เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 สน.บางรัก รับแจ้งเหตุวิสามัญฆา-ตกรรมบริเวณหน้าร้านซิมพลี สาวหล่อ บางกอก เลขที่ 43/1 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ธเรศ วงศ์วรานุรักษ์ รอง ผกก.ป.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางซอย ริมถนนตรงข้ามร้านซิมพลีฯ พบร่างนายมงคล กมลสวัสดิ์ อายุ 46 ปี นอนคว่ำจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สามส่วน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดใต้ราวนมซ้าย กลางลำตัว ใต้สะดือ และด้านหลัง รวม 6 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้นสโตเกอร์ ขนาด 9 มม. แบบแม็กกาซีน ตกอยู่ 1 กระบอก มีกระสุนในแม็กกาซีน 5 นัด และในรังเพลิงอีก 1 นัด หน้าร้านพบรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1ขจ 1980 กรุงเทพมหานคร

ซึ่งเป็นรถของผู้ตายจอดเปิดเบาะท้าย ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนและหัวกระสุนปืนอีกกว่า 10 จุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจนอกเครื่องแบบของ สน.บางรัก 2 นาย ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ สอบสวนทั้ง 2 นาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรับแจ้งจากพนักงานในร้านซิมพลีฯ ว่ามีชายเมาสุรามาอาละวาดหน้าร้าน จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบชายดังกล่าวอาละวาดอยู่หน้าร้านจริง โดยจอดรถ จยย.อยู่หน้าร้าน จึงขอตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมายใต้เบาะรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อจะขอตรวจค้นในตัว ผู้ตายกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ไม่ยั้ง พวกตนต้องหลบและยิงตอบโต้กลับไปเช่นกัน หลังสิ้นเสียงปืนพบว่านายมงคล ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

จากนั้นพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าพนักงานอัยการได้นำตัวตำรวจทั้ง 2 นาย ไปสอบสวนที่ สน.บางรัก พร้อมกับตรวจคราบเขม่าดินปืน ที่มือ ตรวจสอบลายนิ้วมือบนอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก และพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ตรวจสอบ เพื่อเปรียบเทียบกับคำให้การต่อไป ด้านนายสุขสม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี พี่ชายผู้ตาย ให้การว่า น้องชายทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร เพิ่งออกจากงานมาได้ 3 เดือน มีลูกกับแฟนเก่า 4 คน แต่แฟนคนปัจจุบันที่คบหากันมานาน 7 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนมูลเหตุเกิดจาก น้องชายจับได้ว่าแฟนสาว

ซึ่งทำงานเป็นพีอาร์ ได้มาติดสาวทอม ที่ร้านเกิดเหตุ คาดว่าวันนี้คงตามไปเจอแฟนสาวที่ร้าน จึงเกิดเรื่อง ส่วนปืนที่พบเป็นของน้องชายหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ตำรวจทำแปลก ไม่ยอมให้ญาติเข้าไปดูศพ และห้ามถ่ายรูป อยากถามตำรวจว่ากระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ อยากเรียกความยุติธรรมคืนให้น้องชายด้วย สำหรับน้องชายเคยมีคดีร่วมกันฆ่-าเมื่อกว่า 10 ปีก่อน แต่ศาลยกฟ้องไปแล้ว หลังพลิกศพ เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป