เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

วันที่ 11 ส.ค.2567 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า “ขออนุญาตลงโพสต์นี้นะคะ และต้องขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของภาพก่อน บังเอิญเราอยู่หมู่บ้านที่เห็นนักแสดงท่านนี้ที่รับบทพระในหลาย ๆ เรื่อง ตอนนี้แกอาจจะไม่มีงานละครเลย หรือไม่มีคนจ้างเลยค่ะ

แกนั่งขายน้ำพริกอยู่ท้ายหมู่บ้านร่มเย็นคลอง 2 ลำลูกกา กระปุกละ 10 บาท มีเก้าอี้ตัวหนึ่ง โต๊ะตัวหนึ่งวางแล้วดูท่าทางจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เราอยากให้หน่วยงานเข้าไปดูแลช่วยเหลือแก เพราะที่บ้านเราไปขายของค่ะ แล้วแม่ค้าตรงนั้นสงสารก็เลยซื้อให้แกกินทั้งผัวทั้งเมียเลย

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

เปิดชีวิต อดีตนักแสดงดัง วัย 71 ปี เล่นหนัง-ละครดังหลายเรื่อง สุดลำบาก ผันตัวขายน้ำพริก ได้วันละ 100 บาท อยากมีงานบรรเทาค่าใช้จ่าย ไร้เพื่อนในวงการเยี่ยม

เราไม่แน่ใจว่าผู้หญิงที่มาช่วยขายใช่เมียแกหรือเปล่า เพราะดูสติจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อยากให้ข้อความนี้ส่งไปถึงหน่วยงานหรือเทศบาลคูคต หรือเพจสายไหมให้เข้ามาช่วยเหลือดูแกหน่อยได้ไหมคะ

เพราะแกจะใส่อยู่ชุดเดียวตลอดคือเสื้อสีดำกับกางเกงขาสั้นสีดำคล้ายชุดนักกีฬาแล้วก็นั่งอย่างนั้นทุกวันเวลาที่บ้านเราไปซื้อของหรือขายของตรงนั้นก็จะเห็นแกนั่งมองตอนนั้นคนนี้เขาซื้อของกินแล้วอดไม่ได้ค่ะเลยต้องนำมาลงช่วยกันแชร์หน่อยนะคะ”

หลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ค้นหาความจริง และสอบถามชาวบ้านทราบเรื่องที่มีคนโพสต์นั้นเป็นเรื่องจริง และได้พบชายดังกล่าวทราบชื่อ นายโยธิน มาพบพันธ์ อายุ 71 ปี ก่อนที่จะเป็นนักแสดง เคยมีอาชีพเป็นช่างภาพให้นิตยสารฉบับหนึ่ง

เพื่อนชักชวนให้เป็นดารารับเชิญ มีคนในกองถ่ายทักว่า หน้าเหมือนสมเด็จโต พรหมรังสี จึงแคสบทพระ ต่อมาได้โกนศีรษะ หน้ายิ่งเหมือนสมเด็จโต เลยได้บทพระเรื่อยมา

จากการสอบถาม ป้าสาคู (นามสมมติ) อายุ 67 ปี เปิดร้านขายสาคู กล่าวว่า เคยเห็นแสดงเป็นพระในหนังและในละคร ซึ่งเขาขายน้ำพริกกระปุก น่าจะประมาณ 15 บาท เห็นขายมานานแล้ว แต่รู้ว่าเขาเคยเป็นดาราหนังและเคยแสดงหนังแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเขายังแสดงหรืออะไรอยู่ไหมไม่รู้เหมือนกัน

ป้าสาคู กล่าวต่อว่า แต่เขาก็ยังพูดรู้เรื่องอยู่นะ ดูชีวิตเขาเหมือนจะลำบาก ทราบมาว่าเขาคอยดูแลหอพัก แต่คนแถวนี้ไม่ค่อยรู้จักแต่ป้ารู้จัก ป้าจำได้ แต่เขาก็ไม่แสดงตัวว่าเขาเป็นดารา ก็ดีนะเขารู้จักค้าขาย รู้จักทำมาหากิน แต่ก็มีคนมาสนับสนุน

ป้าสาคู กล่าวอีกว่า ขายตั้งแต่เวลา 06.00 น. สาย ๆ ก็กลับแล้ว รู้มาว่าคอนโดที่เขาพักอาศัยนั้นเป็นเพื่อนที่ให้มาพักที่รู้จักกัน อัธยาศัยดีไม่หยิ่ง ซึ่งขายอยู่ปากซอยใกล้ ๆ กับป้านี่แหละ ใช้รถเข็นเล็ก ๆ ลากเข็นมาวางขาย มากัน 2 คน 2 ผัวเมีย มีโต๊ะมีถาด ใส่เสื้อเก่า ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ป้าก็ไม่เคยอุดหนุนเขานะ แต่ส่วนมากเขาก็เอามาให้กิน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ลำลูกกาคลอง 2 ซอยลำลูกกา 13 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อพบ นายโยธิน มาพบพันธ์ อดีตนักแสดงหลายเรื่อง อาทิเช่น นางนาค, สะใภ้พระโขนง, พยัคฆ์ยี่เก, ชาติพยัคฆ์คมนักเลง, ทองเอกหมอยาท่าโฉลง, ฤทัยบดี, พี่นาค, ทองดีฟันขาว และอีกหลาย ๆ เรื่อง

นายโยธิน กล่าวว่า ตอนนี้เป็นผู้ช่วยแฟนขายน้ำพริก รับเขามาขาย กระปุกละ 20 บาท 45 บาท ช่วงนี้ไม่มีงานแสดง ส่วนมากก็ขายไม่ค่อยหมด ได้วันหนึ่งตก 100-200 บาท ช่วงนี้ไม่มีงานแสดงเลย ชีวิตก็ลำบาก ห้องที่อยู่นี้เป็นห้องของเพื่อนแฟนที่ให้มาอยู่ เสียแต่ค่าน้ำค่าไฟเท่านั้นเอง

นายโยธิน กล่าวตอ่ว่า ถามว่าลำบากไหมก็ลำบาก ไม่มีเงิน ส่วนโรคประจำตัวก็มีเบาหวานความดัน ก็กินยาทุกวันทุกเดือน ถึงตัวเองแสดงหนังมามากกว่า 20 ปี อาการป่วยก็เพิ่งเป็นมาได้ 6 เดือนนี้เอง

ส่วนงานแสดงก็ห่างหายมา 1 ปีแล้ว ตอนนี้ก็อยากจะให้ช่วยเรื่องงานมากกว่าอยากจะแสดงหนัง เพราะจะทำให้เราฝึกพูดด้วย หากจะพูดบทก็พอได้ ส่วนเพื่อน ๆ นักแสดงที่เคยแสดงหนังด้วยกัน ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมบ้างเลย แต่ก็เคยทำงานกับเข้มอัศวินช่อง 7 ส่วนเพื่อนดาราที่มาเยี่ยมก็ยังไม่มี

อยากมีงานทำ คือทำงานแบบ extra ไป ๆ มา ๆ ได้ ทุกวันนี้ถามว่าท้อไหมท้อ ท้อไม่มีเงิน แต่ไม่อยากตาย ใจไม่ไม่ถึง ถามว่าเบื่อไหมก็เบื่อ ส่วนไปขายน้ำพริกก็ตื่นประมาณ 04.00 น. แล้วแต่บางวัน บางครั้งก็เวลา 06.00 น. ส่วนเลิกขายก็ประมาณก่อนเที่ยงทุกวัน

ส่วนวันนี้เลิกเร็วเนื่องจากแฟนต้องเข้าโบสถ์ ส่วนลูก ๆ ก็มีครอบครัวอยู่ต่างประเทศ กับเมียเก่า แต่ก็ไม่เคยมาเยี่ยม เขาอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลูกอีกคนหนึ่งก็รับราชการอยู่ที่แม่กลองแต่ไม่สนิทกัน

ไม่ขออะไรมาก ทุกวันนี้อยากมีงานทำมากกว่า บางคนเคยเห็นลุงแสดงก็ช่วยซื้อช่วยสนับสนุน ที่สำคัญคือการไม่มีเงินไม่มีงานก็แย่ แต่ก่อนลุงก็เป็นช่างภาพนิตยสารกรังด์ปรีเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ แต่ตอนนี้เพื่อนก็เสียชีวิตไปแล้ว