอคางดำมาทดลองจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อหารายได้ตามประสาแม่ค้าทั่วไป เพราะเป็นปลาที่อยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน

อีกทั้งเห็นว่าเป็นปลาเอเลี่ยนสปีซีส์ที่ทุกคนกำลังต้องการจะกำจัด จึงอยากช่วยระบายปลาอีกทางหนึ่ง เพราะตัวเองก็รับอาหารสดต่างๆ มาขายเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ จึงอยากขอโทษที่ทำให้หลายฝ่ายกังวล ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะนำมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพื้นที่ และยังไม่ไดรับมาแม้แต่ตัวเดียว

นายนรินทร์ อติวีโร ปลัดอำเภอครบุรี กล่าวว่า ขอให้คนในพื้นที่อำเภอครบุรีสบายใจได้ ว่าตอนนี้ยังไม่มีใครนำปลาหมอคางดำเข้ามาในพื้นที่รวมถึงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการพบปลาหมอชนิดนี้ทั้งตามตลาดหรือแหล่งน้ำในพื้นที่แต่อย่างใด และอยากจะขอความร่วมมือไปยังบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทุกๆ คนว่าอย่าได้นำปลาหมอคางดำเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ก็ตาม จนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ออกมา ทั้งนี้ ก็เพื่อความสบายใจของทุกๆ คน

2

สงสารจับใจ! นักร้องสาวชื่อดัง ตรวจพบก้อนเนื้อในสมองสุนัข แต่รักษาไม่ได้

อีกหนึ่งนักแสดงและนักร้องสาวชื่อดังมากความสามารถสำหรับ น้ำหวาน พิมรา ล่าสุดได้ออกมาโพสต์ภาพคู่กับสนุขตัวโปรด เจ้าบานี่ ที่ได้เคยได้เข้าพบหมออยู่บ่อยคครั้งและได้เขียนข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัว

พร้อมเขียนแคปชั่นว่า จากที่ชักมาตั้งแต่เดือนเมษา หมอจึงแนะนำให้ทำ MRI เพื่อหาสาเหตุ สรุปว่าบานี่มีก้อนเนื้อในสมองขนาด 2ซม แต่อยู่ในจุดที่ผ่าไม่ได้ หมอเลยขอเจาะไขสันหลังเพื่อนำไปตรวจอีกรอบเพราะอาจจะเป็นอาการอักเสบ หรืออาจจะเป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง

ยังไม่แน่ชัดจนกว่าผลตรวจน้ำไขสันหลังจะออก สงสารน้องมากๆ แต่น้องยังร่าเริง ทานข้าวได้ปกติ ระหว่างนี้หมอก็ใช้ยาในการรักษาไปตามอาการ พี่หวานเป็นกำลังใจให้บานี่น้าาา สู้ไปด้วยกัน แฟนๆต่างส่งกำลังใจและเป็นห่วงกันอย่างมาก

2

Popular Posts

My Favorites

ฉาวไม่พัก! ชาวต่างชาติจองทริป เรือหางยาว จ่ายไป 14,000 บาท กลับได้ทัวร์สู้ชีวิต ไม่คุ้มเลย

0
เรียกว่าช่วงนี้การท่องเที่ยวไทยต้องเจอกับดราม่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยวไม่พัก โดยเฉพาะเรื่องที่กลายเป็นกระแสโซเชียลเมื่อไม่นานมานี้ อย่างเรื่องของ พี่จอง คัลแลน ณ เกาะปันหยี แต่ยังไม่ทันได้ข้อสรุป ก็ดูเหมือนจะยิ่งมีเคสจากที่อื่นโผล่มาให้กลุ้มใจขึ้นเรื่อย ๆ เพราะล่าสุด ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ในกลุ่ม Thailand Travel Advice กลุ่มแนะนำการท่องเที่ยวไทยในหมู่คนต่างประเทศ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2.5 แสนคน ที่มีนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ออกแชร์ประสบการณ์สุดผิดหวังหลังจองทริปเที่ยวทะเลด้วยเรือหางยาว เสียค่าใช้จ่ายกว่า 14,000 บาท...