เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 28 ก.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถ ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร แด่บรรพชิตจีน จำนวน 10 รูป และบรรพชิตญวน จำนวน 9 รูป ที่ได้ทรงตั้งสมณศักดิ์ใหม่ และทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่บรรพชิตจีนและญวน ทรงรับการถวายพระพรของบรรพชิตจีนและญวณ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ จำนวน 5 รูป

จากนั้น ทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลา เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลาด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ศิลา ด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ แล้วประทับพระราชอาสน์

พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใบสมิต ช่อที่ 1 ทรงรับแล้วทรงปัดพระกรซ้าย ทรงรับใบสมิต ช่อที่ 2 แล้วทรงปัดพระกรขวา ทรงรับใบสมิต ช่อที่ 3 แล้วทรงปัดพระอุระจนถึงพระบาท แล้วทรงรับน้ำเทพมนตร์ด้วยพระมหาสังข์พิธีพราหมณ์และทรงแตะที่พระนลาฏ ทรงรับใบมะตูม ทรงทัดที่พระกรรณขวา

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่โต๊ะหน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ และทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์บนแท่นซึ่งตั้งอยู่ตรงพระทวารกลาง เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมพระศิวลึงค์ทองคำ

ประธานพระครูพราหมณ์ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระศิวลึงค์ทองคำ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วเสด็จลงชานหน้าพระอุโบสถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ผู้สูงอายุฝ่ายหน้า ฝ่ายใน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานราชสังคหวัตถุ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

ต่อมาเวลา 17.54 น. ภายหลังเสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาอิสริยยศฐานันดรศักดิ์ หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล

จากนั้น ทรงหลั่งน้ำพระมหาสังข์ พระราชทานใบมะตูม และทรงเจิม พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้น 2 พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ เสร็จแล้ว

ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนหิรัญบัฏ พัดยศและเครื่องประกอบสมณศักดิ์แด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ แด่พระสงฆ์ที่ได้ทรงตั้งสมณศักดิ์ใหม่ ตามลำดับ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว พระราชทานสัญญาบัตรแก่พระครูพราหมณ์ประจำพระราชสำนัก ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ จากนั้น ทรงประเคนพัดรองที่ระลึก ฯ แด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จำนวน 73 รูป เสร็จแล้ว

เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์องค์อภิบาลพระชนมพรรษา จากนั้น ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้น บูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารรัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ ทรงศีล

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบแล้ว พระสงฆ์ 73 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบททำน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาครอบพระกริ่งปวเรศ

จากนั้น ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งปวเรศแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แล้วเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันที่ 28 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้เปิดให้บริการเดินรถไฟแบบทางคู่สายอีสาน รวมระยะทาง 42.90 กิโลเมตร ประกอบด้วย ช่วงมาบกะเบา-มวกเหล็กใหม่ ระยะทาง 13.20 กิโลเมตร และช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร ระยะทาง 29.70 กิโลเมตร เป็นวันแรก

ระหว่างทางจะมีการลอดอุโมงค์ผาเสด็จ (อุโมงค์ที่ 1) และอุโมงค์หินลับ(อุโมงค์ที่ 2) โดยอุโมงค์ผาเสด็จเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบากับสถานีหินลับ เป็นอุโมงค์คู่ทางเดี่ยว มีความกว้าง 7.50 เมตร สูง 7.00 ม. ระยะทาง 5.41 กิโลเมตร ส่วนอุโมงค์หินลับ ตั้งอยู่ที่สถานีหินลับกับสถานีมวกเหล็ก เป็นอุโมงค์เดี่ยวทางคู่ กว้าง 11.0 เมตร สูง 7.30 เมตร ระยะทาง 265 เมตร

ปรากฏว่ามีผู้ใช้บริการจำนวนมากทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยได้โพสต์คลิปวิดีโอและภาพการใช้บริการรถไฟในขบวนชั้น 3 ซึ่งเป็นพัดลม ขณะรถไฟวิ่งลอดอุโมงค์ผาเสด็จ ได้มีฝุ่นฟุ้งและควันรถจักรในอุโมงค์พวยพุ่งเข้ามาจนเต็มขบวน ทำให้ผู้โดยสารต้องปิดจมูกกันวุ่น ทั้งกล้องและโทรศัพท์มือถือมีคราบฝุ่นเกาะเพียบ ตลอดระยะทางยาวกว่า 5 กม.

โดยเพจ Thai Train Guide ได้โพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า เมื่อเข้าสู่อุโมงค์ สภาพอากาศเริ่มย่ำแย่ เจ้าหน้าที่รถไฟได้สั่งให้ผู้คนปิดหน้าต่างและสวมหน้ากากอย่างรวดเร็ว แต่ฝุ่นจำนวนมากยังสามารถเข้ามาในขบวนได้ ทำให้ต้องขยี้ตา เพราะฝุ่นเข้าตา เมื่อออกจากอุโมงค์ ทุกคนต่างปัดฝุ่นที่อยู่บนเสื้อผ้าและที่นั่งของพวกเขา ซึ่งรถไฟจะต้องกลับเส้นทางเดิม จนกว่า รฟท.จะแก้ปัญหานี้ได้

ขณะที่ชาวต่างชาติรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความใจความว่า ควันน้ำมันดีเซลบนขบวนรถด่วนที่ 71 ในอุโมงค์ผาเสด็จ สังเกตได้ว่าเคสโทรศัพท์และสายนาฬิกาข้อมือของเขามีคราบตกค้างอยู่ โชคดีที่ผู้โดยสารที่นั่งตรงข้ามได้แจกหน้ากากให้ระหว่างที่ผ่านอุโมงค์

ด้านผู้โดยสารชาวไทย ได้โพสต์ในกลุ่ม รถไฟไทย TrainThailand ระบุว่า “ขามาประทับใจ ขากลับแทบขาดใจ ฝุ่นในอุโมงค์เยอะมากๆ เลย (ผาเสด็จ-หินลับ)”

ทำให้มีสมาชิกกลุ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น “รีบเปิดเกิ๊น ไม่ได้ล้างกันเลย ไปดูงานกันก็หลายรอบ คงปล่อยให้รถวิ่งจนฝุ่นจางไปเองละมั้ง”, “ชั้นสามพัดลมไม่เหมาะสมกับทางที่ใช้เป็นอุโมงค์”

“คงเป็นปัญหาต้องแก้ไขความยาวอุโมงค์ 5 กม.กว่า หัวรถจักรที่ใช้เป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้า ควันรถจากเครื่องยนต์ดีเซลย่อมมีก็จะฟุ้งอบอวลอยู่ข้างใน ฝุ่นจากการก่อสร้างใหม่ ๆ ก็ตกค้าง อยู่ที่การรถไฟกับกรมการขนส่งทางรางต้องรีบแก้ไขครับ”

“ทุกอย่างมีปัญหาต้องรีบแก้ไขเราเป็นห่วงถ้ามีผู้โดยสารที่ป่วยระบบทางเดินหายใจร่วมเดินทางมาด้วย ฉะนั้นทุกคนต้องใส่แมสก่อนเข้าอุโมงค์ ฝากการรถไฟช่วยดูแลในจุดนี้ครับ”

“เอสที” วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเกตบอร์ดหญิง วัย 12 ปี ทำได้ดีที่สุดในอันดับ 17 การแข่งขันสเกตบอร์ด โอลิมปิก 2024 ประเภท สตรีท ที่ลา คองคอร์ด 3 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดยการแข่งขันสเกตบอร์ด สตรีทจะเป็นการแข่งขัน 2 รัน 5 ทริก โดย 2 รันแรกจะเป็นการแสดงเทคนิกต่างๆภายใน 45 วินาที เอาคะแนนสูงสุด 1 รัน และ 5 ทริก เป็นการแสดงท่าบนอุปกรณ์จำนวน 5 ครั้ง เลือกเอาคะแนนสูงสุด 3 รัน และนำคะแนนมารวมกันเพื่อคัดเลือกนักกีฬาที่มีอันดับสูงสุด 8 อันดับแรก เข้าแข่งขันในรอบไฟนอลส์

ใน เอสที – วารีรยา ลงแข่งขันในฮีตที่ 4 สองรันแรก เอสที วารีรยา พลาดในจังหวะลงพื้นทั้งสองรัน ทำคะแนนดีที่สุดในรันแรก 48.52 คะแนน จากนั้นในช่วงทริก เอสที ประเดิมด้วยท่าฟรอนต์สมิธ แต่ลงพื้นไม่ดีนักพลาดในทริกแรก

และมาสำเร็จในทริกที่สองอย่างสวยงาม 74.04 คะแนน ในทริกที่ 3 เอสที ยังทำได้ดีเก็บอีก 78.19
คะแนน ทริกที่ 4 เอสที พยายามทำท่าคิกฟลิปแต่ลงพื้นไม่สำเร็จเช่นเดียวกับครั้งสุดท้ายที่จำเป็นต้องเล่นท่ายากคิ๊กฟลิปเพื่อให้มีแต้มกระโดดขึ้นไปสู่รอบไฟนอล แต่ น่าเสียดาย ทำไม่สำเร็จ จบการแข่งขัน เอสที วารีรยา นักกีฬาอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ในโอลิมปิกเกมส์ จบที่อันดับ 17 มี 200.75 คะแนน ไม่ผ่านเข้ารอบไฟนอลส์เพื่อชิงเหรียญต่อไป

โดย 8 อันดับแรกที่เข้ารอบได้แก่ โคโค โยชิซาวะ จากญี่ปุ่น 258.92 คะแนน , อันดับ 2 อากามะ ลิซ จากญี่ปุ่น 257.99 คะแนน

วันที่ 28 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์ รายงานว่า มีหนุ่มเจ้าของบริษัทรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้นำโซลาร์เซลล์มูลค่ากว่า 7 แสนบาท มาติดให้กับวัดช้างเผือก ต.นายม อ.เมืองเพชรบูรณ์ เนื่องจากศรัทธาใน หลวงปู่ทบ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของชาว จ.เพชรบูรณ์ ที่มรณภาพไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย เพราะที่ผ่านมาได้กราบขอพรเรื่องการงานและประสบความสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง

นายวิโรจน์ สวนกูล ผู้จัดการบริษัทแอลพีเซเว่น ซัพพลาย แอนด์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นผู้รับเหมาติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสมาที่ จ.เพชรบูรณ์ และได้เข้ามากราบสักการะสังขารหลวงพ่อทบ พระเกจิชื่อดังของชาว จ.เพชรบูรณ์ที่อยู่ภายในวัดช้างเผือก

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนได้กราบขอพรและของานกับหลวงพ่อ ซึ่งประสบความสำเร็จ จึงได้มาทอดผ้าป่าถวาย กระทั่งตนได้ก่อตั้งบริษัทแอลพีเซเว่น ซัพพลาย แอนด์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด จึงมากราบขอพรเพื่อเป็นฤกษ์เป็นชัยแก่บริษัท

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ปรากฏว่าขณะที่ตนกราบขอพรอยู่นั้น จู่ๆ ลูกค้าก็โทรเข้ามาแจ้งว่า สนใจที่จะให้บริษัทตนเป็นผู้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้ทั้งโรงงาน ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านบาท ตนถึงกับขนลุกทันที จากนั้นจึงเดินทางไปประสานงานกับลูกค้ารายดังกล่าว กระทั่งตกลงทำสัญญาให้ตนเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเชื่อว่าเป็นเพราะบุญบารมีของหลวงปู่ทบ จึงสามารถทำให้บริษัทตนได้งานใหญ่ในครั้งนี้ เพราะบริษัทตนเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับงานใหญ่ขนาดนี้ จึงชักชวนเพื่อนๆ และบริษัทคู่ค้านำระบบโซลาร์เซลล์มาติดตั้งให้วัดแห่งนี้เพื่อถวายให้แก่หลวงพ่อทบ

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับท่านเจ้าอาวาสทราบว่าทางวัดมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 2 หมื่นบาท เพราะจะต้องติดแอร์ในอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อทบ รวมทั้งระบบประปา ระบบฟอกอากาศสำหรับปลาในสระเขตอภัยทาน ตนเห็นว่าเป็นภาระค่อนข้างหนัก จึงเข้ามาติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ขนาด 22.5 วัตต์ให้ จะทำให้วัดสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละ 12,00-15,000 บาท ตลอดอายุการใช้งานของโซลาร์เซลล์คือประมาณ 25 ปี

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2567 และเสร็จสิ้นในวันนี้จึงมีการทำบุญถวายภัตตาหารเพลและถวายระบบโซลาร์เซลล์ให้กับวัดเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากถวายสิ่งของต่างๆ ให้กับวัดแล้ว ทางคณะและทีมงานได้ขอให้ตนจุดธูปเสี่ยงโชคเพื่อที่จะขอโชคขอลาภจากหลวงปู่ทบ เพื่อที่จะเอาไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 ส.ค. 2567

