ยังไม่จบง่ายๆ สำหรับมหากาพย์ทวงเงิน 2 ล้านบาท ของนางแบบคนดัง ลูกหมี รัศมี ในฐานะเจ้าหนี้ ที่ล่าสุด ทนายฝั่งของลูกหนี้ ปู มัณฑนา ออกมายกตัวอย่างเรื่องการกราบเท้าขอโทษ ที่ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเป็นการปูทางแนะนำให้เจ้าหนี้ทำเพื่อเป็นการขอโทษที่ออกมาทวงหนี้ผ่านสื่อหรือไม่ ล่าสุดในงาน “Miss Earth Thailand 2024” ลูกหมี รัศมี ที่มาร่วมงานก็ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวไว้ว่า
วันนี้เหนื่อยมั้ยกับเรื่องที่เกิดขึ้น? “ถามว่าเหนื่อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่แถลงข่าวตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน จริงๆ ก็ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะว่าพูดร้อยลูกหมีก็ยังพูดเหมือนเดิม เพราะว่าพูดความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและไม่ตาย และหน้าตาลูกหมีก็สดชื่นสดใสนะคะ และไม่มีความกังวลใดๆ และคนที่พูดโกหก พูดไม่เป็นความจริง เขียนบทละครเพิ่ม เขาก็จะมีความทุกข์ด้วยตัวของเขาเอง ถึงจะดิ้นไปทางไหน สิ่งที่มันไม่เป็นความจริงมันก็จะกลับมาทำร้ายตัวเองไม่วันใดก็วันหนึ่ง ลูกหมีเชื่อว่าสังคมก็รับทราบข่าวสารและตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว มันเป็นเรื่องของอีกฝ่ายมากกว่า ความทุกข์ใจอยู่ที่ใคร สำหรับลูกหมีคิดว่าพักเรื่องเครียดๆ แล้วมามุ่งทำงานดีกว่า มาออกกำลังกายดูแลตัวเองให้มากขึ้น ตอนนี้นอนอิ่มเต็มที่ทุกวัน”
ย้อนไปวันที่นัดไกล่เกลี่ย แต่พอรู้ว่าจะไม่ต้องไปแล้วรู้สึกยังไงบ้าง? “วันนั้นที่เราแถลงข่าวที่ช่อง 8 เสร็จก็ไปทานข้าวกับทนายกุ้งและอาจารย์เดชาก็ตามมา ลูกหมีเองยังนั่งคิดตัวเลขว่าเราจะจบให้เขาตามสิ่งที่ถูกต้องได้ที่เท่าไหร่ เช็คที่ลูกหมีได้มาคือ 2 ล้านกับสัญญาเงินกู้ ลูกหมีบอกหลังวันที่ 2 มีนาคม ทางฝั่งนู้นโอนเงินกลับมาให้ลูกหมี 220,000 บาท เป็นเงินที่เขาโอนกลับมา ลูกหมีคิดว่าเต็มที่อยากให้ที่ 1.8 ล้านเหมือนเดิม ส่วนในเรื่องของเงินบัญชีที่เข้ามาลูกหมีโอนให้เขาไป 4 ล้าน แล้วเขาโอนกลับมา 2.6 ล้าน ลบกันเหลือ 1.4 ล้าน และสิ่งที่จะพูดคือว่า แล้วถ้าทนายประมาณพูดว่า มันจะมีดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมายกับผิดกฎหมายในนั้น ถามว่าลูกหมีจะไม่ได้ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมายบ้างเลยเหรอ มันก็ต้องมี กลายเป็นว่าลูกหมีไม่ได้อะไรเลย กลายเป็นว่าตั้งแต่ลูกหมีโอนเงินให้เขาตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนจนถึงปัจจุบัน ลูกหมีได้กลับมา 1.4 ล้าน ลูกหมีไม่ได้อะไรเลย มันก็จบที่ตัวเลข 1.8 ล้าน
แต่วันที่โรงพักทองหล่อที่ลูกหมีให้ 1.4 ล้าน เพราะบอกแล้วว่าตัดความรำคาญ ตัดปัญหาให้จบๆ ไป แต่ก็ไม่ยอม แล้วก็บอกเองว่าตัวเองมีเงิน สามารถไปกดเงินเองได้เลย ผมมีเงินพร้อมที่จะโอนตลอดเวลา แต่กลายเป็นวันไกล่เกลี่ยก็ไม่สำเร็จ เงินก็ไม่โอน แล้วก็มาฟ้องดำเนินคดีลูกหมีกลับ สิ่งที่เห็นเลยก็คือเขาก็น่าจะไม่มีเงินให้เรา ถึงบิดไปทางอื่น ดิ้นไปทางอื่น ถ้าคนมีเงิน ระดับนี้ 1.4 ล้านก็ให้ได้ แต่พูดแล้วก็ทำไม่ได้ พูดทุกครั้งทำไม่ได้สักครั้งเลย แล้วลูกหมีก็พูดเสมอว่า อย่างเคสลิลลี่ 7 หมื่น 1 เดือนยังไม่ให้เขาเลย แสดงว่าเส้นทางการเงินคุณเป็นอย่างไร 7 หมื่นคุณยังให้เขาไม่ได้เลย และลิลลี่ 6 แสน 2 ปี และผู้เสียหายท่านอื่นๆ ระยะเวลาเป็น 2-3 ปีตลอดเลย แสดงว่าคุณเป็นคนอย่างไร ประชาชนก็คงจะรับทราบตามความเป็นจริงอย่างที่เห็นค่ะ”
ล่าสุดได้เห็นที่ อ.ประมาณ ออกรายการไหม? “ก็เห็นทนายประมาณพูดออกรายการ แต่เขาไม่ได้ให้ลูกหมีไปกราบขอโทษเขาหรอกค่ะ เขายกตัวอย่างว่า ถ้าเกิดท่านเสรีจะให้ขอโทษ ต้องไปกราบเท้า ถ้าถามว่าลูกหมีก็ยกตัวอย่างกลับไป ถ้าจะให้ลูกหมีไปกราบ พี่ๆ คิดยังไงคะ พี่น้องประชาชนจะไปกราบขอโทษลูกหนี้หรือเปล่า สำหรับลูกหมีก็คงไม่ทำแบบนั้น และก็ไม่แลกกับสิ่งที่ต้องทำกับคนประเภทนี้ ก็คงไม่แลกค่ะ เราก็คงอยู่เฉยๆ ของเรา เราก็เป็นเจ้าหนี้ของเราต่อไป ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของกฎหมายค่ะ เพราะว่าวันที่ 15 ตอน 4 โมงเย็น ฝั่งนู้นเขาไปแจ้งความกับลูกหมี คดีที่ 1 คือหมิ่นประมาททางโฆษณา คดีที่ 2 คือคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ร้อยเวรโทรมาในวันที่ 15 ตอนหัวค่ำ พอทราบข่าวก็ตกใจว่าดิฉันเป็นเจ้าหนี้คนแรกที่โดนลูกหนี้ฟ้องกลับค่ะ (หัวเราะ) เราก็อึ้งมาก มีคนแบบนี้ คิดแบบนี้ เพราะลูกหมีพูดเสมอว่า วิธีคิดของเขา ทัศนคติในการเป็นลูกหนี้ที่แย่มาก และไม่ประเมินตัวเอง และยังคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ ทำอะไรก็ได้ พลิกคดีก็ได้ คิดว่าตัวเองเก่ง คนเราไม่มีใครเก่งที่สุดค่ะ เดี๋ยวมันก็จะตายน้ำตื้น”
หลังจากนี้ต้องดำเนินการในขั้นตอนไหนบ้าง? “ขั้นตอนต่อไปลูกหมีจะให้ทนายกุ้งเป็นคนดูแลเรื่องรูปคดี ส่วนทนายเดชาท่านก็ช่วยดูแลลูกหมีมาโดยตลอด เพราะเราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านก็ให้ความเมตตา เพราะลูกหมีกับพี่กุ้งเป็นเพื่อนกัน เป็นคนที่เรียน ป.เอกด้วยกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ให้ทุกอย่างให้ทนายเป็นคนช่วยตัดสิน เราฟ้องเขาเริ่มต้นคือคดีเช็คเด้ง มันเป็นคดีเช็ค จริงๆ เราก็แจ้งความเป็นคดีอาญาก็ได้ แต่เราเลือกที่จะทำให้เบาที่สุด ไม่ได้คิดเจตนาจะทำให้ร้ายแรง แต่สิ่งที่ร้ายแรงเกิดขึ้นจากตัวเขาเอง และทางฝั่งนู้นพูดเสมอว่าเอาเงินลูกหมีไปลงทุน เขาพูดน่าจะเป็น 10 ครั้ง แต่ถ้าเขาคิดว่าเป็นการลงทุน เราก็อาจจะทำตามเขาก็ได้ เดี๋ยวรอดูรูปคดี เราจะเปลี่ยนจากคดีเช็คเป็นคดีฉ้อโกงหรือเปล่า”
เคยเห็นผลิตภัณฑ์ของเขาหรือเปล่า? “หุ้นส่วนของลูกหมีเขาโทรมาครั้งแรก เขาบอกเขาทำกระเป๋า เขาเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจกระเป๋า ส่วนผลิตภัณฑ์เป็นคดีของอ้อมค่ะ และมีผู้เสียหายที่เพิ่มขึ้นมาอีกท่านหนึ่ง เป็นผลิตตุ๊กตาของเล่น รูปแบบทุกอย่างจะเหมือนกันหมด ไม่หนีกันมากมาย อยากจะบอกตรงนี้ ใครที่เป็นผู้เสียหายที่ยังไม่ออกมาสามารถติดต่อลูกหมีได้เลย แล้วจะเก็บเป็นความลับ ไม่ออกสื่อแน่นอน ถ้าเกิดพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย อยากจะหยุดให้บุคคลท่านนี้ ประเภทแบบนี้ไปทำร้ายท่านอื่นต่อ สามารถโทรหาลูกหมีได้เลยนะคะ ลูกหมีมีทั้งเพจเฟซบุ๊กและไอจี สามารถทักเข้ามาได้เลย ไม่ต้องออกสื่อ เดี๋ยวลูกหมีจะรับเรื่องให้เงียบๆ ค่ะ”
หลังจากนี้จะไปศาลเมื่อไหร่? “ตอนนี้เรื่องไปศาลต้องปรึกษาทนายกุ้งค่ะว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นยังไง เพราะว่าตั้งแต่วันที่ 16 ทางตำรวจก็ยังไม่ได้โทรหาให้เราไปเซ็นอะไรต่างๆ เลย ส่วนฝั่งเราจริงๆ ทำเอกสารเรื่องยื่นฟ้องเสร็จตั้งนานแล้ว แต่เราประนีประนอมจนถึงที่สุด เพราะเราไม่อยากทำร้ายใคร แต่ถ้าใครอยากให้เราทำร้าย หรือเขาไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ เราก็ต้องปกป้องตัวเอง และดำเนินคดีตามกฎหมายค่ะ”
ลึกๆ เราอยากได้เงินคืนไหม? “ลึกๆ แล้วตั้งแต่ 1 ม.ค.เลยค่ะ เพราะลูกหมีมีความเดือดร้อนทั้งครอบครัวและส่วนตัว ทุกคนมีความเดือดร้อนที่แตกต่างกัน แต่เขาประเมินสถานการณ์ผิด เขาก็ไม่จ่ายตั้งแต่เช็คเด้งใบที่ 1 เราอยากได้เงินคืนเท่านั้น และเราก็ให้โอกาสเลื่อนมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่ได้เงิน”
