วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาย อายุ 66 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน หลังจากที่ลูกชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 39 ปี หายตัวไปหลังจากโอนเงินให้ 1 ล้านเยน
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้แจ้วแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชาย คือ MR.TAKAHIRO NISHI อายุ 39 ปี สัญชาติ ญี่ปุ่นเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทยหลังจากนั้นเมื่อวันที่29 มิ.ย.63 ผู้แจ้ง ได้ติดต่อกับลูกชายทางไลน์เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากจากนั้นผู้แจ้งไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้อีก
ผู้แจ้งจึงติดต่อมายังสถานทูตญี่ปุ่นโดยได้รับแจ้งจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ว่าMR.TAKAHIRO NISHI ได้ถูกจับกุมตามหมายจับตามคดีอาญาเลขที่ 797/2563 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ส่งดำเนินคดีที่ศาลแขวงพระนครใต้ ต่อมาลูกชายของผู้แจ้งได้หนีประกันในชั้นชั้นศาลและได้มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.321/2565
พ่อญี่ปุ่นร้อง ตร.คลองตัน ลูกชายหนีประกันชั้นศาล หายตัวปริศนา หลังโอนเงินให้ 1ล้านเยน
จากนั้นวันที่ 9 มิ.ย.2566 ผู้แจ้งได้รับข้อความทางอีเมลแจ้งว่าลูกชายมีอาการป่วยหนักต้องใช้เงิน ผู้แจ้งจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารญี่ปุ่น จำนวน 1ล้านเยน หลังจากนั้นวันที่ 21 มิ.ย.2566 ได้มีอีเมลมาหาผู้แจ้งอีกบอกว่า ต้องใช้เงินอีก 300,000 เยน แต่ผู้แจ้งไม่ได้โอนเงินให้ไป จากนั้นผู้แจ้งจึงตรวจสอบกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
พบว่าบุตรชายของผู้แจ้งเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ผ่านด่านตม.หนองคาย และมีการต่อวีซ่าล่าสุดที่ตม.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 และจะสิ้นสุดการอนุญาตเมื่อปี 2565 โดยลูกชายของผู้แจ้งยังไม่ได้มีการเดินทางออกจากประเทศไทย ผู้แจ้งเกรงว่าบุตรชายจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามหาบุตรชายของผู้แจ้งต่อไป