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนจึงอธิษฐานและจุดธูปเสี่ยงทาย โดยเลขที่ได้ 2 ตัวแรกที่เห็นชัดเจนคือ 97 ส่วนตัวสุดท้ายน่าจะเป็นเลข 6 เรียกกันเป็นหมายเลข 976 ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่โชคและวาสนาของแต่ละคน

เรียกได้ว่าช่วงนี้หัวใจของนางเอกซุปตาร์ เบลล่า ราณี ก็กำลังเป็นสีชมพู เมื่อเธอกำลังเริ่มต้นความรักกับนักธุรกิจหนุ่มจากตระกูลดังอย่าง วิล ชวิณ หรือ ชวิณ เจียรวนนท์ ล่าสุด (25 ก.ค.) สาวเบลล่าได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับความรักหลังจากที่มีหลายคนสงสัยว่า เหตุใดเธอจึงไม่ติดตามอินสตราแกรมเหมือนคู่รักอื่นๆ ซึ่งเบลล่า ได้ออกมาตอบข้อสงสัยนี้ว่า

” ก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะรอโอกาสที่เหมาะสม ก็ไม่รู้เหมือนกันมันเขิน! กดไลก์เท่าที่ทุกคนเห็น มีคนเเท็กมาเราก็เห็น ไม่รู้ทำไมเหมือนกันไม่ได้รอให้เขาติดตามเราก่อน เดี๋ยวก็เป็นข่าวเป็นอะไรอีก ก็เท่าที่ทุกคนเห็น มีคนแท็กมาให้อีกทีนึง มันยังไม่มีโอกาส ถ้าเราไปฟอลโลว์ก็จะเป็นข่าวเป็นอะไรอีกไง”

ถือเป็นข่าวดีที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมื่อ “แมน การิน” และ “เกล รดา” ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัวชื่อว่า “น้องเกน” ซึ่งคุณแม่เกลได้ให้คลอดน้องในเช้าวันนี้ 28 กรกฎาคม

โดยเธอได้โพสต์ข่าวดีนี้ ระบุว่า กราฟมีน้องแล้วนะคร้าาา ชื่อน้องเกน @gain_gonpath ค่ะ ฝากน้องเกนไว้ในอ้อมออกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ

ที่อาศรมฤาษีเณร ธาตุพุทธคุณ ถนนวงแหวนตะวันตก หมายเลข 9 ต.โพธิ์แตง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางมากราบไหว้ ท้าวเวสสุวรรณ ปาง 9 หน้า สูง 16 เมตร พ่อปู่ฤาษีพรหมเมศ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก กุมารทองเจ้าสัวเฮง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในอาศรม

เพื่อขอโชค ขอพร และยังได้ให้อาจารย์ฤาษีเณร เจิมฝ่ามือเปิดดวงเศรษฐี ถวายข้าวสาร ยกพ่อแก่เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยระหว่างพิธียกพ่อแก่ หลายคนมีอาการสั่น ร้องไห้ ตะโกน คล้ายอาการของขึ้น

ซึ่งได้มี น.ส.อรพินท์ แสงต้น อายุ 30 ปี แม่ค้าขายนมเปรี้ยว เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม นำน้ำแดง พวงมาลัย ประทัด มาแก้บนกุมารทองเจ้าสัวเฮง หลังขอให้ถูกลอตเตอรี่ และก็สมหวัง ถูกรางวัลที่ 2 รับเงินไป 2 แสนบาท

โดย น.ส.อรพินท์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เดินทางมาที่อาศรมเป็นครั้งแรก ก็ขอพร แล้วก็ถูกรางวัลที่ 2 จำนวน 1 ใบ โดยได้เลขเด็ด จากการจับลูกปิงปองหน้ากุมารทองเจ้าสัวเฮง โดยบอกว่า ขอรางวัลที่ 2 เพราะรางวัลที่ 1 มีคนขอเยอะแล้ว ซึ่งก็ได้รางวัลที่ 2 จริง ๆ จึงเดินทางกลับมาแก้บน ซึ่งก่อนเดินทางกลับ ยังได้จับเลขปิงปองหน้ากุมารทองเจ้าสัวเฮงอีกครั้ง ได้เลข 9 8 7 ซึ่งจะนำเอาไปเสี่ยงโชคงวดวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่จะถึงนี้