ที่ทนายฝั่งนั้นบอกว่ามีการโอนมาให้เราแล้ว 8 แสน? “คือการโอนกลับ โอนจริงอยู่แล้วค่ะ เพราะเขาติดหนี้เรา แต่คำที่เขาพูดและเขาโอนให้เรามันเป็นสิ่งที่เขาพูดและทำให้เรา ลูกหมีจะไปบีบบังคับให้เขาโอนเท่าไหร่ มันบังคับไม่ได้ บังคับได้คือตามเช็ค ลูกหมีพูดตามหลักฐานที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 1 ม.ค. เขามีโอนกลับมาให้เราจริงค่ะ แต่ที่ตกลงกันคือตามรูปเช็คค่ะ เช็ค 1 ล้านเขาไม่จ่าย เช็ค 9 แสน เขาไม่จ่าย เช็ค 8 แสนเขาไม่จ่าย แต่ส่วนที่เขาให้ผลกำไรเรา เขาให้มาจริงค่ะ เราก็พูดเรื่องจริงหมดเลยค่ะ”
เรียกว่ากำไร ไม่ใช่ดอกเบี้ยใช่ไหม? “จะเป็นดอกเบี้ย หรือกำไรมันก็คือตัวเดียวกันค่ะ แต่เขามาเอาเงินเราแล้วไปนำเสนอ คือลูกหมีไม่ใช่อยู่ดีๆ เอาเงินตัวเองไปนำเสนอว่ามาเอาเงินลูกหมีไปสิ แต่เหมือนคนเดือดร้อนเงินมาเอาเงินเรา และมานำเสนอเรา และมาทำร้ายเรา เอากฎหมายมาเป็นข้ออ้างว่าเราเรียกดอกเบี้ยเกิน คดีมันพลิก สิ่งที่เขาพูดมันกลายเป็นเราโดนยัดเยียด แต่สิ่งที่ลูกหมีคิดตั้งแต่ ก.พ.-มี.ค. ก็คือการกระทำแบบนี้เพราะเขารู้กฎหมาย และเขาทำแบบนี้มายาวนาน และเขาทำกับท่านอื่นๆ อีก แสดงว่าเขามีเจตนาไม่ดี แต่เราไม่เคยให้ใครยืมเงิน ไม่เคยไปปล่อยเงินกู้ให้ใคร และที่บอกว่าร้านแว่นตา เขาก็บอกว่าลูกหมีไปปล่อยกู้ร้านแว่น ซึ่งไม่ได้เป็นความจริง อันนั้นคือลูกหมีลงทุนจะสร้างแบรนด์ร้านแว่นชื่อ LR ก็คือลูกหมี รัศมี แต่เขามายัดเยียดเรื่องไม่จริงให้ลูกหมี”
ที่เขากล่าวหาเราแบบนี้ จะฟ้องหมิ่นกลับไหม? “เรื่องที่เขากล่าวหาเราหลายๆ เรื่อง เดี๋ยวให้ทนายกุ้งเป็นคนจัดการดีกว่าค่ะ”
จะรื้อเรื่องเช็คเด้งมาเป็นคดีไหม? “ถ้าสำหรับตัวลูกหมีก็ยังไม่ได้คุยกับทนายกุ้ง ทนายเดชามากมายนะคะ แต่ถ้าคุณเล่นเกมนี้ แล้วบอกว่าคุณเอาเงินลูกหมีไปลงทุน เดี๋ยวลูกหมีเปลี่ยนเป็นคดีฉ้อโกงได้เลยค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่ะ (ยิ้ม)“
รู้สึกยังไงที่เราก็พยายามขอโทษแล้ว แต่ล่าสุดเขายกตัวอย่างว่าให้กราบเท้า? “การที่เขายกตัวอย่างแบบนี้ ลูกหมีรู้สึกว่ามันไม่งาม ไม่มีใครเขาทำกันหรอกค่ะที่ต้องไปกราบเท้าลูกหนี้ การกระทำของลูกหนี้ก็ไม่เคยตรงต่อเวลา เป็นลูกหนี้ที่แย่มากๆ เป็นพฤติกรรมที่แย่ ไม่เคยเห็นมาก่อน ลูกหมีคงไม่ลดตัวไปกราบลูกหนี้ลักษณะแบบนี้หรอกค่ะ ไม่จำเป็น และถึงจะใช้หนี้เสร็จแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไหว้แล้วค่ะกับคนแบบนี้ เพราะคำพูดตอนยืมบอกว่าไว้ใจพี่เถอะ พี่เชื่อถือได้ พี่การันตี แต่พอเรื่องเกิดขึ้นคือมันกระจอกมาก (หัวเราะ) ลูกหมีทำงานใหม่ได้ค่ะ เงิน 2 ล้าน แต่ถึงจะ 5 ปี ลูกหมีก็จะรอเงินก้อนนี้ค่ะ เพราะมันเป็นเงินของลูกหมีโดยสุจริต และช่วงนี้ลูกหมีไม่ได้โฟกัสเรื่องตรงนี้แล้ว เพราะลูกหมีเอาเวลาไปดูแลสุขภาพตัวเอง และทำมาหากินดีกว่า ลูกหมีสร้างแบรนด์หมอนยางพารารำไทย บาย รัศมี ขึ้นมา เริ่มได้ 10 วันแล้ว เอาสุขภาพ เอาความสุขไปเจอคนดีๆ ดีกว่า และคนประเภทแบบนี้ ลูกหมีเชื่อว่าตอนนี้ชดใช้กรรมอยู่ เพราะกรรมที่คุณสร้างมา 10 ปี มันอาจจะไม่เห็นผลที่ผ่านมา แต่วันนี้ลูกหมีเชื่อว่ามันเห็นผลแล้ว”
เชื่อไหมว่าเขาไม่ได้ถังแตกจริง? “เท่าที่ทราบนะคะ มันแตกมานานแล้วนะคะ (หัวเราะ) เพราะถ้าลูกหมีไม่มีข้อมูลตั้งแต่ ม.ค. ลูกหมีก็ไม่ถึงขั้นต้องมาแถลงข่าวหรอก ที่แถลงเพราะมันเป็นเงินของลูกหมีที่ต้องใช้ ที่แถลงเพราะการกระทำแบบนี้มันเป็นภัยกับสังคม ลูกหมีเห็นผู้เสียหายมากพอแล้ว 4 คน แต่แถลงข่าวเสร็จผู้เสียหายเพิ่มมาอีก 6 คน และทุกวันนี้เวลาไปไหนยังมีคนพูดเรื่อยๆ ว่าฉันก็โดน ฉันก็โดน แต่คนเหล่านี้อาจจะไม่ได้ออกมาเพราะเป็นคนในสังคม และตัวเงินก็แค่หลักแสน หรือผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็ไม่ได้อยากออกมาพูด ลูกหมีก็ขอเป็นตัวแทนค่ะ อยากให้เขาหยุดพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเกิดมาชาตินึงก็ทำเพื่อสังคมและเป็นอุทาหรณ์จริงๆ ว่าอย่าให้ใครยืมเงิน คนที่หน้าตาดี บุคลิกดี ดูภาพลักษณ์ดี หน้าที่การงานดี ปากหวาน เราต้องมีสติค่ะ เพราะตอนนั้นลูกหมีไม่มีสติ และเป็นบทเรียนที่ลูกหมีพลาด การที่เขามายืมเงินเราไม่ว่าจะมีข้ออ้างใดๆ ว่าเอาเงินไปให้เพื่อน เราต้องมีสติว่าถ้าเกิดเขามีจริง เขาไม่มายืมเราหรอก นี่คือข้อที่ลูกหมีพลาด ถึงได้อยากออกมาให้สังคมรับรู้ว่าระวังตัวกันนะคะ อย่าให้ใครยืมเงินค่ะ”
เป็นเคสที่หนักสุดในชีวิตเลยไหม? “ก็เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตค่ะที่พลาด ครั้งแรกตอนอายุ 28-29 ที่เราเคยมีครอบครัว และไม่ประสบความสำเร็จ เราก็มองว่าเราพลาดที่ไม่ประสบความสำเร็จทางด้านความรัก และครั้งนี้ก็พลาดที่ไว้ใจคน ประเมินคนผิด ไม่ได้เช็กข้อมูล เหมือนไปให้เกียรติคนผิด แต่ก็เชื่อว่าความดีที่ลูกหมีทำมาตลอด และเงิน 2 ล้านนี้ ลูกหมีก็ตั้งใจทำงานใหม่ตั้งแต่วันนี้ คิดว่าสักปีนึงลูกหมีก็คงได้เงินกลับมา 2 ล้านค่ะ“
