แม่เมย์ เล่าวินาทีบีบหัวใจ ก่อน น้องเอวา จะหมดลม บอก ‘ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม?’ ยันไม่เคยเปิดรับบริจาค
จากกรณี แม่เมย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพแม่เมย์จับมือน้องเอวา เพื่อบอกลาครั้งสุดท้าย เพราะลูกนั้นเสียชีวิตลงแล้ว จากอาการป่วยมะเร็งต่อมหมวกไต ระยะสุดท้าย โดยแม่เมย์ระบุว่า “เดินทางไปรอแม่ที่ดาวก่อนนะลูก เดินไปตามทางสวนดอกไม้สวยๆ ไม่เจ็บปวด ไม่ทรมานอีกแล้ว ลืมมันไปให้หมดเลยนะลูก ทิ้งความเจ็บปวดไว้ในชาตินี้ให้หมด พอแล้ว…. เกิดมาใหม่ขอให้หนูร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บนะ รักสุดหัวใจน้องเอวา”
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่ วัดสระแท่น ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบพ่อแม่ของน้องเอวา ได้นำร่างลูกสาววัย 11 ปีมาที่ศาลาการเปรียญภายในวัด และทำพิธีรดน้ำศพหนูน้อย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มองดูร่างอันไร้วิญญาณของลูกสาวอยู่ไม่ห่าง
น.ส.ณัฐสุดา หรือแม่เมย์ เปิดเผยว่า น้องเอวา อายุ 11 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ขณะนั้นน้องเอวาได้เรียนหนังสืออยู่ในระดับชั้นอนุบาล 2 หลังจากที่อาการโรคร้ายกำเริบหนัก น้องเอวาไม่สามารถที่จะไปเรียนหนังสือร่วมกับเพื่อนๆ ได้ เพราะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงด้วยโรคร้ายที่รุมเร้าในร่างกาย แม่ได้ส่งน้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ โดยให้คุณหมอคีโม แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ได้แต่ให้กำลังใจและปลอบใจลูกสาวทุกๆ วันเพื่อให้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้ายนี้ไปวันๆ
แม่เมย์กล่าวต่อว่า และ 8 เดือนหลังที่ผ่านมาโรคร้ายกำเริบหนัก ร่างกายของน้องเอวามีแต่ทรุดลง คุณแม่ก็ได้แต่พูดปลอบใจและให้กำลังใจลูกสาว ซึ่งลูกสาวพูดเก่งกินเก่ง และลูกสาวก็สิ้นลมหายใจไปด้วย อายุเพียง 11 ปี จะตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ 3 คืน อยากขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปสู่ภูมิภพที่ดี แม่รักลูกสุดหัวใจน้องเอวา
แม่เมย์กล่าวต่อว่า เมื่อวานตอนเย็นยังเห็นน้องเอวาว่ายังดีอยู่ ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาก็ไปแล้ว ไม่ได้บอกลาอะไรกันเลย แต่ช่วงก่อนหน้านั้น ที่จะนิมนต์พระมาสวด น้องดูแย่มากๆ ดูไม่ดี ตนคิดว่าน้องคงไม่อยู่แล้ว เขาคงจะไปแล้ว จึงบอกลาลูก แต่วันนี้มันเร็วไปหมดตอนที่เขาไม่มีลมหายใจตนยังช็อก มาพูดตอนที่น้องไปแล้ว ถ้าน้องรับรู้ได้ อยากบอกว่า ไม่ต้องห่วง แม่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะน้องเอวาห่วงตนมาก จะบอกลูกให้ไปรอแม่ก่อนเดี๋ยวแม่ตามไป เดี๋ยวได้เจอกัน เขาเก่งที่สุด ตนกับลูกสู้กันมามากแล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้ว รู้สึกว่าเขาไปสบายจริงๆ
แม่เมย์เล่าต่อว่า ก่อนที่น้องจะเสีย เขาปวดตัวมาก นั่งกอดกัน 2 คน ตนก็ถามลูกว่า เอวารู้ไหม ตายแล้วจะเป็นอย่างไร เอวาบอกว่า หนูไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน หนูรู้แค่ว่าหนูอยากอยู่กับแม่ ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม หนูไม่อยากอยู่คนเดียว ตนก็ได้แต่บอกลูกว่า หนูจะมีแม่อยู่ข้างๆ อยากรู้ความรู้สึกเขาตอนนี้เป็นอย่างไร เอวาถามว่าโรคของหนูเป็นหนักเลยเหรอ เราก็บอกว่าโรคหนูดื้อมากๆ แต่ไม่เป็นไร แม่จะอยู่ข้างๆ ลูกตลอด
น้องมีไข้สูง 39 องศา และอวัยวะของน้องเป็นหนอง ลิ้นเป็นห้อเลือด มีหนองไหลออกจากปาก ตนก็พาน้องไปแอดมิดเลย ก็ดูเรื่องติดเชื้อ พอติดเชื้อผ่าน ก็เป็นงูสวัดขึ้นตา น้องมีภูมิต่ำ เป็นตุ่มเล็กๆ ใสๆ พอตุ่มแตกก็ลามไปหมดเลย ตาปิด 2 ข้างไปเลย น้องก็สู้ขนาดตาปิดก็ยังกินข้าวได้ แม่จ๋าขอระบายสีได้ไหม น้องสู้จริงๆ ที่น้องสู้เพราะน้องอยากอยู่กับตนจริงๆ ตนก็รู้ว่าใจเขาไม่อยากไป แต่น้องใจสู้
ทั้งนี้ แม่เมย์ยันว่า ตนไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใดเลย เคยมีเพื่อนโทรมาบอกว่าใน TIKTOK เอาชื่อตนไปลงเพื่อขอบริจาค ซึ่งตนก็ได้ลงเพจไปแล้วว่า ไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใด