จากสถานการณ์เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1-5 ส.ค. ในระดับคงที่ แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมาท้ายเขื่อน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ต่อมา นายจักราวุธ สุทธรวิภาต ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาขุนด่านปราการชล ยืนยันประตูน้ำและเขื่อนไม่พัง ส่วนสาเหตุน้ำท่วมมาจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหล 220 ล้านลูกบาศ์กเมตร ลงแม่น้ำนครนายก ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 5 ส.ค.67 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นผู้ประกอบการในพื้นที่ โพสต์คลิปช่วงกลางดึกระบุว่า รับแจ้งจาก ผอ.เขื่อนขุนด่านปราการชล ว่าประตูระบายน้ำพัง ปิดน้ำไม่ได้ ทำให้น้ำออกมาเยอะ และไปท่วมพื้นที่ด้านล่าง ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาเพราะอะไร เพราะอะไรถึงปิดประตูเขื่อนไม่ได้ หากชาวบ้านตาย ใครจะรับผิดชอบ ขอฝาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดูแลด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนและข้าราชการไม่ดูแลเลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนลุงเล็ก หนึ่งในสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ได้รับความเสียหาย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหลับนอนตอนกลางคืนต้องรีบเก็บของหนีน้ำ
เจ้าของสวนลุงเล็ก เปิดเผยว่า น้ำป่าไหลเข้าท่วมตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม สูงประมาณ 10 ซ.ม. แต่ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง น้ำก็ยุบ จากนั้นตนและพนักงานช่วยกันทำความสะอาดพื้นจนเสร็จเรียบร้อย เตรียมกลับบ้านตอนประมาณตี 2 ตอนนั้นเห็นความผิดปกติ น้ำไหลมารอบ 2 จึงเอะใจว่ามาได้อย่างไร และมาด้วยความเร็ว ไต่ระดับความสูงมาถึงระดับหน้าอก ภายในไม่กี่นาที สูงถึง 1-1.5 เมตร โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงจนหมด
เจ้าของสวน กล่าวอีกว่า คิดว่าน้ำมาจากเขื่อนขุนด่านปราการชล สาเหตุที่เชื่อ เพราะหากเป็นน้ำธรรมชาติที่มาจากแหล่งน้ำตกนางรอง คงมาและลดไปแล้วตั้งแต่รอบแรก แต่จากประสบการณ์ที่อยู่พื้นที่มาทั้งชีวิต น้ำป่าจะมาเพียงแค่รอบเดียว และจะไม่มาซ้ำในเวลาเดียวกัน