ถ้าพฤติกรรมของเขาเป็นแบบนี้ซ้ำๆ เราสามารถฟ้องคดีฉ้อโกงประชาชนได้ไหม? “ตอนนี้มีอยู่ 3 ท่านที่เป็นคดีฟ้อง และท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้อยากออกสื่อ ก็แจ้งมาทางลูกหมีได้เลย คุณแค่มีแชตไลน์ในการคุยกับเขามาปรึกษาเราหรือทนายกุ้ง จริงๆ ก็มีคนแนะนำว่าถ้าเกิน 10 คนขึ้นไปก็เป็นคดีฉ้อโกงไปที่กองปราบได้เลย”
คาดว่าจะได้เงินคืนกี่เปอร์เซ็นต์? “ตั้งแต่แถลงข่าวก็คิดมาตลอดว่าเงินคงได้กลับอยู่แล้วค่ะ ไม่ 2 ปี 5 ปีก็ต้องได้ ก็จะรอค่ะ ส่วนที่ว่าจะได้เร็วก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะ เพราะไม่เคยได้ยินว่าเขามีเงิน”
แต่เขาบอกว่ามีที่ดิน? “ที่ดิน 180 ล้าน ตรงนั้นตรงนี้ แต่มันเป็นของคนอื่นหมดเลยหรือเปล่าคะ (ยิ้ม)”
ยึดทรัพย์มาคืนเราได้ไหม? “ทรัพย์ก็ไม่รู้จะมีหรือเปล่านะคะ ก็เลยไม่คิดตรงนั้น (ยิ้ม)”
เขาบอกว่าถ้าคนที่ออกมาพูดจะไม่ได้เงินคืน? “ที่ทางนั้นพูดว่าใครที่มาออกสื่อจะไม่ได้เงิน แต่ใครที่ไม่ได้ออกจะได้เงิน แต่ที่ลูกหมีดูแล้วทั้งออกและไม่ออกก็ไม่เห็นใครได้เงินสักคนเลย ก็ย้ำอีกครั้งว่าใครที่เป็นผู้เสียหาย หรือเกี่ยวข้องกับฝ่ายนู้น มาแจ้งลูกหมีได้เลยค่ะ หรืออินบ็อกซ์มาได้เลย ลูกหมีจะเก็บข้อมูลเป็นเรื่องส่วนตัวกับทางทนายกุ้งนะคะ เราถือว่ามาถึงจุดนี้แล้ว ก็เหมือนทำบุญร่วมกัน เพราะลูกหมีก็เจอศึกหนักว่ากลายเป็นเจ้าหนี้อยู่ดีๆ มาโดนฟ้อง ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ผู้เสียหายท่านไหนถ้ามีความเมตตาลูกหมี สงสาร หรืออยากให้กำลังใจลูกหมี ก็ทักอินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ เอาแค่แชตไลน์มาคุยกับลูกหมี กับทนายกุ้ง เพื่อที่จะเป็นหลักฐานที่ดีต่อไป แต่ถ้าพี่ฝ่ายนู้นเขาอยากจะจบ ก็พูดตลอดว่าออกมาพูดความจริงนิดๆ หน่อยๆ ขอโทษกันเล็กน้อยเบาๆ ก็พอ ประชาชนคนไทยเขาก็พร้อมที่จะให้อภัย แต่การที่คุณจะไปยื่นฟ้องอีก ระยะเวลามันก็ออกไปอีก 3-6 เดือน และคุณบอกว่ามันทำร้ายลูกคุณหรือครอบครัว แต่ระยะเวลาที่มันยืดออกไปนั่นแหละ คือการทำร้ายของจริง ถ้าคุณจบตั้งแต่วันไกล่เกลี่ย มันก็จบไปตั้งนานแล้วค่ะ เงินแค่ 2 ล้านกลายเป็นเรื่องราวระดับประเทศออกมาเป็นเดือนๆ แล้ว ทุกคนก็เหนื่อยกับเหตุการณ์แบบนี้ กับคนแบบคุณค่ะ”