ออย ธนา เปิดใจสถานะโสดรับเลิก เธอ รวรีย์ แยกกันอยู่มาครึ่งปี ตอนนี้โฟกัสแค่เรื่องลูก รับได้คนกลางไกล่เกลี่ย เผยเจ็บจนจุก ถึงขั้นเป็นซึมเศร้า มดดำ ยังบอก จบแบบโหด
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวว่า ออย ธนา ได้เลิกราและแยกทางกับภรรยา เธอ รวรีย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด (25 เมษายน 2565) ออย ก็ได้ออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวผ่านรายการ แฉ พร้อมยอมรับสถานะตอนนี้โสดมาเกือบครึ่งปีแล้ว ซึ่งช่วงแรกที่ชวนมาออกรายการยอมรับว่ายังมาไม่ไหว ไม่รู้จะพูดอะไร กลัวพูดไปแล้วจุก
โดยตอนนี้เหลือเพียงสถานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ถามว่าจุกขนาดไหน คือพอเราตั้งเป้าโกลสุดท้ายไว้ว่า มนุษย์พ่ออย่างเรา ครอบครัวเราอยากสร้างให้ดีก่อน วันหนึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันหายไป มันไม่รู้จะทำอะไรเลย คือก็มี พี่ดุ๊ก ภาณุเดช ไลน์มาถามเป็นไงบ้าง เราก็บอกว่าไม่รู้จะทำอะไรเลยพี่ แบลงก์ไปหมด ถ้าทำงานยังมีอะไรให้คิด แต่เมื่อไหร่ที่อยู่คนเดียวมันจะคิดวนไปวนมา หลาย ๆ อย่าง เพราะอะไร ทำไม ไปเรื่อย ๆ ในช่วงแรก ๆ
ส่วนเรื่องมันเกิดจากโพสต์ไอจีเศร้า ๆ เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามันคงฟุ้งซ่าน ไม่รู้จะทำอะไร หาทางออกทางโน้นทางนี้ระบาย ทั้งที่มันไม่ควรบ้าง เราก็หาเพื่อนคุย โพสต์ เขียน แล้วก็มีกำลังใจดี ๆ พออ่านก็ช่วยได้เยอะ
ด้าน มดดำ ก็บอกว่ามีคนถามเยอะมาก แต่เราไม่มีไลน์ได้แต่ฝากคนอื่นไปบอกให้สู้ ๆ นะ เพราะเขาก็เปลี่ยนไปเยอะ วันหนึ่งมีครอบครัวฝันเต็มที่ ไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ยังมีลูกไง ด้านออยก็เผยว่า ใช่เราก็ช่วยกันทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยอมรับว่ามันอาจจะไม่สมบูรณ์มาก เรายังเป็นพ่อแม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ช่วยกันทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ให้เขาไม่ได้ขาดอะไร
ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับชีวิตคู่ที่บอกว่าตัวเองที่เวิ่นเว้อจนทำให้เข้าใจผิดไป ออยก็ชี้แจงว่า หลายคนคงจะเดาเป็นอะไร เขียนอะไรที่ไม่ควรเขียน เราก็เหมือนขอโทษด้วยมีบางสิ่งกระทบบางคนที่เสียหาย คือเป็นเราที่เวิ่นเว้อไปเอง พยายามจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนทุกคู่ที่มีปัญหาบ้าง และมันเดินมาถึงจุดหนึ่งที่คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เราทำยังไงกันดี ดีกว่า เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอนนั้นก็ช่างมัน เอาเป็นว่าจะเดินหน้าต่อไปยังไงให้ดีที่สุด
เมื่อถูกถามว่า มีช่วง 3 เดือนเก็บตัวไม่เจอคนเลยเหรอ ซึ่งออยก็กล่าวว่า ตอนนั้นยังทำงานต่อ ละครใกล้จบ ช่วงรอยต่อละคร ก็ว่างด้วย มีโควิดไม่ควรออกไปไหนด้วย หลาย ๆ อย่างรวม ๆ กันก็ไม่ได้อยากเจอใคร ตอนนั้นก็อยู่กับตัวเองตลอดเวลา มันก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี ข้อดีมีเวลาคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ควรจะทำอะไร ข้อไม่ดีมันจะวนเวียน เราจะอยู่ที่เดิม
มดดำ ยังถามถึงว่าเป็นพระเอกมาตั้งแต่เด็ก ตอนจบละครแฮปปี้เอนดิ้ง ชีวิตจริงเป็นไหม ซึ่งออยก็ตอบว่า มันไม่เสมอไป ทุกคนมีทางเดินที่ต่างกันไป มุมมองที่ต่างกัน บทสรุปความคิดที่ไม่เหมือนกัน โจทย์มีเยอะมากมายสามารถเกิดอะไรขึ้นได้กับชีวิตทุกคน จุดที่ตนยืนก็ไม่เหมือนกับจุดที่เขายืน เพราะเรามองไม่เหมือนกัน
ออย ยังยอมรับว่ากว่าจะตั้งหลักได้วนเวียนในตัวเองหลายเดือน จนรู้สึกว่าเราออกไปทำงานไม่ได้ ออกไปใช้ชีวิต ไปเล่นละครไม่ได้ จนไลน์คุยกับเพื่อนไม่ไหวแล้ว ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตเดินต่อไป ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไร เหมือนหลอกตัวเอง สะกดจิตตัวเองว่าพอแล้วไม่เสียใจแล้ว พอแค่นี้ คิดดีกว่าว่าเราจะทำอะไร แต่ก็ได้แบบหลอก ๆ แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย พยายามใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไร มันยากที่จะออกมาพูดอะไร คือเราอึดอัด ตอนนั้นก็หาอะไรมาทำเพื่อให้ลืม
สำหรับเรื่องลูกจากที่ไม่ได้เจอลูกก็ได้กลับมาเจอลูกทุกอาทิตย์แล้ว ซึ่งออยเปิดเผยว่า จากที่เราตกลงกันไม่ได้ หาคนกลางมาคุยไกล่เกลี่ยให้เรา เป็นคนที่สำคัญพอให้เรายอมรับ มีคนคุยให้มีบทสรุปที่มีผลทางข้อกฎหมาย ให้เราปฏิบัติ
งานนี้ทำเอามดดำถึงกับบอกว่า จบแบบโหดเหมือนกันเนาะ ด้าน ออย ก็บอกว่าให้เรียกว่าจบแบบเคลียร์ดีกว่า ไม่สนว่าคุณจะมีปัญหาอะไรกัน เอาต่อจากนี้คุณต้องทำอะไร ซึ่งมันก็มีขึ้นมาก ต่อไปนี้เราไม่สนว่าเราจะทะเลาะอะไรกัน เราจะโฟกัสที่เด็กให้ได้ประโยชน์ที่สุด เขาก็สั่งเรามาสั่งเขามา มีผลทางปฏิบัติต้องช่วยกันดูแลให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องของอนาคตถามว่าจะมีคนมาดูแลเราไหมหรือปิดประตูไปเลย เข็ดกับความรักไปเลยไหม คือตอนนี้ยังไม่รู้เลย ตอนนี้ทำทีละอย่าง เราเพิ่งพ้นจากความมึน อึดอัด จากที่เราไม่รู้ว่าจะทำอะไรและรู้สึกว่างเปล่ามาก หายไปหมดเลย แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วเราต้องดูแลลูกเรา
ขณะที่ น็อต ก็บอกว่าโชคดีที่ไม่เป็นถึงโรคซึมเศร้า ซึ่งออยก็บอกว่า มีซึมเศร้า เข้าใจคนที่ดาวน์สุด ๆ มันสามารถคิดอะไรไม่ดีเยอะแยะมันมี คิดว่าทุกคนต้องมีที่่ผิดหวังจากอะไรบางอย่าง หล่นจากตึกแรง ๆ มันไม่รู้ว่าเจ็บด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ดีขึ้น ได้มาดูแลลูกสาว มีส่วนช่วยให้เขาเจริญเติบโตไปช่วยกันดูแล คือเราก็ติดลูกมาก