ชูเปอร์คาร์หรู เมาซิ่งฝ่าไฟแดง ชน2นักศึกษาม.ดัง ถอยทับร่างซ้ำ ญาติคาใจทำไมยังขับไปต่อ เผยคนเจ็บต้องพักการเรียนทั้งเทอม หวั่นกลับมาไม่เหมือนเดิม

วันที่ 28 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปรถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดง รถซูเปอร์คาร์หรูขับฝ่าไฟแดงชนรถจักรยานยนต์กระเด็นลากร่างคนซ้อนท้ายติดไปกับรถ แล้วยังถอยกลับมาทับร่างคนขับขี่

โดยเพจเชียงใหม่ CM108 ข่าวเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพวินาทีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขี่มาจอดติดไฟแดง บริเวณแยกบริเวณแยกฟ้าธานี อ.เมืองเชียงใหม่ มีชายวัยรุ่นเป็นคนขี่และมีเพื่อนสาวซ้อนท้าย แต่ระหว่างจอดรอไฟแดงอยู่นั้น จู่ ๆ มีรถเก๋ง ขับมาจากถนนศิริมังคลาจารย์ พุ่งชนจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงแบบไม่มีเบรก ทำให้ร่างชายคนขี่กระเด็นกระแทกพื้นถนน ส่วนเพื่อนสาวร่างติดหน้ารถถูกลากไปไกลกว่าสิบเมตรไปคาที่ฟุตปาธ

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพบว่าคนขับรถไม่ได้ลงจากรถมาช่วยเหลือหรือดูเหตุการณ์ในทันที แต่พอชนแล้วยังถอยรถกลับมาทับร่างชายคนเจ็บที่ยังนอนอยู่กลางถนน ก่อนจะขับออกไปจอดอยู่ริมถนน พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาช่วยคนเจ็บ พร้อมกับเข้าไปพาตัวคนขับเก๋งออกมาจากรถเพราะกลัวหลบหนี โดยพบว่าคนขับเป็นชายวัยรุ่นอยูในสภาพเมาหนัก แค่เดินยังเซ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีพลเมืองดีโพสต์เล่าเหตุการณ์พร้อมยืนยันว่าชายคนขับเก๋งอยู่ในอาการเมาและท่าทีไม่ได้มีความสนใจใยดีกับคนเจ็บที่นอนอยู่เลย มีเพียงคำพูดถามมาว่า พวกคุณเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ผมชนรึไง

เขาไม่คิดจะถามด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนมีชีวิตอยู่หรือไม่ สุดท้ายรถโรงพยาบาลมารับน้องผู้ชายและน้องผู้หญิง ได้สติพอจะสื่อสารได้ก่อนขึ้นรถโรงพยาบาลจากไป ขอให้น้องทั้งสองคนหายไวๆ นะครับส่วนคนขับพอชเดาว่าอาจจะรอดไปได้ คงหวังได้แค่ให้พระเจ้าเป็นผู้ลงโทษท่านเองแล้วกัน คนเห็นเหตุการณ์เล่า

ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลพบว่าคนเจ็บที่ถูกชน เป็นหญิง อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 3 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ส่วนฝ่ายชาย อายุ 22 ปี ซึ่งขณะนี้ทั้งสองคนยังพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดย หญิงสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสและเพิ่งออกจากห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนชายผู้บาดเจ็บอาการยังหนักเพราะถูกรถทับจนตับแตกและยังมีอาการบาดเจ็บอีกหลายแห่ง

หญิงผู้บาดเจ็บเล่าว่า เวลาเกิดเหตุประมาณ ตี 3 เธอกับชายผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นรุ่นน้อง ขี่จักรยานยนต์พากันไปกินข้าว หลังกลับจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยขี่รถมาตามถนนศิริมังคลาจารย์ และมาติดไฟแดงที่บริเวณสามแยกฟ้าธานี แต่แล้วจู่ ๆ ก็ถูกรถเก๋งพุ่งเข้าชนทางด้านหลังอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ตอนนั้นจำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งมาเห็นภาพในคลิปวิดีโอที่ได้มาจากพลเมืองดีภายหลังทำให้รู้สึกตกใจมาก

