เรียกได้ว่าผ่านช่วงมรสุมดรามาร้อนมาไม่ได้พักเลย สำหรับพิธีกรหนุ่ม พีเค ปิยะวัฒน์ วันนี้ (17 ส.ค. 67) ได้กลับมารับหน้าที่พิธีกรเป็นครั้งแรกหลังจากที่เจ้าตัวได้ไปพักเบรกจากงานมาช่วงหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับสื่อเผยว่าตนนอนฝันถึงงานพิธีกรทุกคืน เพราะรู้ตัวว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดี และวันนี้ขอไม่ตอบคำถามพาดพิงถึงใคร

ที่มา : djpk

โดย พิธีกรหนุ่ม พีเค ปิยะวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังไม่ได้ทำหน้าที่พิธีกรในช่วงที่ผ่านมาว่า “ผมไปยืนดูอีเวนต์ที่คนอื่นทำหน้าที่พิธีกร หลายงานมากในระหว่างที่ผมไม่ได้ทำ ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นเรา จะเสริมตรงนี้จะสามารถทำให้สนุกกว่านี้ได้ แต่มันยังไม่ใช่โอกาสของผม ผมเข้าใจครับ และขอบอกว่าที่เห็นจับหัวใจและเวทีก่อนขึ้นไปทำหน้าที่พิธีกรในวันนี้นั้น คือพูดกับตัวเองว่านี่คือร่างกายเรา นี่คือหัวใจเรา วันนี้ได้กลับมาแล้ว จะทำหน้าที่ให้ดีเต็มร้อยให้ร้อยยี่สิบเลย หน้าที่พิธีกรอีเวนต์สำหรับผมสำคัญมาก มีบ้านมีรถได้ มีชีวิตที่ดีได้ก็เพราะสิ่งนี้ และรู้สึกว่าทำมาเยอะจนสามารถสอนคนอื่นได้

ก่อนหน้านี้อย่างที่ทุกคนทราบพอมีปัญหาเกิดขึ้น เจ้าของงานอีเวนต์ หรือออแกไนเซอร์ก็อาจจะสูญเสียความมั่นใจจากผมไป ผมก็รู้ตัวว่าผมพลาด แต่ความสามารถบนเวที และหน้าจอทีวีของผมยังเก่งเหมือนเดิม ถ้าถามว่าจะหลุดจากวงการบันเทิงไหม ตอบว่าไม่ครับ เพียงแต่ต้องใช้เวลา เพราะข่าวที่ออกไปมันก็ดูไม่ดี ผมเข้าใจทุกคนที่ต่อว่าผม ผมก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดี ในขณะที่หายไปพักเบรก ผมแอบน้อยใจว่าคนไทยทำไมไม่แยกแยะความสามารถและชีวิตส่วนตัว แต่ผมก็ยอมรับในสิ่งที่ผมทำ วันนี้ได้กลับมาทำหน้าที่พิธีกรอีกครั้งแล้ว ผมได้ตั้งใจทำให้เต็มที่ วันนี้ พี่อั๋น ภูวนาท มานั่งดูเป็นกำลังใจ ผมถาม พี่อั๋น ว่าผมทำงานโอเคไหม ซึ่ง พี่อั๋น บอกว่าไม่เห็นต้องถามเลย ผมได้ตั้งใจทำเต็มที่โชว์ให้เขาดูแล้วพิธีกรที่ดีเขาทำกันอย่างนี้นะ ต่อจากนี้จะกลับมาลุยงานเต็มที่ และก็จะทำงานทีวีเหมือนเดิม”

และเผยอีกว่านอกจากจะหลุดจากพิธีกรรายการคุยแซ่บโชว์ และมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้ว ก่อนหน้านี้งานอีเวนต์ก็ยกเลิกทั้งหมดเลย “ผมได้ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ผมพลาด ถ้าออแกไนซ์ไหนยังเห็นความสามารถผมอยู่ ผมพร้อมเสมอ แม้โอกาสนั้นจะหายไป 3-4 เดือนก็ตาม ตอนนี้มีหลายที่ติดต่อมา รู้สึกดีใจมาก ผมรู้ตัวว่าผมผิด แต่ไม่คิดว่าจะกระทบขนาดนี้”

นอกจากนั้น พีเค ยังได้เผยอีกว่า “ผมไม่ได้มีการไปของาน แต่ถ้าใครอยากให้โอกาสผมก็ติดต่อมา แต่จะให้วิ่งไปของานไม่มีทาง ทำไม่เป็น ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา งานจะวิ่งเข้าหาเองตลอด ข่าวกระทบเราเต็มๆ แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป โชคดีที่มีแม่และพี่ชาย ซัพพอร์ต ถ้ามีโอกาสเข้ามาผมก็จะทำให้ดี ช่วงว่างที่ผ่านมาได้ทบทวนตัวเอง ได้มองจุดบอดตัวเอง ตอนนี้คือถ้าได้กลับเข้าไปคือพร้อมมาก และขอไม่ตอบคำถามที่พาดพิงถึงใคร บอกได้แค่ว่าตอนมีปัญหาเราใจดีกับทุกคน แต่พอมีปัญหามีอยู่แค่กำมือเดียวที่คอยอยู่ข้างเราจริงๆ”

ที่มา : djpk