โดยเก๋งที่ชน แทนที่จะจอดลงมาดู กลับขับเร่งเครื่องลากร่างของตนไปตามถนน จนกระทั่งสุดทางซึ่งเป็นฟุตปาธ คนขับรถเก๋งได้ถอยรถแล้วทับร่างของชายผู้บาดเจ็บ ที่ขณะนั้นนอนนิ่งอยู่กลางถนน แล้วรถเก๋งก็ยังขับเดินหน้าเหมือนจะพยายามจะขับไปต่อ ทั้งๆที่ร่างของชายผู้บาดเจ็บ ยังติดอยู่ใต้รถ ก่อนล้อหลังจะขับย่ำทับร่างอีกครั้ง

แล้วรถก็ขับไปจอดข้างห่างไปจากจุดชนประมาณ 30 เมตร โดยตอนนั้นมีพลเมืองดีได้วิ่งไปเปิดประตูรถของคนที่ขับชน แล้วคนชนก็เดินลงมา เหมือนมีอาการมึนเมาลงมาดูก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์จะช่วยเหลือนำตนและชายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด 27 ก.ค.67 ชายคู่กรณีที่ขับรถชนได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมเธอและชายผู้บาดเจ็บ เป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุ โดยขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งบอกว่าจะรับผิดชอบในทุกเรื่อง ขอให้เธอกับชายผู้บาดเจ็บรักษาตัวจนหายดีแล้วค่อยมาเจรจาในเรื่องของคดี

หญิงผู้บาดเจ็บบอกว่า สิ่งที่ยังติดใจคือเรื่องในวันเกิดเหตุทำไมถึงไม่หยุดรถ แต่กลับขับชนแล้วลากร่างของตนไปตามถนน อีกทั้งยังขับรถถอยมาทับร่างของชายผู้บาดเจ็บที่นอนอยู่กลางถนน อยากให้ทางคู่กรณีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้และขอให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ด้านพี่สาวของผู้บาดเจ็บให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบกับทางคู่กรณี ก็บอกว่าในวันนั้นไปเลี้ยงฉลองวันเกิดแล้วมีอาการเมามากตอนขับรถ ส่วนอาการของน้องสาวตอนนี้ ก็ดีขึ้นแต่มีกระดูกหักหลายแห่ง

ทั้งบริเวณด้านหลัง ลามมาถึงหัวไหล่ รวมไปถึงบริเวณสะโพก และขา และมีบาดแผลถลอกฟกช้ำบริเวณร่างกายและใบหน้า ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุก็ทำให้น้องต้องพักการเรียนไปเลยทั้งเทอม เนื่องจากไม่สามารถไปเรียนได้แล้วตามปกติ เพราะยังไม่ได้รับการผ่าตัด และอาจจะต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวอีกนาน

ส่วนฝั่งของคู่กรณีได้เข้ามาเยี่ยมน้องและพูดคุยกับทางครอบครัวผู้เสียหายแล้ว เบื้องต้นยอมรับผิดทุกอย่างและยินยอมให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน รวมไปถึงรับผิดชอบในเรื่องของความเสียหายและการรักษา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจมากเพราะตอนนี้น้องได้รับบาดเจ็บมาก ประกอบกับน้องก็ทำงานหาเงินและเรียนไปด้วย แต่พอมาเกิดประสบอุบัติแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่

เครดิต CM108 ข่าวเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เรียกได้ว่า เป็นอีกคู่ที่แฟนต่างรอวันแต่ง อย่าง โจอี้บอย และแฟนสาว อย่าง เตย เมษินี ล่าสุดได้เข้าพิธีแต่งงานแล้ว ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ โรงเเรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เจ้าบ่าวเจ้าบ่าว สวยหล่อมากๆ และบรรยากาศในงานก็อบอุ่นสุดๆไปเลย

ขอแสดงความยินดีด้วยจ้า

โหรรัตนโกสินทร์ – The rattanakosin ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือน ระบุว่า มรสุมชีวิต..ชัดๆ

ดาวพุธวิปริต 67 วัน

ดาวเสาร์วิปริต 127 วัน

ผู้ประสบภัยจากดวงดาว 8 ลัคนา เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน คือ เมษ พฤษภ กรกฎ สิงห์ กันย์ ธนู มังกร กุมภ์

สิ่งใดควบคุมไม่ได้ พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง เข้มแข็งไว้ อย่าให้กระเป๋าตังค์ร้องขอชีวิต #ดวงไทยไว้ใจโหรรัตนโกสินทร์

โพสต์ดังกล่าว

เรียบเรียง สยามนิวส์